ลิโอเนล เมสซี่ จะเก่งไปไหนหลังยิงคนเดียว 5 ลูก คริสเตียน เตลโญ่ กองหน้าดาวรุ่งตัวสำรองซัดอีก 2 ช่วยให้บาร์ซ่า ยำใหญ่ห้างยาเละ 7-1 โดยทีมเยือนมาได้ประตูตีไข่แตกจาก คาริม เบลลาราบี้ รวมผลสองนัด บาร์ซ่า เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 10-2 ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมนัดสอง เมื่อวันพุธที่ 7 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา

ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีมนัดสอง

วันพุธที่ 7 มีนาคม 2555

บาร์เซโลน่า (สเปน) 7 - 1 เลเวอร์คูเซ่น (เยอรมัน)

(รวมผลสองนัดบาร์ซ่าเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 10-2)

สนาม  : คัมป์นู

 
        บาร์ซ่าซึ่งเกมแรกบุกไปกำชัยได้ 3-1 เปิดรังปะทะกับเลเวอร์คูเซ่นโดยไร้อเล็กซิส ซานเชซและการ์เลส ปูโยลที่บาดเจ็บ นอกนั้นฟิตสมบูรณ์
 
        ส่วนห้างยาที่ชนะบาเยิร์นในลีกนัดล่าสุดบุกมาเยือนโดยปราศจากเวดราน ชอร์ลูก้า และมิชาเอล บัลลัคที่เดี้ยง
 
        เจ้าบ้านเล่นกันแบบสบายๆเนื่องจากตุนสกอร์เอาไว้ดี  แต่มีเสียวในนาทีที่ 10 จากจังหวะที่ลิโอเนล เมสซี่ทะลุไปรับลูกชิพในเขตโทษด้านขวาแล้วพักอกก่อนยิงมุมแคบถูกแบรนด์ เลโน่ปัดได้ เปโดรจึงเข้าซ้ำระยะแปดหลาถูกกอนซาโล่ คาสโตรเหยียดขาสกัดได้ทัน
 
        ถัดมาอีกสองนาที ซิมอน โรลเฟสไปเหนี่ยวอันเดรียส อีเนียสต้าหลังโดนแตะบอลหนีไปได้จึงโดนจดชื่อตามระเบียบ
 
        จากนั้นในนาทีที่ 24 เจ้าบ้านได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้าย ชาบีจึงตักไปหน้าประตูแล้วเคราร์ด ปิเก้สอดเข้าขวิดระยะหกหลา ทว่าเลโน่ปัดหลุดเสาสองได้เยี่ยม
 
        อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาแฟนบาร์ซ่าก็ได้เฮลั่นเมื่อแนวรับทีมห้างยาดันกันขึ้นมาสูงเลยถูกชาบีวางบอลยาวสวนให้เมสซี่หลุดเดี่ยวขึ้นกราบขวาโดยไม่ล้ำหน้าก่อนที่สตาร์อาร์เจนไตน์จะพาบอลเข้าชิพระยะ 16 หลาข้ามเลโน่ตุงตาข่ายงดงามเป็นสกอร์ 1-0 ของแชมป์เก่า
 
        หลังมีสกอร์ บาร์ซ่าก็ผ่อนเกมลงไปโดยเน้นเก็บบอลเอาไว้ แต่ถึงนาทีที่ 42 อีเนียสต้าควบบอลขึ้นมาไหลขึ้นฝั่งขวาให้เมสซี่ลากตัดเข้าไปซัดดื้อๆจาก 16 หลาส่งบอลเสียบเสาสองเพิ่มสกอร์ให้ทีมเมืองกระทิงนำ 2-0
 
        จากนั้นอีกอึดใจเดียว เมสซี่ก็ทิ่มบอลจากแถวสองเข้าเขตโทษด้านซ้ายให้เชส ฟาเบรกาสหลุดไปซัดติดเลโน่ที่ออกมาบล็อคได้ และแม้เปโดรจะตามไปเก็บตกระยะ 14 หลาก็ถูกนายทวารเลเวอร์คูเซ่นปัดได้อีก
 
        กระทั่งนาทีที่ 45 คาสโตรไปดักอีเนียสต้าล้มแถวริมสนาม จึงโดนจดชื่ออีกรายก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะยุติโดยบาร์ซ่านำสบาย 2-0
 
        ครึ่งหลังเจ้าบ้านกลับมาบุกใหม่ และแค่ห้านาทีฟาเบรกาสก็วางบอลยาวจากกลางสนามออกฝั่งขวาให้เมสซี่หลุดเดี่ยวโดยไม่ล้ำหน้าลากหนีดาเนี่ยล ชวาบบ์เข้าชิพจาก 14 หลาข้ามเลโน่ตุงตาข่ายเป็นแฮททริคที่พาต้นสังกัดหนีห่าง 3-0
 
