''ฟิล์ม-รัฐภูมิ'' ลั่นอ้างรู้ว่าใครเป็นพ่อ ''น้องฑีฆายุ'' เผยให้เทียบหน้ากับคนที่เคยเป็นข่าวกับ ''แอนนี่'' ที่ผ่านมาดูเอาเอง เพราะตนเองพูดไม่ได้ ยันไม่เคยผิดสัญญาฝ่ายหญิงเรื่องคำสั่งศาลแต่อย่างใดทั้งสิ้น

    ยังคงเป็นเรื่องค้างคาและเป็นประเด็นอยู่ตลอดเวลากับกรณีมหากาพย์ ''ลูกใครหว่า?'' ระหว่างดาราสาว ''แอนนี่ บรู๊ค'' ที่ได้พาดพิงว่า นักร้องหนุ่ม ''ฟิล์ม'' รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ เป็นพ่อของลูกชาย ''น้องฑีฆายุ'' จนกลายเป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว และดูเหมือนเรื่องราวดังกล่าวน่าจะคลี่คลายไปได้บ้างแล้วนั้น เนื่องจากศาลได้มีคำสั่งว่า ไม่ให้ทั้งคู่ ''แอนนี่'' และ ''ฟิล์ม'' พูดพาดพิงถึงกันและกันอีก แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้งเมื่อ ''ฟิล์ม'' ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ''แอนนี่'' ยังไม่ถอนชื่อตนเองออกจากการเป็นพ่อเด็กนั่นเอง
     
    โดยทันทีที่ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอนักร้องหนุ่ม ''ฟิล์ม-รัฐภูมิ'' ที่มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดสาขา ''สลิมมิ่ง พลัส'' ณ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 มิ.ย. 55 จึงได้มีโอกาสสอบถามข้อเท็จจริงจาก ''หนุ่มฟิล์ม'' เกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งนักร้องหนุ่มก็ได้เปิดเผยว่า ตนเองคิดว่าก็ไม่ได้ผิดคำสั่งศาลแต่อย่างใด แต่ตนแค่พูดในส่วนที่เป็นความถูกต้องเพียงเท่านั้น
     
    ''ไม่รู้เลยครับ ไม่น่าจะถูกต้องนะครับ ในสิ่งที่เค้าพูดมา ผมว่าในทุกๆ ขั้นตอนผมก็ตลกเหมือนกันนะว่า ผมไม่ได้ผิดอะไรเลย แล้วผมก็ไม่ได้พูดอะไรเลย คือเค้ามาอออกรายการก่อน แล้วเช้ามาก็มีคนมาถามผม ผมก็แค่พูดในส่วนที่เป็นความถูกต้องไปว่ามันนานแล้วนะ ก็เท่านั้นเอง พอพูดไปเสร็จก็เหมือนมีการกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น ก็เหมือนมีการตอกกลับมานั่นแหละก็เลยกลายเป็นประเด็นให้พวกพี่ๆ ถามกัน''
     
    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เป็นเพราะก่อนหน้านี้ ''ฟิล์ม'' ให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องให้ ''แอนนี่'' ถอนชื่อ ''ฟิล์ม'' จากความเป็นพ่อด้วยหรือเปล่า นักร้องหนุ่มก็ได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยพูดถึงทั้งสิ้น จนกระทั่งหลังจากที่ ''แอนนี่'' ไปออกรายการมากกว่าตนก็เลยระเบิด
     
