ศึกชำระแค้น!หงส์ลุ้นซัวเรซยิง,สิงห์จัดตอร์โป้ง
Posted 08/05/2012 by siamsport
ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2555
ลิเวอร์พูล - เชลซี
สนาม : แอนฟิลด์
เกมตกค้างของพรีเมียร์ลีก คู่เดียวในช่วงกลางสัปดาห์นี้ เป็นนัดล้างตาของ ลิเวอร์พูล ในการพบกับ เชลซี ภายหลัง "สิงโตน้ำเงินคราม" เพิ่งกำชัย 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2012 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ลิเวอร์พูล เหลือลุ้นเต็มที่แค่แย่งอันดับ 7 กับเพื่อนร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน เท่านั้น ซึ่งตอนนี้ตามอยู่ 4 แต้ม เท่ากับบังคับกลายๆ ว่าต้องชนะรวดใน 2 เกมที่เหลือ โดยเกมลีกล่าสุดพ่าย ฟูแล่ม คารัง 0-1 กลางสัปดาห์ที่แล้ว
เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือหงส์แดง ไม่ได้มีปัญหาสภาพทีมเพิ่มเติมอะไรจากเดิม ขาดแค่ ชาร์ลี อดัม กับ ลูคัส เลว่า สองกองกลางที่เจ็บหนัก หมดสิทธิ์ช่วยทีมในฤดูกาลนี้เท่านั้น
การจัดทีมจะใส่เต็มที่ เมื่อต้องการ 6 แต้มใน 2 นัดสุดท้าย ดัลกลิช จะใช้ทีมชุดที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ลงสนาม
11 ตัวจริงโดยมากน่าจะเป็นทีมชุดลงเล่นนัดชิงฯ เอฟเอ คัพ นายประตูไม่เปลี่ยน ใช้ โฆเซ่ เรน่า เฝ้าเสา แผงหลัง มาร์ติน สเคอร์เทล จับคู่เซนเตอร์กับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ แบ็กขวา-ซ้ายก็คงเดิมเมื่อฟิตดีอยู่ทั้งคู่ เกล็น จอห์นสัน กับ โฆเซ่ เอ็นริเก้
แดนกลางก็อาจมาชุดเดิม นำโดยกัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด ร่วมด้วย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง และ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง แต่ก็ยังมีสิทธิ์ที่ เดิร์ก เค้าท์ หรือ มักซี่ โรดริเกซ จะสอดแทรกลงตัวจริง
แต่แดนหน้าน่าจะมีปรับส่ง แอนดี้ แคร์โรลล์ ที่ลงไปสร้างความวูบวาบได้ในช่วงท้ายเกมที่เวมบลีย์ คืนตัวจริงอีกครั้ง มาจับคู่กับ หลุยส์ ซัวเรซ และเบียด เคร็ก เบลลามี่ ไปนั่งสำรอง
ฝั่ง เชลซี กำลังอยู่ในเส้นทางลุ้นทำดับเบิ้ลแชมป์ หลังสอยเอฟเอ คัพ ไปก่อนแล้ว และกำลังรอชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า ในวันที่ 19 พ.ค.
สถานการณ์ในลีกก็ยังพอได้ลุ้นอันดับ 4 อยู่ โดยตอนนี้ตามหลังท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5 คะแนน เท่ากับบีบให้ต้องชนะ 2 นัดเช่นกัน และลุ้นแช่งทั้ง สเปอร์ส กับ นิวคาสเซิ่ล ให้พลาดในเกมสุดท้าย
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือสิงโตน้ำเงินคราม ยังคงมีปัญหาสภาพทีมอยู่โดยเฉพาะในแผงหลัง ที่ ดาวิด ลุยซ์ กับ แกรี่ เคฮิลล์ เจ็บเอ็นหลังหัวเข่าอยู่ทั้งคู่ และกำหนดการฟิตกลับมาก็เพื่อที่จะเล่นนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น ยังไม่ทันเกมนี้
ตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหา แต่มีสิทธิ์ที่ ดิ มัตเตโอ จะโรเตชั่นทีมในบางตำแหน่ง เมื่อมีตัวเลือกพอสมควรทั้งแผงกลางและแดนหน้า ยกเว้นเกมรับที่ขยับอะไรไม่ได้มาก
ตัวสำรองที่เวมบลีย์อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ราอูล เมยเรเลส, ไมเคิ่ล เอสเซียง, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เปาโล แฟร์เรยร่า มีโอกาสถูกส่งลงตัวจริงทั้งหมด
ส่วนแกนหลักอย่าง ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฆวน มาต้า, รามิเรส, โชเซ่ โบซิงวา น่าจะถูกสั่งพัก เมื่อต้องกรำศึกหนักมาอย่างต่อเนื่อง
การจัดทัพ 4-3-3 เซนเตอร์คงเดิมที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ จอห์น เทอร์รี่ ให้ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ลงที่แบ็กซ้าย สามตัวกลางมี ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ไมเคิ่ล เอสเซียง และ ราอูล เมยเรเลส ส่วนแผงหน้าใช้ ซาโลมง กาลู, เฟร์นานโด ตอร์เรส และ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สำหรับ ตอร์เรส ไม่ได้ลงชนกับ ลิเวอร์พูล เมื่อวันเสาร์ และยังไม่เคยยิงทีมเก่าได้เลยในการลงสนามปะทะกันจำนวน 3 เกมช่วงก่อนหน้านี้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจย์ สเปียริ่ง, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - หลุยส์ ซัวเรซ, แอนดี้ แคร์โรลล์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - เปาโล แฟร์เรยร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ไมเคิ่ล เอสเซียง, ราอูล เมยเรเลส - ซาโลมง กาลู, เฟร์นานโด ตอร์เรส, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
