แอนนี่ บรู๊ค ได้เดินทางไปมาเปิดใจผ่านรายการ สรยุทธ เจาะข่าวเด่น ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เมื่อช่วงเย็นวันนี้ (18 มิ.ย.) โดย แอนนี่ ที่เดินทางมาพร้อมกับทนายความได้เปิดเผยการเริ่มรายการว่า มีความจำเป็นที่ต้องออกมาชี้แจงกรณีที่เกินความเข้าใจไม่ตรงกัน แม้ความจริงไม่คิดที่จะมาออกรายการในลักษณะนี้เลย

ดาราสาว แอนนี่ บรู๊ค เริ่มชี้แจงด้วยภาษาและท่าทางที่ดูสุขุม นุ่มนวล และมีหลักการ โดยเปิดเผยว่า ขณะนี้ถูกละเมิดข้อตกลงของศาล หลังจากที่เกิดการไกล่เกลี่ยกันระหว่างสองฝ่าย เกิดข้อตกลงข้อหนึ่งว่า "ห้ามทั้งสองฝ่ายพูดถึงกันและกันอีก รวมทั้งน้องฑีฆายุ ไม่ว่าจะเป็นชื่อเล่นหรืออักษรย่อก็ตาม"

ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา แอนนี่ ได้รับฟังและเห็นว่า อีกฝ่าย (ฟิล์ม รัฐภูมิ) ได้พูดถึงและให้ข่าวเกี่ยวกับคดีและตนเองอยู่เสมอๆ นับเป็นการละเมิดข้อตกลงของศาล ที่ยังไม่เกิดการตัดสินคดีดังกล่าวนี้เลย

จนกระทั่งล่าสุด ตนเองกับน้องฑีฆายุ ได้ไปออกรายการ ตีสิบ ทางช่อง 3 แม้ว่าตนเองไม่ได้พาดพิงถึงอีกฝ่ายเลยก็ตาม แต่อีกฝ่ายกลับออกมาเปิดประเด็นว่า ทำไมตนไม่ยอมทำอย่างนั้นอย่างนี้? (กรณีถอดชื่อออกจากการเป็นพ่อของเด็ก)

แอนนี่ จึงชี้แจงว่า เรื่องการถอดชื่อนั้นเป็นหนึ่งในข้อตกลงของศาล ที่ทั้งสองฝ่ายได้เสนอและต้องการให้เกิดขึ้น เนื่องจากตนเองก็เริ่มมีความยากลำบากในส่วนของเอกสารทางราชการ แต่การดำเนินการในเรื่องนี้นั้น ศาลระบุว่าให้ดำเนินการถอดชื่อในทางลับ ระหว่างทั้งสองฝ่ายกันเอง ไม่มีกำหนดการที่ตายตัว ไม่ใช่ออกมาป่าวประกาศเช่นนี้ ซึ่งอีกฝ่ายได้ติดต่อมาเพียงครั้งเดียว แต่ตอนนี้แอนนี่ทำงานอยู่ต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องเลื่อนนัดออกไปจนกระทั่งปัจจุบัน

นอกจากนี้ แอนนี่ ยังบอกอีกว่า ในเวลานี้ตนไม่ต้องการเรียกร้องอะไรอีกแล้ว เพราะเคยทำข้อตกลงกับศาลไว้ว่า "ห้ามอีกฝ่ายมาฟ้องร้องเรียกร้องเป็นพ่อของเด็กอีกเด็ดขาด" นั่นหมายความว่า ตนได้ตัดเขาออกไปแล้ว

ในกรณีที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ ออกมาบอกว่าตัวเองเป็น "แพะ" แอนนี่ บอกว่า กรณีไม่มีใครเป็นแพะ เรื่องที่ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิด การยอมความที่ทำลงไปนั้น สิ่งเหล่าแสดงว่าตนเองยอมถอนออกไปแล้ว และตนยังคงมั่นคงต่อคำสั่งของศาลอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง

ส่วนเรื่องการตรวจพิสูจน์หรือตรวจดีเอ็นเอ แอนนี่ ยืนยันว่า "ไม่เคยมีการตรวจดีเอ็นเอเกิดขึ้น" ที่ผ่านมาเป็นการยอมความและถอนฟ้องคดีต่างๆ ออกจากศาล พัวพันกันแค่ระหว่าง แอนนี่-ฟิล์ม รัฐภูมิ-เฮียฮ้อ

หลายคนอาจจะสงสัยว่า 2 ปีที่ผ่านมาสำหรับกรณีนี้ ทำไมมันถึงจบลงได้ง่ายๆ แบบนี้? เพราะว่าแอนนี่มีกำลังที่ไม่มากพอที่จะต่อสู้จนถึงที่สุด และไม่ว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบลงเช่นไร ยังไงแอนนี่ก็ยังเป็นแม่ของน้องฑีฆายุ

แม้ว่าในวันนี้หลายคนต้องการจะรู้ผลการตรวจดีเอ็นดีเพื่อความสะใจ แต่เรื่องจะตรวจหรือไม่ตรวจ ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต แอนนี่ให้น้องฑีฆายุเป็นคนเลือกเมื่อเขาโตขึ้น ไม่ใช่เราหรือผู้ใหญ่คนนั้นเป็นคนยัดเยียด

เมื่อถามถึงเรื่องอนาคตต่อไปของ น้องฑีฆายุ แอนนี่บอกไว้ว่า ตอนนี้มีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนสำหรับลูก มีคำตอบให้สำหรับทุกคำถามที่ลูกจะถาม เมื่อลูกโตขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้าย แอนนี่ ทิ้งไว้ว่า การต่อสู้ครั้งนี้มันยืดเยื้อมานานมาก เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายก็อยากจะให้มันจบลงได้แล้ว ซึ่งตอนนี้เอง ตนเองก็ยอมและถอยออกมาแล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะละเมิดข้อตกลงของศาล ยังไงตนก็จะขอจบเรื่องนี้เสียที อีกทั้งยังเชื่อว่าประชาชนมีวิจารณญาณเพียงพอ และพิจารณาได้ว่าอันไหนจริงหรือไม่จริง