    ''ไม่มีครับ...ลองไปเช็กกันได้เลยนะ ก็จะมีเพียงแค่วันที่ผมไปถ่ายเอ็มวี ก็มีคนมาถามผม ผมก็เลยระเบิดขึ้นว่า เฮ้ย! ทำไมมันเป็นอย่างนั้น คือเราตั้งใจจะทำงานและอยากจะทำงานอย่างเดียว ไม่ใช่พองานอะไรใหม่ๆ ของ ฟิล์ม ออกมาปุ๊บ ก็มาแล้ว...มาอีกแล้ว มาทำลายความมั่นคงของฟิล์ม อีกแล้วครับ (เห็นว่าทาง ''แอนนี่'' มีการเตรียมเอกสารแล้ว?) ผมว่าไม่น่ามีนะครับ เพราะว่าทุกๆ คำสั่งมันก็ออกมาจากศาล และทุกๆ คำสั่งมันก็มีศาลเป็นพยานทั้งนั้น แล้วก็มีตราประทับ มีอะไรที่มันเป็นรูปแบบทั้งนั้น มันไม่ได้มีใครถูกใครผิดหรอกครับ แต่สิ่งที่ทุกๆ คนสามารถจะรู้ได้ก็คือว่า ทำไมไม่ไปถอดออกสักที มันมีข้อให้ทุกคนคิดนะครับ ผมมาวันนี้ เพราะอยากจบครับ เพราะผมเบื่อครับ ผมอยากทำงาน ทำอะไรใหม่ๆ ก็จะมีแต่สิ่งเหล่านี้มากวนใจตลอด คือครั้งแรกก็บอกว่า ไม่ได้เซ็นชื่อการเป็นพ่อ ครั้งนี้มาเปลี่ยนอีกแล้วกลายเป็นชื่อผมกลายเป็นพ่อ แล้วผมไม่ได้ขออะไรเลย ไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยทำอะไรทั้งนั้น แต่กลับไม่ได้ทำตามสักทีนะครับ ผมก็เท่านี้แหละ''
     
    ต่อข้อซักถามที่ว่า ในเมื่อเป็นข้อกำหนดจากทางศาลแล้วทางศาลได้มีการกำหนดไว้ไหมว่า ต้องภายในระยะเวลากี่วัน นักร้องหนุ่มก็ได้ปฏิเสธว่า ตนเองไม่ทราบเรื่องนี้ ต้องถามทางทนายอีกทีหนึ่ง
     
    ''ถูกต้องครับเป็นข้อกำหนดทางศาล...แต่ผมไม่รู้ตรงนั้นจริงๆ สิ่งที่ผมรู้ผมก็จะบอก ต้องชี้แจงนะครับ และผมก็สามารถพูดอย่างนี้ได้ทุกวันว่า คือมันตกลงกันไม่ได้ครับ เจ้าตัวกับเจ้าตัวคุยกันไม่ได้ครับ ก็จะมีคนกลางคือทนายครับ มาถามฟิล์มๆ ก็ไม่รู้ครับ ถ้าเค้าบอกว่า เป็นเพราะผมออกมาพูดก่อน ผมว่ามันไม่น่าจะอ้างกันได้ และไม่น่าจะมาเป็นประเด็นได้แล้วนะครับ ถึงใครจะพูดอะไรก็ตาม แล้วทำไมไม่ทำตามละครับ ผมรอตั้งแต่ ก.พ. นี่ 4 เดือนแล้วนะครับ''
     
    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า มั่นใจไหมว่า ตนเองบริสุทธิ์ นักร้องหนุ่มก็ได้กล่าวยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า มั่นใจมานานแล้ว และรู้ด้วยว่าใครคือพ่อตัวจริง เพียงแต่ตนเองพูดไม่ได้ เพราะตนเองเป็นผู้ชาย
     
    ''โอ๊ย...ผมมมั่นใจมานานแล้วครับ ผมมั่นใจมาตลอดเลยครับ แล้วผมก็รู้ดีแก่ตัวเองผมด้วย แต่ว่าผมพูดอะไรไม่ได้ครับ เพราะผมเป็นผู้ชาย แล้วผมก็ไม่ได้อุ้มลูกนะครับ ผมทำอะไรไม่ได้เลย คือตอนนี้ผมก็ได้แต่ขอความเป็นธรรมจากทุกๆ ฝ่าย ได้แต่ทำในสิ่งที่มันถูกต้องที่สุด ผมรู้ดีว่า ผมไม่ใช่ (รู้ไหมว่าใครเป็นพ่อ?) ผมรู้ครับ...ทุกอย่างมันเคลียร์ชัดตั้งแต่อยู่ที่ศาลแล้วครับ แต่ผมไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่อยู่ในศาลมันพูดความจริงกันเท่านั้นครับ มันไม่มีใครโกหกได้ ตอนนี้ผมรู้สึกแค่ว่า สงสารเด็กเหลือเกินครับ สงสารว่า ทำไมต้องมีผู้ใหญ่มาทำอะไรกับเค้าอย่างนั้นด้วย ซึ่งเค้าก็น่ารักนะครับ แต่ที่สงสารที่สุดก็คือ เมื่อไรเค้าจะรู้สักทีว่าใครคือตัวจริงนะครับ คือเมื่อไรจะมีความชัดเจนให้กับเค้าสักที คือมันน่าจะจบประเด็นได้แล้วนะครับ แต่ ณ วันนี้ก็ยังไม่ยอมอีกนะ''
     
    อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่า คิดว่าหน้าน้องเหมือนใครนั้น นักร้องหนุ่มก็ได้ระเบิดอารมณ์ออกมาว่า ถึงตอนนี้ทุกคนก็น่าจะดูกันออกแล้ว พร้อมกับบอกให้ลองวัดรายชื่อกับบุคคลที่เคยเป็นข่าวที่ผ่านมากับ ''แอนนี่'' ว่ามีกี่รายเพียงเท่านั้นเอง
     
    ''ผมว่า ตอนนี้ทุกๆ ท่านก็น่าจะวัดได้แล้วนะครับ น่าจะวัดได้กับคนที่เคยมีกระแสข่าวที่ผ่านมาว่า มีกี่รายนะครับ ว่ากี่รายชื่อ ไปวัดเอาเองเลยครับ คือบอกตรงๆ ว่า ผมเบื่อจริงๆ แล้วล่าสุดเห็นเค้าไปออกรายการของทาง คุณอาสรยุทธ์ คือก่อนอื่นต้องขอบคุณก่อนว่า เค้าบอกผมว่า ต้องการความชัดเจน แล้วคุณอาก็บอกอีกว่า รู้ว่าผมไม่ใช่ เพราะแอนนี่พูดว่า มันเลยจุดนั้นไปแล้วค่ะ ซึ่งมันเลยอะไรล่ะ อ้าว...! ทุกคนสงสัยไหมล่ะว่า มันเลยอะไรล่ะ พอคำถามที่ตัวเองตอบไม่ได้ก็จบหรอ เลยไปแล้วหรอ แล้วไอ้คนที่ยังเป็นข่าวอยู่อย่างนี้ก็งงสิ ว่าเฮ้ย! เลยอะไรว่ะ เลยอะไรผมรออยู่เลย (น้ำเสียงอารมณ์เสีย) เอางี้...ผมก็ไม่สามารถพูดอะไรได้มากนัก แต่ว่าไปวัดกันเอาเองครับ แล้วผมก็ขอทำงาน แล้วผมก็ขอทำอะไรให้สิ่งที่ทำให้คุณแม่ผมภูมิใจ ทำอะไรให้กับแฟนๆ ผมภูมิใจเพราะทุกคนให้โอกาสผมมา ผมกำลังเริ่มกลับมาทำงานใหม่ ผมกำลังมีงานพรีเซนเตอร์เข้ามาเยอะแยะมากมาย เค้าออกมาทีหนึ่งมันสั่นคลอนเลยครับ สั่นมากเลยครับ (มีถอนไหม?) ตอนนี้ยังนะครับ แต่ก็เริ่มสั่นแล้วนะ ผมอยากพูดแค่ว่า สงสารผมเถอะครับ สงสารผมเถอะ ผมก็เป็นคนๆ  นึงครับ ซึ่งผมก็ต้องหาเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ เพราะความจริงมันก็คือความจริงครับ อย่าหนีกันไปเลย แล้วก็อย่าเอาพื้นที่ตรงนี้มาเป็นพื้นที่เพื่อให้ตัวเองได้ยืนในสังคมเลยครับ แล้วให้คนอื่นตาย ขอร้องเถอะครับ'' ฟิล์ม กล่าว