เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน โคตรนายใหญ่ แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุ เคล็ดลับที่ทำให้ตนสร้าง "ปีศาจแดง" ได้อย่างยิ่งใหญ่ คือการที่ตนเปลี่ยนแนวทางการโซ้ยอาหารของแข้งในทีม พร้อมชี้ สตาฟฟ์ที่ทำงานกับตนมานาน ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่า ตนทำให้ "ปีศาจแดง" กลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ และประสบความสำเร็จได้มากมาย จากการที่ตนเริ่มปฏิวัติแนวทางการกินของทีม

นับตั้งแต่เข้ามากุมบังเหียน แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1986 นั้น "เซอร์เฟอร์กี้" ก็ได้เปลี่ยน "ปีศาจแดง" จากทีมระดับกลางๆ จนกลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งกุนซือวัย 70 กะรัต เผยเคล็ดลับว่า ความสำเร็จของตนตลอดช่วง 25 ปีที่ผ่านมา เริ่มต้นจากการที่ตนปฏิวัติรูปแบบการกินของแข้งทั้งหลาย แต่นายใหญ่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ยอมรับว่า การที่ตนเปลี่ยนให้พ่อค้าแข้งต้องมีการควบคุมอาหาร ทำให้นักเตะหลายคนรู้สึกสับสนไม่น้อยเลยทีเดียว

บรมกุนซือชาวสกอตต์ กล่าวว่า "ตอนที่ผมเริ่มรับงานกุนซือ  (กับ อีสต์ สเตอร์ลิ่งเชียร์ ทีมในลีกสกอตต์) และก่อนที่พวกเขาจะเริ่มพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการไดเอตเนี่ย ผมเคยพาทีมของผมไปกินอาหารเที่ยงกันที่ อีสต์ เชสเตอร์ลิ่ง และอาหารที่ผมให้พวกเขา ก็จะมีแค่ปลาเลม่อนโซล 2 ชิ้น, ขนมปัง และน้ำผึ้งเท่านั้น ซึ่งพวกเขาก็บ้าคลั่งไปเลย"

"สมัยที่ผมเป็นนักเตะนั้น พวกเขาเคยให้คุณกินทั้งสเต็กเนื้อไม่มีกระดูก, พายเนื้อ และอะไรแบบนั้น ดังนั้นเมื่อผมขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมแล้ว ผมจึงบอกกับตัวเองว่า -สิ่งที่พวกเขาจะต้องกินก่อนเกมการแข่งขัน ก็คือสิ่งที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเกม- ซึ่งผมก็ทำแบบนั้นตั้งแต่ที่ อเบอร์ดีน แล้วจากนั้นผมก็ทำแบบเดียวกันกับที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนนี้ผมไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วล่ะ เพราะมันมีทั้งความก้าวหน้าในด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และมีนักโภชนาการที่มีความเชี่ยวชาญ อยู่ที่ แคร์ริงตัน (สนามซ้อมของทีม)" เฟอร์กูสัน ระบุ

"เซอร์เฟอร์กี้" เสริมว่า สตาฟฟ์ที่ร่วมงานกับตนมานาน คือส่วนสำคัญกับทีมมากเช่นกัน "ถ้าคุณมองไปยังทีมงานที่ผมมี ตลอดช่วง 20 ปีที่ผมอยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ คุณจะเห็นเลยว่า หลายคนก็อยู่กับผมมาโดยตลอด คนอย่าง เดฟ บุชเชลล์, โทนี่ วีแลน, พอล แม็คกินเนสส์, จิมมี่ ไรอัน และ เลส เคอร์ชอว์ ยังอยู่ที่นี่ และเป็นส่วนหนึ่งในโครงสร้างของสโมสรไปแล้ว"

"ดังนั้นสิ่งที่คุณจะมีก็คือ ประสบการณ์ในเรื่องที่ว่า จะรับมือคนวัยหนุ่มได้ยังไง ซึ่งประสบการณ์ในด้านที่จะรับมือนักเตะที่ย้ายเข้าสู่สโมสรยังไงนั้น คือสิ่งที่มีความหมายมากสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เพราะในบางกรณีมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป" จอมคนเลือดวิสกี้ ระบุ