''วุ้นเส้น'' งานเข้าหลังแต่ง ปัดไม่รู้ ''อั้ม-พัชราภา'' ไม่ได้การ์ดเชิญงานแต่ง แจงฝากเพื่อนซี้ ''เมย์-พิชญ์นาฏ'' ไปให้ แต่เนื่องจากไม่สามารถติดต่อนางเอกสาวรุ่นพี่ได้ จึงชวดส่งการ์ดเชิญ โต้ไม่เคยแซวนักแสดงสาวรุ่นพี่จนเป็นเหตุให้เบี้ยวงานแต่ง ยันตนไม่ได้สนิทสนมกับนางเอกซุป''ตาร์ขนาดที่จะแซวกันได้ บอกหลังจากนี้ต้องหาโอกาสคุยกับนักแสดงสาวรุ่นพี่เพื่อให้เรื่องกระจ่าง

    แต่งงานยังไม่พ้น 2 วัน กลับโดนข่าวว่าเกาเหลากับนางเอกซูเปอร์สตาร์ซะแล้ว สำหรับพิธีกรสาว ''วุ้นเส้น'' วิริฒิพา (ภักดีประสงค์) แย้มนาม งานนี้ซูเปอร์สตาร์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คือสาว ''อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกเบอร์ 1 วิกหลากสี
    

    โดยกระแสข่าวระบุว่า สาวอั้มไม่ได้เดินทางไปร่วมงานวิวาห์ของสาววุ้นเส้น เพราะไม่ได้แจกการ์ดเชิญ บางกระแสก็หาว่าเป็นเพราะนางเอกสาวรุ่นพี่ไม่พอใจวุ้นเส้น เรื่องที่เคยแซวสาวอั้มผ่านสื่อว่าเป็น ''คุณนาย'' งานนี้เมื่อผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพบสาววุ้นเส้นในงานเปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ ''เดอร์มาแอคชั่น พลัส บาย วัตสัน ไวท์เทนนิ่ง'' ที่เบด ซัปเปอร์คลับ สุขุมวิท 11 วันก่อน จึงได้เข้าไปสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว โดยสาววุ้นเส้นแจงทันทีว่า ตนนั้นได้ทำการ์ดเชิญสำหรับนักแสดงสาวรุ่นพี่ไว้แล้ว และฝากไปทางเพื่อนนักแสดง ''เมย์-พิชญ์นาฏ'' แต่เนื่องจากฝ่ายเพื่อนซี้เมย์ไม่สามารถติดต่อนักแสดงสาวรุ่นพี่ได้ จึงไม่ได้นำไปให้

    ''จริงๆ แล้วยังไม่ได้เห็นข่าวนี้เลย ก็มีได้คุยกับพี่เมย์บ้าง เพราะว่าตอนเเรกเราก็ไม่รู้ว่า ทำไมพี่อั้มไม่ไปงาน เพราะว่าเราเชิญไป พอดีมารู้ทีหลังว่าเขาไม่ได้การ์ด เพราะว่าการ์ดนั้นเราฝากทาง ''เมย์-พิชญ์นาฏ'' ไป ซึ่งเมย์ติดต่อพี่อั้มไม่ได้ ก็เลยไม่ได้ไปให้ จริงแล้วพี่คริตกับวุ้นอยากให้พี่อั้มมามาก''

    ก่อนหน้านั้นมีโทร.ชวนไหม ผู้สื่อข่าวถาม วุ้นเส้นตอบว่า ตนไม่ได้สนิทกับนักแสดงสาวรุ่นพี่มากนัก จึงได้ฝากไปทางเพื่อนในวงการที่สนิทกับทางอั้มไปแทน

    ''คือวุ้นกับพี่อั้มไม่ได้คุยกันเหมือนที่วุ้นคุยกับพี่เมย์ หรือเมย์อยู่แล้ว เหมือนว่าเขาเป็นรุ่นพี่ในวงการ เลยฝากคนไป ก็เอาเป็นเพื่อนสนิทเขาอย่าง พี่เมย์-เฟื่องไป เพราะวุ้นจะเจอพี่เมย์บ่อยหน่อย แต่ก็เจอ ''เมย์-พิชญ์นาฏ'' เหมือนกัน ก็เลยฝากเมย์-พิชญ์ไปแทน เพราะช่วงนั้นเขาเจอพี่อั้มบ่อย แล้วพอดีการ์ดไม่ถึงเขาแล้ว เมื่อวานนี้ก็เพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้ วุ้นกับพี่คริตเองก็เคยร่วมงานกับพี่อั้ม พี่อั้มเป็นคนที่น่ารัก เราก็อยากให้มา ก็เลยเกิดการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย''

