ฟุตบอล ยูโร 2012

รอบแรก นัดสุดท้าย กลุ่ม เอ.

วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 2555

สาธารณรัฐเช็ก 1         -        0 โปแลนด์

สนาม : มูนิซิปาล สเตเดี้ยม, วรอสวาฟ, โปแลนด์   ผู้ชม : 31,280 คน

          มิชาล บิเล็ค กุนซือสาธารณรัฐเช็ก พาทีมพ่ายยับต่อ รัสเซีย ในนัดแรกถึง 1-4 ก่อนจะมาแก้ตัวได้ด้วยการเอาชนะ กรีซ ได้อย่างสนุก 2-1 ทำให้มีทั้งหมด 3 แต้มจากสองนัด ยังมีลุ้นเข้ารอบอยู่ สาธารณรัฐเช็ก เกมนี้ขอแค่เสมอจะผ่านเข้ารอบต่อไปทันทีเกมนี้จะไม่มี โทมัส โรซิชกี้ กัปตันทีม ที่ได้รับบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ไม่ผ่านความฟิตโดยจะให้ ดาเนียล โกลาร์ แข้งจากวิคตอเรีย พิลเซ่น ลงทำหน้าที่แทน

        ขณะที่ "โปลสก้า" โปแลนด์ ชาติเจ้าภาพร่วมของศึกยูโร 2012 ภายใต้การคุมทัพของ ฟรานซิสเซ็ค สมูด้า เทรนเนอร์วัย 63 ปี พาทีมเปิดสนามเสมอกับ กรีซ 1-1 ในนัดแรก ก่อนเสมอกับ รัสเซีย 1-1 ในนัดที่สอง มีแค่ 2 คะแนนจากสองนัด รั้งอันดับสามของกลุ่ม ยังมีลุ้นเข้ารอบอยู่เช่นกัน แต่ต้องเอาชนะ สาธารณรัฐเช็ก ให้ได้สถานเดียวเพื่อโอกาสเข้ารอบต่อไป เกมนี้ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมทั้งหมดลงสนาม


 

     เริ่มเกมขึ้นมาแค่สองนาทีเป็นเจ้าภาพ โปแลนด์ ที่ได้ลุ้นก่อน จากจังหวะที่ มิชาล คัดเล็ช ไปทำฟาว์ล โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทางฝั่งขวา ก่อนที่เปิดฟรีคิกเข้ามากลางประตูให้ ดาริอุสซ์ ดุ๊ดก้า ได้ขึ้นวอลเล่ย์เต็มเท้าลูกหลุดเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

     นาทีที่ 4 สาธารณรัฐเช็ก ทำเกมสวนขึ้นมาบ้าง ธีโอดอร์ กาเบร เซลาสซี่ บรรจงเปิดเข้ากรอบเขตโทษบอลมาถึง วาคลาฟ ปิลาร์ แต่เจ้าตัวดันยิงวืดเต็มๆ ทำให้พลาดโอกาสทำประตูขึ้นนำ

     นาทีที่ 10 โปลสก้า น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อ ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ กัปตันทีม แทงทะลุช่องมาให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์หลุดเข้าไปในกรอบ ซัดด้วยซ้ายลูกพุ่งเข้าหน้าต่างแบบได้ลุ้น

     อีกสองนาทีถัดมา สาธารณรัฐเช็ก มาได้รับใบเหลืองแรกในเกมนี้ จังหวะที่ ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ พุ่งเสียบใส่ ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ กัปตันทีมโปแลนด์

     นาทีที่ 22 เกมเปิดแลกกันสนุกก่อนที่เป็นเจ้าภาพที่ได้ลุ้นอีกแล้ว จากจังหวะลูกยิงไกลระยะ 30 หลา ของ เซบาสเตียน โบนิช ยิงด้วยซ้ายเต็มเท้าลูกพุ่งจะเสียบโคนเสาอยู่แล้วแต่ ปีเตอร์ เช็ก ยังโชว์เซฟปัดทิ้งไปได้ทัน

     จากจังหวะต่อมา สาธารณรัฐเช็ก เปิดเกมสวนกลับเร็ว ราฟาล มูราฟสกี้ ต้องรีบตัดฟาล์ว มิลาน บารอส เลยทำให้ได้รับใบเหลืองคนแรกของทางฝั่งโปแลนด์

     นาทีที่ 37 สาธารณรัฐเช็ก พลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ เปิดบอลโด่งขึ้นหน้าจากกลางสนามให้ มิลาน บารอส ที่วิ่งเช็คหลุดกับดักล้ำหน้า แต่น่าเสียดายเกี่ยวบอลไม่ติด บอลพุ่งเข้ามือ เพอร์เซมีสลาฟ ไททัน

