เมสซี่เบิ้ลโทษ!บาร์ซ่าอัดมิลาน3-1ฉลุยชปล.
Posted 04/04/2012 by siamsport
ลีโอเนล เมสซี่ รับบทเพชรฆาตรสังหารคนเดียวสองจุดโทษช่วย "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เปิดคัมป์นู ต้อนเก็บชัยเหนือ "ปีศาจแดง-ดำ" เอซี มิลาน ไปแบบสุดมันส์ 3-1 รวมผลสองนัด บาร์เซโลน่า เข้ารอบด้วยผลรวม 3-1 ไปรอพบกับผู้ชนะระหว่างเบนฟิก้ากับเชลซี ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2 เมื่อคืนวันอังคารที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา
ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
วันอังคารที่ 3 เมษายน 2555
บาร์เซโลน่า (สเปน) 3 - 1 เอซี มิลาน (อิตาลี)
(รวมผลสองนัด บาร์เซโลน่า เข้ารอบด้วยผลรวม 3 - 1)
สนาม : คัมป์นู
นัดแรกทั้งสองทีมเจ๊ากัน 0-0 ที่ซานซีโร่ เกมนี้แชมป์เก่าจึงไม่อาจเสมอแบบมีสกอร์ได้เด็ดขาด แต่ได้เชส ฟาเบรกาสหายเจ็บกลับมา และชาบี เอร์นานเดซก็ฟิตตามคาด แต่อเล็กซิส ซานเชซมีชื่อเป็นตัวสำรองโดยอิซัค กวนก้าได้ออกสตาร์ตแทน
ส่วนมิลานมีปัญหาไร้มาร์ค ฟาน บอมเมลและติอาโก้ ซิลวาที่บาดเจ็บ แต่ได้อเลสซานโดร เนสต้าฟิตทันเวลา และจัดให้อเล็กซานเดร ปาโต้ที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยนั่งอยู่ข้างสนาม
เปิดฉากขึ้นมาทั้งสองทีมก็เดินหน้าเข้าใส่กันทันทีโดยปีศาจแเดงดำไม่ได้มีท่าทีหวั่นบาร์ซ่าแม้แต่น้อย
กระนั้นนาทีที่ 5 ลิโอเนล เมสซี่ก็สบโอกาสโต้กลับโดยลากบอลจากกลางสนามขึ้นมาแล้วได้เข่นในกรอบเขตโทษด้านซ้ายระยะ 16 หลา ทว่าคริสเตียน อับเบียติเซฟได้
นาทีต่อมา เจ้าบ้านน่าจะมีสกอร์อีกเมื่อดาเนี่ยล อัลเวสลุยขึ้นมาทางขวาจ่ายบอลเข้ากลางให้ฟาเบรกาสชิ่งเร็วเข้าเขตโทษสวย แต่เมสซี่ซัดมุมแคบเหน่งๆถากเสาไกลออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 11 เมสซี่มีพื้นที่กระชากบอลหลุดเดี่ยวขึ้นทางซ้ายเข้าเขตโทษได้แต่ไม่ยิงจังหวะแรกเลือกจ่ายเสีย กระนั้นแนวรับมิลานก็เคลียร์กันแย่ทำให้ดาวดังอาร์เจนไตน์ได้บอลในเขตโทษอีกรอบแล้วโดนลูก้า อันโตนินี่เสียบล้ม ผู้ตัดสินจึงเป่าเป็นลูกโทษพร้อมแจกใบเหลืองให้กองหลังทีมเยือน ก่อนที่เมสซี่จะบรรจงสังหารหนีมืออับเบียติได้สำเร็จพาเจ้าถิ่นนำ 1-0
โดยประตูดังกล่าวเป็นประตูที่ 50 ในรายการนี้ของเมสซี่ซึ่งสตาร์วัย 24 ปีทำสถิติยิงได้ถึงหลักครึ่งร้อยโดยมีอายุน้อยที่สุดอีกด้วย
ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 เมสซี่ได้ลูกผ่านจากฝั่งซ้ายซัดจากระยะ 18 หลา แต่เบาเกินกว่าที่จะผ่านอ้อมอกของอับเบียติ
ยักษ์กาตาลันพยายามหาทางเพิ่มสกอร์เพื่อความปลอดภัย แต่นาทีที่ 33 ก็มาเสียท่าจนได้เมื่อซลาตัน อิบราฮิโมวิชอดีตกองหน้าทำแสบแทงบอลทะลุช่องเยี่ยม เปิดทางให้อันโตนิโอ โนเชริโน่หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัลโวง่ายๆเข้าเสาสองพามิลานตีเสมอเป็น 1-1
เจ้าบ้านต้องเริ่มต้นเหนื่อยกันใหม่ และในนาทีที่ 38 ฟาเบรกาสก็ลองยิงไกล แต่อับเบียติตะปบอยู่มือ
ล่วงมาอีกสามนาทีจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของบาร์ซ่า เนสต้าก็ทำเสียลูกโทษอีกรายเมื่อไปดึงเสื้อเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ล้มทำให้ได้ใบเหลือง และจะถูกแบนพลาดเกมหน้าหากปีศาจแดงดำเข้ารอบได้ ก่อนที่เมสซี่จะสังหารตุงตาข่ายอีกเม็ดเปลี่ยนสกอร์เป็น 2-1 สำหรับแชมป์เก่า จบครึ่งแรกเจ้าบ้ายจึงนำหน้า 2-1
