การประชุมแผนการเตรียมทีมชาติไทยชุดสู้ศึกซูซูกิ คัพ 2012 ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-22 ธ.ค.นี้ ที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปลงตัวทั้งโปรแกรมอุ่นเครื่อง และการเก็บตัวตามที่ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยเรียกร้องมาก่อนหน้านี้

ดร. วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานไทยพรีเมียร์ลีก ตัดสินใจเลื่อนโปรแกรมฟุตบอลถ้วยไทยคม เอฟเอคัพ วันที่ 15 ส.ค. รวมไปถึงโปรแกรมโตโยต้าลีกคัพ วันที่ 12 ก.ย.เพื่อเปิดทางให้ทัพ "ช้างศึก"มีคิวลับแข้งตามปฏิทินของฟีฟ่าโดยไม่กระทบกับฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกซึ่งจะปิดฤดูกาลในวันที่ 28 ต.ค.เช่นเดิม

ด้าน วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดคิวอุ่นเครื่องให้ทีมชาติไทยดังนี้ โดยวันที่ 15 ส.ค.นี้ จะอุ่นเครื่องกับทีมรวมดารานักเตะต่างชาติในไทยพรีเมียร์ลีก ซึ่ง ดร.วิชิต เสนอว่าจะทำหนังสือขอสโมสรให้ส่งผู้เล่นต่างชาติทีมละ 1 คน(รวม 18 คน)เพื่อให้มาเป็นคู่ซ้อมเฉพาะกิจของทีมชาติไทยเพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบและกระทบกับทีมยักษ์ใหญ่มากเกินไป โดยโปรแกรมดังกล่าวจะเริ่มเข้าแคมป์ในวันที่ 13 ส.ค.หลังจากไทยพรีเมียร์ลีกแข่งขันวันที่ 12 ส.ค.

ส่วนในเดือน ก.ย. นั้นจากเดิมที่วางคิวอุ่นเครื่องกับพม่าในวันที่ 11 ก.ย.จะเลื่อนไปเป็นวันที่ 12 ก.ย.เพื่อให้นักเตะได้มีเวลารวมตัวตั้งแต่ 10 พ.ย. ก่อนจะเว้นว่างให้ฟุตบอลลีกแข่งขันจนจบฤดูกาลในช่วงเดือนต.ค. จากนั้นทีมชาติไทยชุดซูซูกิ จะเก็บตัวอย่างเต็มที่โดยเริ่มตั้งแต่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป

ในที่ประชุม "วินนี่"ยังร้องขอสถานที่เก็บตัวในช่วงสัปดาห์แรก (5-12 พ.ย.) ที่ สนามกอล์ฟอัลไพน์ กอล์ฟ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยใช้ในช่วงฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งสมาคมฟุตบอลก็อนุมัติตาม โดยหลังจากนั้นจะกลับมาที่กรุงเทพ และ มีโปรแกรมอุ่นเครื่องอีก 2 นัดในวันที่ 14 และ 18 พ.ย. เพื่อเตรียมความพร้อมครั้งสุดท้าย โดยสมาคมฯยืนยันว่า 1 ทีมในนั้นจะมีทีมชาติ สิงค์โปร์ ซึ่งจะลงแข่งขันซูซูกิ คัพ เช่นเดียวกับไทย ส่วนอีกทีมอยู่่ระหว่างการติดต่อ

วินฟรีด เชเฟอร์ ให้สัมภาษณ์หลังสามารถเคลียร์ปัญหาเรื่องการเตรียมทีมได้อย่างลงตัวว่า "ผมพอใจมากที่สมาคมฯจัดโปรแกรมอุ่นเครื่องและเก็บตัวได้อย่างดี เพราะทีมชาติเป็นเรื่องสำคัญมาก การที่ผมเลือกเก็บตัวเชียงใหม่ เพราะเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดทั้งสภาพอากาศ โรงแรม อาหารและสถานที่ และเราจะใช้ช่วงเวลานั้นเสริมสร้างความฟิตของนักเตะให้มากที่สุดก่อนจะกลับมาเน้นเรื่องระบบแท็คติกที่กรุงเทพฯ

“ผมรู้สึกประหลาดใจที่มีคนบอกผมว่าการประชุมครั้งนี้คือการเคลียร์ปัญหาระหว่างผมกับสมาคมฯเพราะที่ผ่านมาเราทำงานกับแบบราบรื่นและไม่เคยขัดแย้ง เราประชุมกันตลอดเวลาและก็ได้ข้อสรุปที่ดี การเตรียมตัวที่ดีจะนำไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งเรามีเป้าหมายจะต้องเขาถึงรอบชิงชนะเลิศในทัวนาเม้นนี้และผมเชื่อว่าเราจะทำได้"

อย่างไรก็ตามในส่วนของโปรแกรม ไทยคม เอฟเอคัพ วันที่ 15 ส.ค.และ โตโยต้าลีกคัพ วันที่ 12 ก.ย.ซึ่งถูกเลื่อนหลีกทางให้กับทีมชาติไทยอุ่นเครื่องนั้น ดร.วิชิต ก็ยอมรับว่ายังไม่ได้วางแผยเรื่องคิวเตะใหม่เอาไว้และต้องรอการหารืออีกครั้ง