''บุ๋ม-ปนัดดา'' รับ สัมพันธ์''ติ้งโน๊ต''ระหองระแหง บอกยังงอนไม่หายหลังฝ่ายชายไม่มารับตอนประสบอุบัติเหตุ โว งานบันเทิงรุม ลงทุนทำเครื่องสำอาง 25 ลบ.

    เคยตามติดกันเป็นตังเมแต่พักหลังๆ ดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นคู่ของม่ายสาวอดีตนางงาม อย่าง ''บุ๋ม'' ปนัดดา วงศ์ผู้ดี กับแฟนหนุ่มต่างรุ่นนักขับรถแข่ง ''ติ้งโน๊ต-ฐิติพงศ์'' ออกงานพร้อมกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้ เริ่มมีกระแสข่าวออกมาว่าความรักของคู่นี้กำลังระหองระแหงไม่สวีตหวานเหมือนที่ผ่านมา จนหลายคนถึงกับฟันธงว่าความรักของทั้งคู่มีอันต้องคอนเวิร์สแยกทางกันเป็นแน่
           

    ล่าสุดเมื่อผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพบเจ้าตัวในงาน เปิดตัวรายการ สมาคมสมหญิงทางช่อง เคเบิลทีวี  ที่เจ้าตัวเป็นพิธีกรอยู่ด้วยจึงได้เข้าไปอัพเดต เรื่องความรัก ของเธอว่าช่วงนี้มีความคืบหน้าไปถึงไหนเป็นในแง่บวกหรือในแง่ลบ โดยเธอยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมา ตัวเธอเองค่อนข้างจะห่างกับแฟนหนุ่มจริงๆ เนื่องจากทั้งเธอและติ้งโน๊ตต่างมีภารกิจเรื่องงานที่ต้องทำ จึงไม่ค่อยจะมีเวลาได้มาเจอกัน แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็ยังยืนยันว่าคบกันอยู่ ไม่ได้เลิกรากันแต่อย่างไร
          

    ''ก็คบอยู่นะค่ะ ยังไม่ได้เลิกค่ะ แต่ก็ต่างคนต่างทำงานของตัวเอง (ดูเหมือนระหองระแหง) ก็ยอมรับว่ายังงอนเขาอยู่ เกิดจากอาการงอนของพี่เองมากกว่า งานพี่ก็เยอะมากด้วยมากกว่าแต่ก่อนเสียด้วยซ้ำ''
    

    ม่ายสาวพราวเสน่ห์ยังได้เล่ารายละเอียดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับแฟนหนุ่มต่อด้วยว่า ตนนั้นยังมีการติดต่อพูดคุยกับแฟนหนุ่มอยู่ทุกวัน แต่เป็นเพราะเหตุการณ์ครั้งเมื่อตนประสบอุบัติเหตุแล้วฝ่ายชายไม่ยอมมารับจึงทำให้ตนงอนไม่หายจนทุกวันนี้
          

    ''ช่วงนี้เขามีแข่งที่อินโดนีเซียต่อ แล้วเราก็งานเยอะด้วยก็เลยดูเหมือนว่าห่างกัน แต่ไม่ได้เลิก ตอนนี้ก็ยอมรับเลยว่ากำลังงอนอยู่ คือเมื่อไม่นานมานี้เราประสบอุบัติเหตุ ตกบันไดเวทีสะโพกกระแทกที่ภูเก็ต ก็เลยถูกส่งตัวกลับเข้ากรุงเทพฯ เราก็หวังว่าเขาจะมารับ แต่ปรากฏว่าเขาไม่มา บอกเลยว่างอนมาก ตอนนี้ก็ยังไม่หายค่ะ''
    

    เขามีง้อบ้างไหม ผู้สื่อข่าวถาม สาวบุ๋มตอบว่า ''เขาก็มีถามมีง้อ ว่าเออคุณมีคิวงานที่ไหนบ้างเดี๋ยวผมไปดูแล''
    

    แล้วอย่างนี้ทำยังไงผู้สื่อข่าวถาม ดาราสาวหยุดคิดนิดนึง ก่อนตอบว่าตนนั้นไม่ต้องการอะไรมากมายเพราะตนมีครบอยู่แล้วสิ่งที่อยากได้คือมีใครสักคนมาดูแลตนเท่านั้นเอง คงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
    

    ''คือบุ๋มมีทุกอย่างแล้ว เขาไม่ต้องมาซื้ออะไรให้ เราแค่ต้องการคนดูแลแค่นั้นเอง ดังนั้น ถ้าเขาดูแลเราไม่ได้ ทุกอย่างก็จบ''
    

    ส่วนเรื่องธุรกิจเครื่องสำอางที่สาวบุ๋มทุ่มทุนไปถึง 25 ล้านบาท เจ้าตัวก็แจงว่าเพิ่งเริ่มทำได้สักพัก งานวงการบันเทิงที่รัดตัวมากทีเดียวจนทำตัวเองเครียด
    

    ''ธุรกิจตอนนี้ก็ดีค่ะ เครื่องสำอางเราก็ดีกว่าเดิมเยอะ ลงทุนไป 25 ล้าน เราก็มีคลินิกด้วย อะไรด้วย เราก็ทำงานตรงนี้ไปเยอะพอสมควร คือเราคิดว่าไม่ได้หวังจะมีงานในวงการบันเทิงตลอดไป แต่มันก็กลับกลายเป็นว่า เพิ่มมากขึ้นทุกวันละครก็ถ่ายซ้อนกันสองเรื่อง บทหนักมาแต่ละอย่าง เราก็เลยเครียดมากค่ะ''