เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวหา โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ว่าพยายามชักจูงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในเกมลีก นัดที่ "ปีศาจแดง" ออกไปพ่าย "เรือใบสีฟ้า" 0-1 ถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา

        เจ้าบ้านได้ประตูชัยจากลูกโขกของ แว็งซ็องต์ ก็องปานี ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูก แมนฯ ซิตี้ แซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน เพราะถึงแม้ทั้งคู่จะมี 83 แต้ม จากการลงเล่น 36 นัดเท่ากัน แต่ "ปีศาจแดง" เป็นรองด้านผลต่างประตูได้-เสียอยู่ถึง 8 ลูก

        ทั้งนี้ระหว่างเกมนั้น มีชอตหนึ่งที่ ไนเจล เด ยองก์ มิดฟิลด์ แมนฯ ซิตี้ ทำฟาวล์ใส่ แดนนี่ เวลเบ็ค หัวหอก แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งกุนซือทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีมุมมองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่แตกต่างกัน จนไปถึงขั้นที่มีปากเสียงกันอย่างหนัก แถมยังทำท่าทาง รวมถึงชี้มือชี้ไม้ใส่แต่ละฝ่ายอีกด้วย ส่งผลให้ ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินที่ 4 ต้องสงบศึกทั้งคู่อยู่ที่ข้างสนาม

        เฟอร์กูสัน ให้สัมภาษณ์กับ "สกายสปอร์ตส์" สื่อกีฬาชื่อดังเมืองผู้ดีว่า "เขา (มันชินี่) ไปรบเร้าผู้ตัดสินตลอดทั้งเกม ทั้งกับผู้ตัดสินที่ 4 และผู้กำกับเส้น รวมถึงในตอนที่ผมเดินออกไปที่ข้างสนามด้วย เขาเอาแต่บ่นถึงผู้ตัดสินมาตลอดสัปดาห์แล้ว แต่คืนนี้เขาคงบ่นถึงเรื่องนั้นไม่ได้แล้วล่ะ"

        อย่างไรก็ตาม กุนซือชาวสกอตต์ยอมรับว่า แมตช์นี้ทีมของตนเล่นได้ย่ำแย่จริง และตอนนี้แชมป์ลีกก็อยู่ในกำมือของ แมนฯ ซิตี้ เรียบร้อยแล้ว "มันเป็นเกมที่น่าฉุนเฉียว เพราะเราไม่มีโอกาสทำประตูมากเท่าไหร่นัก เราผิดหวังที่ไม่ได้ทดสอบผู้รักษาประตูของพวกเขา (โจ ฮาร์ท) เลย พวกเขามีความอันตรายมากกว่า เพราะพวกเขามีการเล่น และความกระฉับกระเฉงในบริเวณริมกรอบเขตโทษมากกว่าเรา"

        นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสริมว่า พลพรรค "ปีศาจแดง" ต้องโทษพวกเขาเองเท่านั้น ที่เสียประตูในเกมนี้จากลูกเตะมุม ซึ่งเกิดจากการประกบอันหละหลวม "ถ้าเกิดคุณเสียประตูจากจังหวะเซตพีซในเกมระดับนี้แล้วล่ะก็ คุณก็ต้องโทษตัวเองเท่านั้น มันเป็นการเสียประตูในช่วงเวลาที่แย่มากจริงๆ ผมคิดว่า ตอนนี้พวกเขาเป็นฝ่ายควบคุมสถานการณ์ได้แล้วล่ะ พวกเขาก็แค่ต้องเอาชนะให้ได้ในอีก 2 เกมที่เหลือ การขับเคี่ยวมันยังไม่จบก็จริง แต่พวกเขาได้เปรียบเรื่องผลต่างประตูได้-เสียถึง 8 ลูก ซึ่งมันเป็นข้อได้เปรียบที่ใหญ่ และสำคัญมาก"