        ถัดมาในนาทีที่ 53 บาร์ซ่าเปลี่ยนชาบีกับอีเนียสต้าออกไปพักให้เซย์ดู เกอิต้ากับคริสเตียน เตลโญ่ลงไปแทน แต่พริบตาเดียวเกือบโดนตีไข่แตกเมื่อเอเร็น เดอร์ดิย็อคสปีดไปรับบอลยาวทางกราบซ้ายสลัดหนีฮาเวียร์ มาสเคราโน่ไปซัดที่สุดเส้นหลัง แต่บอลกลิ้งผ่านปากประตูไป
 
        ถึงนาทีที่ 55 ทีมห้างยาเปลี่ยนนักเตะสองรายเช่นกันโดยส่งอังเดร ชูร์เล่กับคาริม เบลลาราบี้ลงไปแทนลาร์ส เบนเดอร์กับเดอร์ดิย็อค แต่นาทีเดียวก็โดนดีอีกเมื่อฟาเบรกาสผ่านบอลออกกราบซ้ายให้เตลโญ่โขกทำทางให้ตัวเองก่อนลากเข้าเขตโทษไปซัดผ่านเลโน่เข้าเสาไกลพาเจ้าบ้านนำ 4-0
 
        และแล้วในนาทีที่ 58 บาร์ซ่าก็ทำชิ่งกันในเขตโทษด้านซ้ายโดยเลโน่ออกมาถึงบอลแล้วแต่กลับปัดหลุดมือไกลเกินไปทำให้เมสซี่ตามไปจิ้มตุงตาข่ายสบายแฮพาแชมป์เก่านำขาด 5-0
 
        เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 62 ดาเนี่ยล อัลเวสลุยขึ้นมาทางขวาแล้วจ่ายยาวข้ามฟากไปให้เตลโญ่ซัดไม่ดีเท่าไหร่ แต่ยังผ่านจังหวะล้มตัวปัดของเลโน่ที่เกมนี้ออกทะเลเข้าประตูเป็นสกอร์ 6-0 ก่อนที่บาร์ซ่าจะเปลี่ยนมาร์ค มูเนียซ่า ลงไปแทนอาเดรียโน่เป็นตัวสำรองรายสุดท้าย
 
        นาทีที่ 67 เลเวอร์คูเซ่นส่งบาสเตียน อ๊อคซิปก้าลงเล่นแทนเรนาโต้ ออกุสโต้เป็นตัวสำรองรายสุดท้ายเช่นกัน แต่ก็ไม่อาจแย่งบอลไปจากการครอบครองของเจ้าบ้านได้
 
        อีกหกนาทีสุดท้าย ลิโอเนล เมสซี่ มาซัดประตูที่ห้าให้ตัวเอง นำห่างสุดกู่ 7-0 ก่อนที่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมห้างยา มาได้ประตูตีไข่แตกจาก คาริม เบลลาราบี้ จบเกมบาร์ซ่าจึงยำใหญ่ทีมจากเมืองเบียร์ 7-1 ลอยลำเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 10-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า  : บิคตอร์ บัลเดส , ดาเนี่ยล อัลเวส ,เคราร์ด ปิเก้ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ , อาเดรียโน่ (มาร์ค มูเนียซ่า น.64) , ชาบี (เซย์ดู เกอิต้า น.53)  , เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ , เชส ฟาเบรกาส ,เปโดร , ลิโอเนล เมสซี่ , อันเดรียส อีเนียสต้า  (คริสเตียน เตลโญ่ น.53)
สำรอง : โฆเซ่ ปินโต้  ,  เซร์กี้ โรเบร์โต้ , มาร์ค บาร์ตร้า  , อิซัค กวยก้า

เลเวอร์คูเซ่น : แบรนด์ เลโน่ , กอนซาโล่ คาสโตร , ดาเนี่ยล ชวาบบ์ , โอเมอร์ โทพรัก , มิชาล คาดเล็ช , สเตฟาน ไรนาร์ตซ์ , ลาร์ส เบนเดอร์ (อังเดร ชูร์เล่ น.55) , ซิมอน โรลเฟส , เรนาโต้ ออกุสโต้ (บาสเตียน อ๊อคซิพก้า น.67)  , สเตฟาน คีสลิ่ง , เอเร็น เดอร์ดิย็อค (คาริม เบลลาราบี้ น.55)
สำรอง : ฟาเบียน กีเฟอร์  , มานูเอล ฟรีดิช , มิชาเอล ออร์เตก้า , เอริค เซ็งก้า

ผู้ตัดสิน : สเวน อ็อดวาร์ โมน (นอร์เวย์)