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลายคนมองว่าเป็นเพราะเราเคยแซวอั้มผ่านสื่อทำนองว่า เขาเป็นคุณนายแล้ว ก็เลยไม่พอใจ เกี่ยวกับเรื่องนี้สาววุ้นเส้นปฏิเสธทันที โดยแจงว่าตนนั้นไม่เคยแซวนักแสดงสาวรุ่นพี่ เพราะไม่ได้สนิทสนมจนถึงขั้นจะ แซวกันได้

    ''ไม่เคยนะค่ะ วุ้นไม่เคยแซวพี่อั้มเลยผ่านสื่อเลย เท่าที่จำได้ พี่อั้มเองก็ไม่น่าจะเป็นคนคิดมากอะไร วุ้นเป็นรุ่นน้อง อย่างเพื่อนที่สนิทกับเขาก็แซวพี่เขาได้ แต่วุ้นไม่ได้สนิทกับพี่อั้มถึงขั้นจะแซวกันได้ขนาดนั้นอยู่แล้ว''

    ''ก็ขอย้ำเลยค่ะว่า การ์ดพี่อั้มเชิญแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ว่าไปไม่ถึง เพราะว่าเมย์เขาติดต่อพี่อั้มไม่ได้''

    ต่อข้อถามที่ว่า อย่างนี้เป็นเพราะว่าเมย์ไม่ได้เอาไปให้ วุ้นเส้นตอบว่า

    ''พี่อั้มคงไม่คิดอะไรหรอกค่ะ คือวุ้นเองก็ไม่ได้คุยกับพี่อั้มส่วนตัว เพราะว่าข่าวมันเกิดได้ตลอดอยู่แล้ว ข่าวนี้มันเป็นข่าวหลังแต่งงาน มันก็เป็นกระแสอะไรบ้าง อย่างบอกจริงๆ งานนี้ทั้งวุ้นทั้งพี่คริตก็อยากให้พี่อั้มมา พอดีเราก็ไม่ได้เช็กทุกคนว่าการ์ดไปถึงหรือเปล่า เพราะเราก็ยุ่งกันมากเลย''

    หลังจากงานวันนั้นได้คุยกับพี่อั้มหรือยัง ผู้สื่อข่าวถามต่อ วุ้นเส้นตอบว่า ตนนั้นยังไม่ได้คุยกับนางเอกซุป''ตาร์รุ่นพี่แต่อย่างใด แต่หลังจากนี้ตนจะหาโอกาสโทร.ไปพูดคุยกัน เพื่อให้เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นกระจ่างและไม่มีปัญหากันต่อไป

    ''ก็ยังไม่ได้คุยค่ะ เพราะว่าตอนแรกที่ไม่มาก็คิดว่าพี่เขาไม่ว่าง แต่ก็มารู้ที่หลังว่าพี่อั้มไม่ได้การ์ด เดี๋ยวเมย์เขาคงไปคุยกับพี่อั้มเอง ซึ่งงานนี้มันไม่มีอะไรมาก กับข่าวที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้ซีเรียสอะไร ไม่มีอะไร ไม่มีปัญหากันแน่นอนค่ะ (จะมีการโทร.ไปหาพี่อั้มไหมเพื่อพูดคุยในเรื่องนี้) คงต้องคุยกันแล้วค่ะ เพราะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แต่เรา 2 คนหวังดีต่อกันทั้งคู่ ก็กลัวว่าข่าวจะทำให้เราไม่เข้าใจกัน ก็คงต้องคุยค่ะ''

    ส่วนเรื่องชีวิตหลังแต่งงาน วุ้นเส้นแจงให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เป็นชีวิตที่สนุกและมีความสุข ตนยังคงรับงานเป็นปกติ เพราะช่วงเดือนพฤษภาคมจะเดินทางไปฮันนีมูน

    ''หลายคนคิดว่าวุ้นจะไม่รับงาน วุ้นยังรับงานเหมือนเดิม ช่วงเดือนพฤษภาคมคงไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะจะเดินทางไปฮันนีมูน ชีวิตหลังแต่งงานก็ดีค่ะ มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น ดูแลกันมากขึ้น วุ้นเองก็ทำอาหารให้เขาทาน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาทำอาหารเก่งกว่าเรา เพราะเราก็ไม่ค่อยมีเวลา วันไหนมีเวลาว่างเต็มวันก็จะทำให้เขาทาน''