อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือ อาร์เซน่อล ป้อง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ หัวหอกชาวดัตช์ ไม่สมควรโดนตำหนิติติงเลยแม้แต่น้อยภายหลังการตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2012 ของทีมชาติฮอลแลนด์ เชื่อเล่นได้ดีแล้ว แต่ผลงานตกไปบ้างน่าจะมาจากเรื่องของความอ่อนล้ามากกว่า

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม "เจ้าปืนใหญ่" อาร์เซน่อล แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกโรงปกป้อง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นการใหญ่ หลังลูกทีมคนเก่งโดนวิจารณ์อย่างหนักถึงฟอร์มการเล่นที่ย่ำแย่ระหว่างลงเล่น รับใช้ทีม "อัศวินสีส้ม" ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2012"

เวน เกอร์ พูดถึง ฟาน เพอร์ซี่ ที่ไม่อาจใช้ความเป็นดาวยิงสูงสุดของลีกผู้ดีเมื่อฤดูกาลก่อน ช่วยทัพ "กังหันสีส้ม" หลุดรอดพ้นจากการตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูโร 2012 ได้ ว่า "โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ควรได้รับความดีความชอบในทีมชาติฮอลแลนด์ มากกว่าที่เขาได้อยู่ในตอนนี้ ผมคิดว่าเขายังคงเป็นกองหน้าที่ดีที่สุดในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ผมได้ดูทุกเกมที่เขาลงเล่น หากคุณมองไปที่การวิ่งที่เขาทำได้, การจ่ายบอลของเขา, ทุกอย่างที่เขาทำจริง มันช่างดีมากเลยทีเดียว" 

"แม้ เขาจะไม่สามารถทำโอกาสของตัวเองได้ แต่นั่นมันก็เป็นเพราะความเหนื่อยล้า โรบิน มีระดับฝีเท้าเหนือกว่ากองหน้ารายอื่น รวมไปถึง (คลาส-แยน) ฮุนเตลาร์ ด้วย โรบิน ไม่ได้เป็นแค่กองหน้าหรือนักเตะชั้นยอด เขาเป็นนักเตะสุดพิเศษ เขาไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองกับการเล่นที่นี่ ผมเข้าใจดีว่าเขาต้องการพิสูจน์ว่าตัวเขาสามารถยิงประตูได้มากมายให้กับ ฮอลแลนด์ ซึ่งนั่นเป็นความปรารถนาที่เห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากเขามีความเครียด เขารักที่จะเล่นเป็นอย่างมาก"

เวน เกอร์ เชื่อว่ากระแสกดดันที่ถาโถมเข้ามามากขึ้นและรวดเร็วในยุคปัจจุบัน มีส่วนกระทบต่อความรู้สึกอยากเล่นร่วมกันเป็นทีมของนักเตะเป็นอย่างมาก โดยระบุต่อว่า "นี่ส่งผลกระทบต่อสังคมที่พวกเราใช้ชีวิตอยู่ ความเร็วของการสื่อสารมวลชน, สื่อสังคมออนไลน์ รวมไปถึงอินเตอร์เนต ที่สร้างสถานการณ์และตีแผ่ข่าวไปอย่างรวดเร็วถึงผู้คนหลายล้านคนภายในเวลา 5 นาที และมันก็นำไปสู่กระแสวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนหลายล้านคนทั่วโลก"

"บรรดา นักเตะและโค้ชตกอยู่ภายใต้ความกดดันที่มากขึ้น ความรู้สึกถูกกระทบโดยกระแสวิเคราะห์วิจารณ์ นักเตะต้องสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงในทีมจากแรงกดดันนี้ และพวกเขาก็สนใจแต่เรื่องของตัวเองมากกว่าทีม เมื่อ 20 ปีก่อน มันเป็นสังคมของเรา แต่ตอนนี้มันเป็นสังคมของตัวเอง" นายใหญ่เลือดเฟร้นช์ ทิ้งท้าย