กลับมาอยู่ในหนทางที่ควรจะเป็นเสียที! จอห์น เฮนรี่ เจ้าสัวชาวมะกัน "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล มั่นใจสโมสรจะหยุดตกเป็นข่าวฉาวรายวันบนหน้าหนังสือพิมพ์ กลับมาเริ่มสร้างชื่อเสียงโด่งดังบนสังเวียนลูกหนังเหมือนในอดีตเสียที หลังดวลเป้าดับ คาร์ดิฟฟ์ คว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ มาครองอย่างสุดระทึก ด้าน ทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสร รับลุ้นหนักหัวใจแทบวาย จนไม่กล้าลืมตาเชียร์ระหว่างการดวลเป้าด้วยซ้ำ

จอห์น เฮนรี่ เจ้าของทีมลิเวอร์พูล มหาอำนาจลูกหนังอังกฤษ แสดงความหวังว่า การคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ มาครอง จะเป็นการทำให้สโมสรหยุดเป็นข่าวพาดหัวเรื่องเหตุการณ์ต่างๆ ภายนอกสนามเสียที หลังจากพลพรรค "หงส์แดง" ดวลจุดโทษชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 3-2 หลังเสมอกันในเวลา 120 นาที 2-2 ในเกมชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ทัพ "เร้ด แมชชีน" จัดการยุติช่วงเวลาไร้แชมป์นาน 6 ปีลงได้แบบสุดหวาดเสียว โดยเฮนรี่ ที่นำกลุ่มเฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป เข้ามาซื้อสโมสรไปบริหารงานเมื่อเดือนตุลาคม 2010 เชื่อว่า นี่จะเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อมองจากบรรยากาศวุ่นวายทั้งหลายที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาของ ทอม ฮิคส์ และจอร์จ ยิลเล็ตต์ 2 อดีตเจ้าของทีม
 
 เจ้าสัวชาวมะกัน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสกาย สปอร์ตส์ว่า "มีหลายต่อหลายอย่างได้รับการบอกกล่าวและถูกเขียนถึงเกี่ยวกับเรื่องนอกสนาม ของลิเวอร์พูล มันจึงเยี่ยมมากที่ท้ายที่สุดแล้ว ก็ได้รับในสิ่งที่เราสามารถพูดถึงได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในสนามบ้าง เรามองสิ่งนี้เป็นก้าวย่างแรกในสิ่งที่เรากำลังพยายามทำให้สำเร็จ นำสโมสรกลับมาในที่ที่เคยอยู่ตามหน้าประวัติศาสตร์"
 
 เมื่อ ถูกถามว่า ผลการแข่งขันนี้จะเป็นข่าวใหญ่ในแดนลุงแซมหรือเปล่า เฮนรี่ ตอบว่า "ไม่หรอก! แต่มันเป็นวันที่สวยงามของพวกเรา ทุกคนในสโมสรมีความกดดันมหาศาล แต่ เคนนี่ ดัลกลิช ทำผลงานได้อย่างสุดยอดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามา"
 
 ด้านทอม เวอร์เนอร์ ประธานสโมสร เปิดเผยว่า เขาเกือบทนดูช่วงดวลเป้าตัดสินไม่ไหว "สิ่งสำคัญคือ พวกเราประสบความสำเร็จในบางสิ่งในฐานะสโมสร และสำหรับแฟนๆของเรา ผมภาคภูมิใจที่เราชนะ เพราะมันเป็นก้าวย่างแรก และเรากำลังตั้งตารอถ้วยรางวัลมากกว่านี้ในวันข้างหน้า"
 
"ผม ถึงกับต้องหยิกตัวเอง สำหรับแฟนๆ ทุกคนนั้น พวกเขาได้เห็นเกมฟุตบอลที่สุดโดดเด่น ผมคิดว่า เราเป็นทีมที่ดีกว่า ผมภูมิใจกับสโมสร และตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับแฟนๆ ที่เฝ้ารอดูอยู่ทั่วทั้งโลก ผมแทบไม่สามารถดูการยิงจุดโทษได้เลย ผมได้ยิง แต่ก็แทบไม่ได้ดู นี่นับเป็นความสำเร็จในระดับสูง (จากสิ่งที่ผมเคยประสบความสำเร็จมา) และการเข้าไปในห้องแต่งตัวแล้วเห็นว่าพวกนักเตะมีความสุขขนาดไหนนั้น มันเป็นความทรงจำที่ผมมี และอยากแบ่งปันให้กับแฟนๆเหลือเกิน"