โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือขัดตาทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ขอปฏิเสธที่จะพูดถึงความเป็นไปได้ในการขยับขึ้นมาเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่างเต็มตัว เนื่องจากต้องการฉลองแชมป์เจ้ายุโรปกับลูกทีมเสียก่อน หลังจากดวลจุดโทษเชือด "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ผู้จัดการทีมชั่วคราวของ เชลซี ยักษ์ใหญ่ศึกพรีเมียร์ลีก ยังคงไม่เปิดเผยถึงอนาคตของตนในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในฤดูกาลหน้า หลังจากเพิ่งพาทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วยการคว้าชัยในการยิงจุดโทษตัดสิน 4-3 เหนือ บาเยิร์น มิวนิค มหาอำนาจลูกหนังเวทีบุนเดสลีกา หลังเสมอกันในเวลา 1-1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่อัลลิอันซ์ อารีน่า เมื่อวันเสาร์ที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา
 
ทั้ง ที่เพิ่งจะรับงานต่อจาก อันเดร วิลลาช-โบอาช เมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ ดิ มัตเตโอ กลับปลุกเร้านักเตะ "สิงห์บลูส์" ให้กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้งด้วยการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ ฟุตบอลถ้วยอย่าง เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของสโมสรเชลซี คงต้องคิดหนักว่าจะทำอย่างไรดีกับ กุนซือวัย 41 ปี ที่สามารถพาทีมเป็นเจ้ายุโรปตอบสนองความต้องการของเขาได้สำเร็จ
 
อย่าง ไรก็ดี ดิ มัตเตโอ ยังปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องอนาคตของตนเอง หลังจากถูกถามอยากจะเลื่อนขั้นขึ้นมาคุมทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เป็นการถาวร หรือไม่ "ผมจะมีปาร์ตี้ใหญ่ในคืนวันนี้พร้อมกับโทรฟี่แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก"
 
นอกจากนี้ ดิ มัตเตโอ ชื่นชมทัศนคติของขุนพล "สิงห์บลูส์" หลังจากต้านทานเกมรุกของ บาเยิร์น ที่โหมรุกหนักตลอดทั้งเกมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งที่ไม่มี จอห์น เทอร์รี่ และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 2 ปราการหลังตัวเก่งที่ต้องชดใช้โทษแบนในเกมนี้
 
"มัน เป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเครียด แต่มันก็เป็นความสำเร็จครั้งมหัศจรรย์ของนักเตะทุกคน เราไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมที่สมบูรณ์แบบนักก่อนเกม เนื่องจากมีนักเตะติดโทษแบนและได้รับบาดเจ็บหลายต่อหลายคน เราต้องลงเล่นทั้ง 120 นาทีโดยใช้ชุดผู้เล่นที่ไม่ได้ลงสนามมากว่า 3-4 สัปดาห์ มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อที่พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความ ภูมิใจในการคว้าถ้วยแชมป์นี้กลับบ้าน" อดีตกุนซือเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน กล่าวทิ้งท้าย