สถิติสูสีสิบปีหลัง-หงส์บู่ในบ้านซีซั่นนี้
สถิติผลการแข่งขันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เชลซี ในเกมพรีเมียร์ลีกที่สนามแอนฟิลด์ ช่วง 10 ปีหลัง ค่อนข้างคู่คี่สูสี ลิเวอร์พูล ไม่ได้ถือไพ่เหนือกว่าแต่อย่างใด ขณะที่ฟอร์มในบ้านของ ลิเวอร์พูล ซีซั่นนี้ ก็เข้าขั้นย่ำแย่ทีเดียว
ลิเวอร์พูล กับ เชลซี พบกันมาทั้งหมด 163 ครั้งในทุกรายการและทุกสนาม ซึ่งลิเวอร์พูลชนะ 73 เสมอกัน 33 และเชลซีชนะ 57 ครั้ง
ส่วนการพบกัน 10 ปีหลังในสนามแอนฟิลด์ ออกมาสูสี ลิเวอร์พูลเอาชนะได้แค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น คือ 5 เกม ที่เหลือ เชลซีชนะ 4 และเสมอกันอีก 1 ครั้ง ล่าสุดในซีซั่นที่แล้ว ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0
อย่างไรก็ดี ลิเวอร์พูล เล่นในแอนฟิลด์ซีซั่นนี้มีผลงานน่าผิดหวัง เพิ่งชนะได้แค่ 5 เกมเท่านั้น และแม้ว่าจะชนะ เชลซี ได้อีกในวันอังคารนี้ ก็ยังจะต่ำสุดเทียบเท่ากับสถิติของพวกเขาเอง ซึ่งมีมาตั้งแต่ฤดูกาล 1948/49 ขณะที่เมื่อขึ้นปีใหม่ 2012 เป็นต้นมา ลิเวอร์พูล เพิ่งชนะในบ้านแค่นัดเดียวเท่านั้น คือชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0 เมื่อ 13 มี.ค.
ผลงานในเกมพรีเมียร์ลีก ที่แอนฟิลด์ 5 นัดหลังสุด ประกอบด้วยชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0, แพ้ วีแกน 1-2, เสมอ แอสตัน วิลล่า 1-1, แพ้ เวสต์บรอมวิช 0-1 และแพ้ ฟูแล่ม 0-1
กระนั้น หากนับเฉพาะผลงานของ เคนนี่ ดัลกลิช ในการคุมทีมหงส์แดงพบกับ เชลซี แล้ว มีสถิติค่อนข้างดี เพิ่งจะแพ้ครั้งแรกในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ หลังก่อนหน้านี้ 13 เกมชนะถึง 10 และเสมอ 3
ส่วนผลงานเกมเยือนของ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ก็ไม่ดีนัก 8 นัดหลังสุดชนะได้แค่เกมเดียว (ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-2, 31 มี.ค.) เสมออีก 4 และแพ้ 3 ล่าสุดเสมอ อาร์เซน่อล 0-0 เมื่อ 21 เม.ย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
หงส์ใจบุญ!ใส่เสื้อช่วยการกุศลชนสิงห์
แข้ง"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล จะสวมเสื้อแข่งที่ปะหน้าอกด้วยสปอนเซอร์พิเศษ ต่างไปจากปกติ ในเกมนัดสุดท้ายของการใช้สนามแอนฟิลด์ ซีซั่นนี้ ลงเล่นเกมตกค้างพรีเมียร์ลีก กับเชลซี อังคารนี้เจทีปัดเปล่ามีปัญหาเบิร์นสตีน
จอห์น เทอร์รี่ ปราการหลังหัวหน้าทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยันเปล่ามีปัญหาคาใจจนไม่มองหน้า เดวิด เบิร์นสตีน หัวเรือใหญ่ เอฟเอ ระหว่างขึ้นไปรับถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อวันเสาร์ พร้อมลั่นต้นสังกัดจะลงสนามแบบเต็มที่ทุกนัดเมื่อลงแข่งในรายการนี้เชลซียันชี้ชะตาดิมัตเตโอหลังชิงดำชปล.
รอน กูร์เลย์ ซีอีโอทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยืนยัน โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชั่วคราว ต้องรอจนจบศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ กับ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค กลางเดือนนี้ ถึงจะรู้ว่าเขาจะได้นั่งในตำแหน่งแบบถาวรหรือไม่แลมพ์สแฮปปี้!ได้จูบคู่หมั้นฉลองแชมป์เอฟเอคัพ
อาจจะเป็น รางวัลที่ดีกว่าถ้วยแชมป์เอฟเอ คัพ เสียอีก สำหรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์จอมส่องไกลของ เชลซี หลังจากที่ คริสติน บลีคลี่ย์ คู่หมั้นของเจ้าตัว ฉลองให้กับความสำเร็จที่เขาพา "สิงห์บลูส์" ซิวแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ด้วยการจุมพิตอย่างดูดดื่ม ภายหลังที่แข้งวัย 33 ปี เสร็จสิ้นจากงานปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมทีมแล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์