     ท้ายครึ่งแรก สาธารณรัฐเช็ก เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่องแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะประตูเจ้าภาพได้ จบ 45 นาทีแรก สาธารณรัฐเช็ก ยังเสมอ โปแลนด์ 0-0

     เริ่มครึ่งหลังมาเพียงสามนาทีเท่านั้น เจ้าภาพโปแลนด์ ต้องมาโดนใบเหลืองอีกราย จังหวะที่ ออยเก้น โพลันสกี้ ล้มตัวเสียบ วาคลาฟ ปิลาร์ เป็นใบเหลืองที่สองของเจ้าภาพ

     นาทีที่ 54 สาธารณรัฐเช็ก เกือบจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ พาบอลขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะหลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเหมือนจะเข้ากรอบแต่ไม่ใช่ เข้าข้างตาข่ายแทน

     นาทีที่ 56 ฟรานซิสเซ็ค สมูด้า เทรนเนอร์โปแลนด์ ปรับเกมโดยส่ง คามิล โกรซิคกี้ แข้งจาก ซีวาสสปอร์ ลงมาเล่นแทน ออยเก้น โพลันสกี้ ออกมาพักหลังโดนใบเหลืองไปก่อนหน้านี้

     โปแลนด์ มาโดนใบเหลืองอีกราย นาทีที่ 61 เมื่อ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ พุ่งเสียบ ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ ที่กำลังจะยิงตรงเส้นกรอบเขตโทษ

     สาธารณรัฐเช็ก ยังเดินหน้าบุกเป็นชุด นาทีที่ 64 ยาโรสลาฟ พลาซิล เปิดฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเข้ากลางประตู บอลเลยมาเข้าหัว โทมัส ซิว็อค ได้โหม่งลงพื้น เพอร์เซมีสลาฟ ไททัน เซฟจังหวะแรกได้ บอลลอยมาถึง โทมัส ซิว็อค จะเข้ามาซ้ำแต่ นายทวารโปแลนด์ ยังเร็วพุ่งปัดทิ้งออกไปก่อนได้ทัน

 

     ความพยายามของ สาธารณรัฐเช็ก เริ่มเป็นผล นาทีที่ 72 จากจังหวะที่ มิลาน บารอส พาบอลขึ้นมาหน้ากรอบโทษ ก่อนจะไหลให้ ปีเตอร์ ยิราเช็ค ที่วิ่งย้อนมาจากด้านหลังหลุดเข้าไปในกรอบ ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์เหนือด้วยการล็อคเท้าซ้ายก่อนหนึ่งจังหวะ แล้วซัดด้วยขวาลูกเลียดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงาม สาธารณรัฐเช็ก ขึ้นนำ 1-0

     นาทีที่ 73 เทรนเนอร์โปแลนด์ แก้เกมทันทีเปลี่ยนผู้เล่นถึงสองรายพร้อมกันทีเดียวโดยถอด ลูโดวิช โอบราเนี้ยค ออกแล้วส่ง พาเวล โบรเซ็ค ดาวยิงกลาสโกว์ เซลติก อีกรายที่โดนเปลี่ยน ราฟาล มูราฟสกี้ ออกให้ อาเดรียน เมียร์เซเยฟสกี้ มิดฟิลด์จากแทร็บซอนสปอร์ ลงทำหน้าที่แทน

     นาทีที่ 83 มิชาล บิเล็ค กุนซือสาธารณรัฐเช็ก เปลี่ยนตัวบ้างโดยถอด ปีเตอร์ ยิราเช็ค คนที่ทำประตูออกมาพักแล้วส่ง ฟรานติเซ็ค รายโตรัล กองหลังลงมาเล่นเกมรับ

     นาทีที่ 87 ผู้เล่นทั้งสองทีมมาโดนใบเหลืองฝั่งละใบ สาธารณรัฐเช็ก จาก ยาโรสลาฟ พลาซิล ส่วนโปแลนด์ ยาคุบ บลาซซีคอฟสกี้ กัปตันทีม

     นาทีที่ 88 กุนซือสาธารณรัฐเช็ก เปลี่ยนตัวอีกราย ยาน เรเซ็ค กองกลางจาก อนอร์โธซิส ลงมาเล่นแทน วาคลาฟ ปิลาร์

     นาทีที่ 90 มิชาล บิเล็ค ปรับเกมโดยส่ง โทมัส เพ็คฮาร์ท ดาวยิงจากเนิร์นแบร์ก ลงเล่นแทน มิลาน บารอส หัวหอกกาลาตาซาราย

