เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าเลือดกระทิงของ เชลซี เชื่อว่าพลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" จะมีความมั่นใจมากขึ้นในการทำผลงานเพื่อลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่จะ ถึงนี้ หลังจากทำได้แค่เพียงอันดับ 6 เมื่อซีซั่นก่อน แต่ก็ยืนยันว่าจะไม่ใช่งานง่ายเนื่องจากบรรดาสโมสรระดับหัวแถวต่างมีความ สามารถที่ทัดเทียมกันแล้วในเวลานี้

เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าทีมชาติสเปนของ เชลซี ยักษ์ใหญ่เวทีพรีเมียร์ลีก ออกมากล่าวแสดงความมั่นใจว่าทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" จะระเบิดฟอร์มเก่งในฤดูกาล 2012-2013 นี้ด้วยการก้าวขึ้นไปลุ้นแชมป์แบบดุเดือดอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าอาจจะต้องผิดหวังพลาดแชมป์ในท้ายที่สุดก็ตาม

 เชลซี จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 6 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยนับเป็นตำแหน่งที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ที่พวกเขาเลยตั้งแต่ที่ โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีแดนหมีขาว เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003 แต่จากการที่เพิ่งความประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยครองบัลลังก์แชมป์ยู ฟ่า แชมเปี้ยน์ ลีก ฤดูกาลที่แล้ว และการเดินหน้าเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขุนพล "สิงโตน้ำเงินคราม" มีความมั่นใจมากขึ้นในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นที่จะถึงนี้
 
เชลซี ได้ตัวมาแล้วทั้ง เอแด็น อาซาร์, มาร์โค มาริน และ เควิน เดอ บรุนย์ มาเรียบร้อยแล้ว และเชื่อกันว่ากำลังจะได้ต้อนรับ ออสการ์ เพลย์เมกเกอร์เลือดแซมบ้าของ อินเตอร์นาซิอองนาล ในฐานะสมาชิกใหม่ในรังแสตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากจบมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ 2012 ในช่วงกลางเดือน ส.ค. นี้ โดย ตอร์เรส เชื่อมั่นว่าพวกเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ลีกสูงสุดอย่างแน่ นอนในฤดูกาลหน้า
 
ตอร์เรส กล่าวผ่านเว็บไซต์ของตัวเองว่า "ผมอยากที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ผมหวังว่ามันจะเกิดขึ้นในปีนี้ แต่แน่นอนว่าเราจะมีลุ้นคว้ามันอย่างแน่นอน"
 
พร้อมกันนี้ ดาวยิงวัย 28 ปี ยอมรับว่าศึกพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่จะถึงนี้จะเป็นการแข่งขันที่หนักหนา สาหัสขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน เนื่องจากมีหลายสโมสรที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ "ในความคิดของผม ความเท่าเทียมกันของสโมสรใหญ่ใน พรีเมียร์ลีก อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว คุณต้องดูวิธีที่ (แมนเชสเตอร์) ซิตี้ คว้าแชมป์ในช่วงโค้งสุดท้าย ในขณะที่ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำได้แค่เพียงอันดับ 6 เท่านั้น"
 
นอกจากนี้ ตอร์เรส ยอมรับว่ากำลังตั้งหน้าตั้งตารอที่จะลงสนามในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ในวันที่ 12 ส.ค. นี้ "มันจะเป็นเกมในแบบที่ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ เป็น มันจะเป็นการต่อสู้ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบระหว่าง 2 ทีมที่จำเป็นต้องต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์ทุกรายการทั้งใน อังกฤษ และในระดับยุโรป"