ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ฟุตบอลไทย » ทีมชาติไทย เราจะไปบอลโลก (เมื่อไรกัน)

ทีมชาติไทย เราจะไปบอลโลก (เมื่อไรกัน)

Posted 15/07/2012 by smmonline.net

 

ไชโย ไชโย ไชโย ! ไชโย ไชโย ไชโย ไชโย รวมพลังทั้งกายและใจรวมกันเป็นหนึ่ง ธงชัยชนะนั้นคือจุดหมาย ให้คนไทยไทยทุกคนส่งแรงใจ เชียร์ฟุตบอลไทยให้ไปเป็นหนึ่ง ฟังเพลงนี้กี่ครั้งผมก็รู้สึกฮึกเหิม และอยากเห็นทีมชาติไทยประสบความสำเร็จ แต่เมื่อย้อนกลับมาดูความเป็นจริง ทีมชาติไทยก็ยังเป็นทีมชาติไทยเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ว่

ในฐานะแฟนบอลไทยคนนึงในสยามประเทศ ผมจำไม่ได้แล้วว่าเคยมีความสุข และภาคภูมิใจกับการเชียร์ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยเมื่อไหร่กัน ซึ่งมันก็น่าจะนานพอๆ กับการรอคอยความสำเร็จของทีมชาติไทย ผมจำไม่ได้ว่าทีมชาติไทยชุดใหญ่ของเราเป็นแชมป์รายการสุดท้ายเมื่อไหร่ ที่ผ่านมารายการใหญ่ๆ เราก็แทบจะไม่ได้ไปแข่งขันเลย
 
ฟุตบอลโลก คงไม่ต้องพูดถึง ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ หรือฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติทวีปเอเชีย ก็ตกรอบคัดเลือกตลอด ฟุตบอลซูซูกิ คัพ หรือ ชิงแชมป์ภูมิภาค อาเซี่ยน ก็ตกรอบแรกและชวดแชมป์มาไม่รู้กี่สมัยแล้ว ซีเกมส์ 2 ครั้งล่าสุดตกรอบแรก ตอนนี้น่าตาทีมชาติไทยเป็นอย่างไร ก็คงไม่มีใครตอบได้ เพราะไม่มีรายการไหนให้ทีมชาติไทยของเราลงเตะเลย
 
ปลายปีนี้ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซี่ยน "ซูซูกิ คัพ" ได้ฤกษ์กลับมาแข่งขันกันอีกครั้งในทุกๆ 2 ปี โดยที่สำคัญปีนี้เราได้เป็นเจ้าภาพด้วย ร่วมกับมาเลเซีย แชมป์เก่า ซึ่งในรายการนี้เมื่อ 2 ปีก่อนเราตกรอบแรกมาอย่างน่าอายในยุคของกุนซือที่ชื่อไบรอัน ร็อบสัน
 
มาครั้งนี้เราได้โค้ชมากฝีมือจากเมืองเบียร์อย่าง "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ ผู้พาความหวังมาให้แฟนบอลชาวไทยได้รู้สึกมีกำลังใจในการเชียร์อีกครั้ง เมื่อปีที่แล้ว แต่จะว่าไปเชเฟอร์ ก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้กับทีมชาติไทย ปลายปีนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่กุนซือชาวเยอรมันจะสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทยด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ซูซูกิ คัพ
 
แต่เมื่อมาถึงตรงนี้ต้องบอกว่าปัญหาเดิมๆ มันกลับมาหลอกหลอนทีมชาติไทย และแฟนบอลชาวไทยอีกครั้ง นั่นก็คือเรื่องระยะเวลาในการเตรียมทีม เมื่อ 2 ปีที่แล้วในรายการเดียวกันนี้ ฟุตบอลไทยลีกปิดฤดูกาลได้ไม่ถึง 1 สัปดาห์ นักเตะทีมชาติก็ต้องบินไปเตะซูซูกิ คัพ กันต่อที่อินโดฯ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือไทยตกรอบแรก
 
2 ปีต่อมาในปีนี้ ปัญหาเดิมก็มาอีกแล้ว โปรแกรมฟุตบอลในประเทศมาอัดแน่นกันจนไม่มีที่ว่างให้ทีมชาติไทยได้หายใจ ไม่มีแม้กระทั้งเวลาที่จะเรียกตัวมาฝึกซ้อมหรืออุ่นเครื่อง ทั้งๆ ฟีฟ่า ก็กำหนดโปรแกรมปฏิทินฟีฟ่าไว้อยู่แล้ว หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ฟีฟ่าเดย์ ซึ่งทุกชาติก็มักจะเก็บตัวฝึกซ้อม หรืออุ่นเครื่องในช่วงดังกล่าว แม้จะไม่มีทัวร์นาเมนต์หรือรายการใหญ่ให้แข่งขันก็ตาม ซึ่งแฟนบอลไทยก็คงจะเคยชินกับเรื่องนี้ เพราะเราไม่เคยอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าอยู่แล้ว อยากจะอุ่นกับใครเมื่อไหร่ก็อุ่น 
 
ตั้งแต่ต้นปีทางด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยรู้ดีว่าปลายปีนี้เราจะมีทัวร์นาเมนต์สำคัญ และก็ได้บอกกับสมาคมฯ ว่าตนอยากจะเรียกนักเตะมาเก็บตัวฝึกซ้อมและอุ่นเครื่องอย่างน้อยเดือนล่ะครั้ง แต่สุดท้ายทางสมาคมฯ ก็ไม่สามารถจัดให้ได้ และเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในตอนนี้
 
เมื่อ 2 ปีก่อนผมเองก็เคยพูดถึงเรื่องนี้เหมือนกัน และก็เขียนสกู๊ปในทำนองเดียวกันนี้ ว่าการที่เราไม่มีเวลาให้ทีมชาติไทย ระวังมันจะกลับมาทำร้ายตัวเราเอง สุดท้ายมันก็เป็นจริงๆ โดยตอนนั้นเราก็เชื่อมั่นว่าศักยภาพนักเตะเราเหนือกว่าทุกชาติ บวกกับนักเตะได้ซ้อมอยู่กับสโมสรมาทั้งปี ดังนั้นคงไม่มีปัญหาน่าจะเป็นแชมป์ได้ไม่ยาก ซึ่งตอนนั้นเราก็พยายามหลอกตัวเองว่าเราจะทำได้
 
ตอนนี้ก็เหมือนกัน เราก็คงคิดว่าด้วยฝีมือของ "วินนี่" ทีมชาติไทยของเราน่าจะกลับมาผงาดอีกครั้งได้ในซูซูกิ คัพ ครั้งนี้ ลึกๆ แล้วผมและแฟนบอลไทยก็หวังและอยากจะให้มันเป้นอย่างนั้น แต่ดูจากปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คงต้องเพื่อใจไว้บ้างถ้ามันออกมาอีหรอบเดิม 
 
ถึงอย่างไรก็ตามมันก็คงจะต้องเป็นเช่นนี้แหล่ะ คงไม่มีใครจะไปทำอะไรให้มันดีขึ้นได้ สุดท้ายไทย กับ ซูซูกิ คัพ 2012 จะเป็นเช่นไร คงต้องรอดูกัน แต่เรื่องจะไปบอลโลก ก็คงต้องดื่มวีต้า แล้วไปนอนซะ เหมือนเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »