คาริม เบนเซม่า หัวหอกเลือดน้ำหอมของ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เผยถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นายใหญ่ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามจีบไปร่วมทัพตลอด 4 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ว่าตนยังแฮปปี้ดีกับต้นสังกัด พร้อมทั้งยืนยันว่า "ตราไก่" ฝรั่งเศส จะคว้าชัยเหนือ "สิงโตคำราม" อังกฤษ ในวันจันทร์นี้ เพื่อเดินทางสู่การคว้าแชมป์ยูโร 2012

        คาริม เบนเซม่า กองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสของ เรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา ฤดูกาลล่าสุด ออกมาเปิดเผยว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังเวทีพรีเมียร์ลีก พยายามทาบทามเขาไปร่วมทัพ "ปีศาจแดง" ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แต่ว่าตนต้องการที่จะปักหลักค้าแข้งในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เท่านั้นในเวลานี้
 
        เบนเซม่า กล่าวว่า "ข่าวลือเกี่ยวกับอนาคตของผมเป็นเรื่องปกติ มันมีแต่ข่าวเดิมๆ ในทุกซัมเมอร์ว่าผมจะไปย้ายไปทีมนี้บ้างทีมนั้นบ้าง แต่ผมมีความสุขมากกับ เรอัล มาดริด และไม่เคยคิดเรื่องการอำลาสโมสรเลย ผมรู้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พยายามเซ็นสัญญากับผมตลอด 3-4 ฤดูกาลหลังสุด ตอนที่ผมอยู่กับ ลียง ก็มีสโมสรอังกฤษมากมายที่อยากได้ผมไปร่วมทีม แต่ว่าพวกเขาก็ตกลงกับทาง ลียง ไม่ได้เอง"
 
        "นอกจากนี้ ผมอยากจะย้ายมาที่ สเปน เองและบอกได้เลยว่าผมไม่เคยเสียใจสำหรับการตัดสินใจครั้งนั้น ผมยังอายุน้อยและเหลือสัญญากับ มาดริด ถึงปี 2015 ผมยังคงต้องการประสบความสำเร็จมากกว่านี้กับสโมสรเสียก่อน ผมได้รับรสชาติของความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกกับ มาดริด แล้ว แต่ผมยังอยากลิ้มรสมันให้มากกว่านี้อีก"
 
        อย่างไรก็ดี ดาวเตะวัย 24 ปี ไม่ปิดโอกาสสำหรับการย้ายไปค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก ในอนาคต "ผมจะไม่พูดว่าไม่มีทางสำหรับการย้ายไปเล่นใน อังกฤษ และบอกตามตรงเลยว่าผมไม่มีทีมไหนที่โปรดปรานเป็นพิเศษ แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ยังอีกยาวไกลในอนาคตและไม่ใช่สิ่งที่ผมจะนำมาพิจารณา ในเวลานี้"
 
        ในเวลานี้ เบนเซม่า กำลังโฟกัสกับการช่วยทีมชาติฝรั่งเศสใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ที่ประเทศโปแลนด์-ยูเครน โดยเจ้าตัวได้รับโอกาสในทัพ "ตราไก่" อีกครั้ง หลังจากไม่ได้รับการเรียกตัวไปร่วมโม่แข้งใน ฟุตบอลโลก 2010 ที่พวกเขาล้มเหลวแบบอัปยศด้วยการตกรอบแรกและบรรดานักเตะกับสตาฟฟ์โค้ชมี ปัญหาระหว่างการแข่งขัน
 
        "เราอยู่ในกลุ่มที่หนักสุดๆเลย (กับ อังกฤษ, สวีเดน และ ยูเครน) เป้าหมายแรกของเราคือการผ่านไปสู่รอบน็อคเอาท์ให้ได้ และก็จะเริ่มต้นเอาจริงจากจุดนั้น อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ในรอบนี้ แต่เราไม่มีความกลัวเลยในการเข้ามาแข่งขันในรายการนี้ ปัญหาคือความล้มเหลวใน ฟุตบอลโลก 2010 ได้รับการบันทึกไว้เป็นอย่างดี แต่มันก็เป็นเพียงอดีต ทีมชุดนี้อยู่ในยุคใหม่ภายใต้โค้ชชั้นยอด (โลร็องต์ บล็องก์) และการที่ไม่แพ้ใครมาแล้ว 21 เกมก่อน ยูโร 2012 เพิ่มความมั่นใจให้กับเราอย่างยิ่ง"
 
        ฝรั่งเศส จะลงเล่นเกมแรกกับ อังกฤษ ในวันจันทร์ที่ 11 มิ.ย. นี้ โดย เบนเซม่า ยอมรับว่าคงจะไม่มีเกมไหนที่ยากไปกว่านี้อีกแล้วสำหรับการประเดิมสนามใน ยูโร 2012 ของพวกเขา "เราไม่สามารถเสียแต้มในเกมกับ อังกฤษ มันไม่ใช่เกมที่ง่ายเลยสำหรับการเริ่มต้นรายการนี้ มันจะไม่มีความชะล่าใจเพราะ อังกฤษ เป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นแชมป์ในทุกรายการ"
 
        "หลายคนอาจจะพูด กันว่า อังกฤษ อาจจะอ่อนลงเพราะไม่มี เวย์น รูนี่ย์ แต่ว่าพวกเขาก็มีตัวเลือกคนอื่นๆในแนวรุกที่สามารถเล่นงาน ฝรั่งเศส ได้ พวกเขามีนักเตะที่มีประสบการณ์สูง แต่เราก็มีเช่นกันแถมยังมีเหล่าดาวรุ่งพรสวรรค์สูงอีกมากมาย นอกจากนี้ เรายังมีโค้ชที่รู้จัก อังกฤษ เป็นอย่างดี ดังนั้น เราจึงเตรียมความพร้อมมาอย่างยอดเยี่ยมสำหรับเกมนี้"
 
        "เรา มั่นใจว่าเราจะชนะได้ถ้าเราระเบิดฟอร์มเก่งออกมาได้ เราไม่ได้ต้องการผลเสมอ เราอยากเริ่มการแข่งขันด้วยชัยชนะ ผมรับรองกับคุณได้เลยว่าเราจะทำทุกวิถีทางในการศึกษาการเล่นของ อังกฤษ และดูว่าพวกเขามีดีแค่ไหน เรามีนักเตะที่เล่นใน อังกฤษ และมันจะเป็นข้อได้เปรียบของเรา รายงานจากแมวมองของเราละเอียดสุดๆ และการเตรียมทีมของเราก็ไม่เป็นรองใครทั้งนั้น" อดีตดาวรุ่งลียง ร่ายยาว
 
        นอก จากนี้ เบนเซม่า ยอมรับว่าต้องการระเบิดฟอร์มถล่มประตูเพื่อพาพลพรรค "เลส์ เบลอส์" ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ยูโร 2012 เพื่อหักหน้าบรรดาเซียนลูกหนังที่คิดมองข้ามพวกเขาไป "ผมเป็นกองหน้าโดยธรรมชาติและหน้าที่ของผมคือการยิงประตู หนึ่งในความฝันของผมคือการคว้ารางวัลรองเท้าทองคำในรายการใหญ่ๆ และครั้งนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีนะ"
 
        "ผมคิดว่า ฝรั่งเศส จะทำให้หลายๆคนเซอร์ไพรส์ ผมยอมรับว่ามีทีมอื่นอย่าง สเปน, ฮอลแลนด์ และ เยอรมนี ที่มีโอกาสคว้าแชมป์มากกว่าเรา แต่มันจะเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ในการประมาทเรา ทางที่ดีที่สุดในการทำเช่นนั้นคือการทำให้แน่ใจว่าเราจะชนะ อังกฤษ มันจะเป็นการส่งสัญญาณถึงเป้าหมายของ ฝรั่งเศส ว่าเราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นไม้ประดับ แต่เรามาในฐานะผู้ท้าชิงแชมป์ตัวจริง" หัวหอก "ราชันชุดขาว" กล่าวทิ้งท้าย