     ท้ายเกมเจ้าภาพโปแลนด์ โหมบุกหนักและเกือบจะได้ประตูตีเสมอจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ติดบล็อค โทมัส ซิว็อค เคลียร์ทิ้งออกไปได้ จบเกม สาธารณรัฐเช็ก เอาชนะ โปแลนด์ 1-0 เป็นแชมป์กลุ่มเอ มี 6 แต้มหลัง รัสเซีย แพ้ กรีซ 0-1 กรีซผ่านเข้ารอบเป็นอันดับสองเขี่ย รัสเซีย กับ โปแลนด์ เจ้าภาพร่วมตกรอบ


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 

        สาธารณรัฐเช็ก : ปีเตอร์ เช็ก (กัปตันทีม) - ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่, โทมัส ซิว็อค, มิชาล คัดเล็ช, ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ - โทมัส ฮุบช์มัน, ยาโรสลาฟ พลาซิล - ปีเตอร์ ยิราเช็ค (ฟรานติเช็ค รายโตรัล น.83), ดาเนี่ยล โคลาร์, วาคลาฟ ปิลาร์ - มิลาน บารอส (โทมัส เพ็คฮาร์ท น.89)
        สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ยาน ลาสตุฟก้า (ผู้รักษาประตู), ยาโรสลาฟ ดร็อบนี่ย์ (ผู้รักษาประตู), มาเร็ค ซูชี่, โรมัน ฮุบนิค, โทมัส เนชิด, ยาน เรเซ็ค, โทมัส โรซิชกี้, มิลาน ปีเตอร์เซล่า, ดาวิด ลาฟาต้า, วลาดิเมียร์ ดาริด้า
        ใบเหลือง : ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ น.12, ยาโรสลาฟ พลาซิล น.88, โทมัส เพ็คฮาร์ท น.93

        โปแลนด์ : เชมีสลาฟ ไทตอน - ลูคัส พิสเซ็ค, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้, ดาเมียง แปร์กิส, เซบาสเตียน เบอนิช - ดาริอุสซ์ ดุ๊ดก้า, ออยเก้น โปลันสกี้ (คามิล โกรซิคกี้ น.56) - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (กัปตันทีม), ราฟาล มูราฟสกี้ (อาเดรียน เมียร์เซฟสกี้ น.73) , ลูโดวิช โอบราเนี้ยค (พาเวล โบรเซ็ค น.71)- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
        สำรองที่ไม่ได้ใช้ : วอยเซียช เซสนี่ (ผู้รักษาประตู), เกอร์เซกอร์ซ ซานโดเมียร์สกี้ (ผู้รักษาประตู), เกอร์เซกอร์ซ วอยต์โคเวี้ยค, มาร์ซิน คามินสกี้, อดัม มาตูซี้ค, มาซีจ ไรบุส, ยาคุบ วาฟร์ซีเนี้ยค, อาร์เทอร์ โซบีช, ราฟาล โวลสกี้
        ใบเหลือง : ราฟาล มูราฟสกี้ น.23, ออยเก้น โปลันสกี้ น.48, มาร์ซิน วาซิเลฟสกี้ น.60, ดาเมียง แปร์กิส น.90

        ผู้ตัดสิน : เคร็ก ธอมป์สัน (สก็อตแลนด์)
        ผู้ช่วยผู้ตัดสิน : อลาสแดร์ รอส (สก็อตแลนด์), ดีเร็ค โรส (สก็อตแลนด์)
        ผู้ตัดสินที่ 4 : เฟรดี้ โฟแตรล (ฝรั่งเศส)     

          แมน ออฟ เดอะ แมตช์





ปีเตอร์ ยิราเช็ค มิดฟิลด์สาธารณรัฐเช็ก

        ด้วยผลงานที่เขายิงประตูชัยนาที 72 นำ สาธารณรัฐเช็ก ชนะ โปแลนด์ ชาติเจ้าภาพร่วม 1-0 ส่งให้ เช็ก ได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2012 และรูปเกมส่วนใหญ่เขาก็ทำได้ดีอีกด้วย ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามนาที 83 เนื่องจากบาดเจ็บ โดยเป็น ฟรานติเช็ค รายโตรัล ลงเล่นแทน

 
สถิติหลังเกม
สาธารณรัฐเช็ก                                                    โปแลนด์ 
          12(5)               ยิงทั้งหมด (เข้ากรอบ)          15(6) 
            20                            ฟาวล์                                21 
             6                            เตะมุม                                6 
             3                            ล้ำหน้า                               1 
           59%            เปอร์เซนต์การครองบอล        41% 
             3                          ใบเหลือง                             5 
             0                           ใบแดง                                0 
             6                         ช็อตเซฟ                              4