แกรี่ เนวิลล์ สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติอังกฤษ ออกโรงเร้าขุนพล "สิงโตคำราม" ให้ระเบิดฟอร์มเก่งเพื่อจัดการกับความอันตรายของ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกทีมชาติอิตาลี แต่ยังเชื่อว่า โจลีออน เลสค็อตต์ เซนเตอร์แบ็กร่างโย่ง จะจัดการได้อย่างอยู่หมัด จากการที่ได้เล่นร่วมกับ ดาวเตะวัย 21 ปี ในระดับสโมสรอย่างต่อเนื่อง

        แกรี่ เนวิลล์ สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติอังกฤษ ออกมากล่าวเตือนบรรดาแข้ง "สิงโตคำราม" ว่าให้ระวัง มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าทีมชาติอิตาลีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไว้ให้ดี เนื่องจากเชื่อว่าเขาพร้อมที่จะพังประตูคว้าชัยให้ทัพ "อัซซูรี่" ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมจะพบกันใน ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012" รอบก่อนรองชนะเลิศ ในวันอาทิตย์ที่ 24 มิ.ย. นี้
 
        เนวิลล์ เชื่อว่า บาโลเตลลี่ มีทีเด็ดที่พร้อมจะทำให้พลพรรค "สิงโตคำราม" ต้องน้ำตาร่วงได้ในเกมที่จะถึงนี้ แต่ยังมั่นใจว่าพวกเขาจะหยุด ดาวยิงวัย 21 ปี ไว้ได้อย่างแน่นอน ด้วยฝีเท้าของ โจลีออน เลสค็อตต์ ปราการหลังตัวแกร่ง ที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของ "ซูเปอร์มาริโอ" ในทัพ "เรือใบสีฟ้า"
 
        อดีตแบ็กขวาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า "โจลีออน จะรู้จักเขาดีกว่าคนอื่นๆในทีม และมันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม มันจะไม่มีเซอร์ไพรส์จาก โจลีออน ในวันอาทิตย์นี้ เช่นเดียวกับ จอห์น เทอร์รี่ ที่จะได้ลงเล่นคู่กัน มันจึงเป็นเรื่องที่ดี แต่มันชัดเจนว่าการที่ต้องรับมือกับเขา (บาโลเตลลี่) จะเพิ่มความสนุกให้เกมขึ้นไปอีก"
 
        "บาโลเตลลี่ ต้องการที่จะยิงประตู อังกฤษ เขาเป็นหนึ่งในนักเตะชั้นยอดใน อังกฤษ ไปแล้ว เขาเป็นแชมป์ลีกอังกฤษกับ แมนฯ ซิตี้ และเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่เล่นด้วยยากมาก คุณต้องระเบิดฟอร์มที่ดีที่สุดของคุณออกมาในเกมแบบนี้"
 
        "เรา เริ่มต้นจากการที่ไม่ได้มีความคาดหวังมากมายจากผู้คน แต่มันก็ไม่ควรจะกลายเป็นการเพิ่มความคาดหวังอย่างกะทันหันเพียงเพราะเรา เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม ความเป็นจริงและความอ่อนน้อมถ่อมตนจะบอกคุณได้ว่าคุณจะเป็นผู้ชนะหรือผู้แพ้ ในทุกเกมไม่ว่าจะเจอกับใครก็ตาม"
 
        นอกจากนี้ เนวิลล์ เผยว่าแทบจะคุมตัวเองให้อยู่ในบริเวณข้างสนามไม่อยู่ เนื่องจากมีอารมณ์ร่วมกับเกมเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ยอมรับว่า รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เป็นคนที่ทำให้เจ้าตัวสามารถเก็บอารมณ์ความรู้สึกของตนเองไว้ได้
 
        เน วิลล์ กล่าวว่า "ผมค่อนข้างจะมุ่งมั่นเวลาอยู่ในสนาม แต่เวลาอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ผมก็ยังควบคุมตัวเองไม่ค่อยจะได้ มันเป็นเรื่องดีที่มีใครสักคนที่สุขุม และใจเย็นอยู่ข้างๆเพราะผมจะผลุบๆโผล่ๆ เหมือนจุกไม้ก๊อกในขวดไวน์ รอย เป็นคนใจเย็น, ไม่เสียสมาธิไปกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น, นำความอ่อนน้อมถ่อมตนมาสู่ทีม รวมทั้งไว้วางใจในตัวของนักเตะทุกคน ผมคิดว่าพวกเขา (นักเตะทีมชาติอังกฤษ) เริ่มจะยอมรับแล้วว่าเขาเป็นคนที่พวกเขาชอบและอยากจะเล่นให้"
 
         "สิ่งหนึ่งของทีมชุดนี้ที่น่าเหลือเชื่ออย่างยิ่งในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้คือความขยัน, ความมุ่งมั่น และความพยายามของนักเตะทุกคน แม้กระทั่งผม ที่เคยได้เล่นร่วมกับพวกเขาไม่กี่คน ยังรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจที่ได้เห็นพวกเขาจาก อีกฟากหนึ่งของสนามเลย" อดีตฟูลแบ็กวัย 37 ปี กล่าวทิ้งท้าย