ครึ่งหลังมิลานเดินเกมรุกเต็มตัว แต่มาพลาดในนาทีที่ 53 จากจังหวะที่เมสซี่ยิงจาก 20 หลาแฉลบกองหลังมิลานแล้วบอลทะลักเข้าเขตโทษด้านซ้าย เปิดทางให้อันเดรียส อีเนียสต้าได้แปจากหกหลาเสียบเสาสองพาบาร์ซ่านำ 3-1
นาทีที่ 61 ทีมจากเมืองมะกะโรนีแก้ไขสถานการณ์ด้วยการเปลี่ยนคลาเรนซ์ เซดอร์ฟออกให้อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ลงบู๊ และนาทีเดียวก็เกือบเป็นเรื่องเมื่อเคราร์ด ปิเก้เตะสกัดไม่ดีไปโดนโรบินโญ่บล็อคแล้วสตาร์แซมบ้าลากหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปซัดติดขาบิคตอร์ บัลเดส แต่ผู้ตัดสินระบุว่าบอลโดนแขนดาวเตะละตินก่อนแล้วในจังหวะบล็อคลูกโยนของปิเก้
จากนั้นแชมป์เก่าก็เปลี่ยนตัวบ้างโดยถอดชาบีออกในนาทีที่ 63 ส่งติอาโก้ อัลกันตาร่าลงไปแทน ก่อนที่ฮาเวียร์ มาสเคราโน่จะปรี่เข้าสอยโรบินโญ่น่าเกลียดในอีกสามนาทีต่อมา ทว่ายังโชคดีได้แค่ใบเหลือง
นาทีที่ 69 บาร์ซ่าน่าจะเช็คบิลได้อีกจากจังหวะที่เมสซี่เก็บบอลหน้าเขตโทษได้แล้วไหลเข้าเขตโทษด้านซ้ายสวย แต่อัลกันตาร่าซัดหักข้อจากสิบหลาออกเสาไกลไปเอง
จากนั้นในนาทีต่อมา อาคันตุกะก็เสี่ยงส่งปาโต้ลงไปแทนเควิน พรินซ์ บัวเต็ง ขณะที่บาร์ซ่าใช้งานอาเดรียโน่ในนาทีที่ 75 แทนปิเก้ที่เริ่มช้ำ
นาทีที่ 77 โรบินโญ่ทำฟาวล์อีเนียสต้าจึงมีใบเหลืองติดตัวก่อนที่เจ้าบ้านจะเปลี่ยนเซย์ดู เกอิต้าแทนที่ฟาเบรกาสอีกรายในนาทีต่อมา
นาทีที่ 83 มิลานจำต้องเปลี่ยน ปาโต้ ออกทั้งที่พึ่งเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรองเนื่องจากอาการบาดเจ็บกำเริบโดยส่ง มักซี่ โลเปซ ลงมาแทนและช่วงที่เหลือมิลานไม่อาจทำอะไรได้ถนัด หมดเวลาบาร์ซ่าจึงชนะไป 3-1 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปรอพบกับผู้ชนะระหว่างเบนฟิก้ากับเชลซี
รายชื่อของทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส , ดาเนี่ยล อัลเวส , เคราร์ด ปิเก้ , การ์เลส ปูโยล , ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ , ชาบี เอร์นานเดซ , เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ , อันเดรียส อีเนียสต้า , เชส ฟาเบรกาส , ลิโอเนล เมสซี่ , อิซัค กวนก้า
สำรอง : โฆเซ่ ปินโต้ , อาเดรียโน่ , เซย์ดู เกอิต้า , ติอาโก้ อัลกันตาร่า , เปโดร โรดริเกซ , เตลโญ่ , อเล็กซิส ซานเชซ
มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ , ฟิลิป เม็กแซส , อิ๊กนาซิโอ อบาเต้ , ลูก้า อันโตนินี่ , อเลสซานโดร เนสต้า , มัสซิโม่ อัมโบรซินี่ , คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ , อันโตนิโอ โนเชริโน่ , เควิน พรินซ์ บัวเต็ง , โรบินโญ่ , ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
สำรอง : มาร์โก อเมเลีย , ดานิเอเล่ โบเนร่า , มาริโอ เยเปส , อูร์บี้ เอมานูเอลสัน , อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ , มักซี่ โลเปซ , อเล็กซานเดร ปาโต้
ผู้ตัดสิน : บียอร์น คุยเปอร์ (ฮอลแลนด์)
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
ห้ามทำตาม! อดีตแข้งอินเตอร์ เมาหยำเป,มีเซ็กซ์ไม่ป้องกัน
ทางการ! เอฟเอลงโทษแบนยาว เบนตานกูร์ เหยียด ซน ฮึง มิน
ดีทั้งปัจจุบันและอนาคต!เด ลา ฟวนเต้ ลั่นวงการบอล สเปน กำลังอยู่ในช่วงรุ่ง
อดเซิ้งบอลโลก 2026 ! ฟีฟ่า, ยูฟ่า มติแบน รัสเซีย ต่อไป
ผลงาน 5 ดาว!แฟน ฟิออเรนติน่า โหวต เด เคอา แข้งยอดเยี่ยมตุลาคม
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์