"ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงกับเซ็ง หลังอาจสูญรายได้ก้อนโตกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3,000 ล้านบาท) จากการที่หุ้นไอพีโอของพวกเขาที่จะขายในตลาดหลักทรัพย์เมืองมะกันถูกประเมิน ราคาแค่เพียง 14 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 520 บาท) ต่อ 1 หุ้น ทั้งที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกถึง 16-20 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 480-600 บาท)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่พรีเมียร์ลีก ออกมาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมาว่า พวกเขาได้รับการตีราคาหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ที่จะปล่อยขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (เอ็นวายเอสอี) ประเทศสหรัฐฯ ที่ราคา 14 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 520 บาท) ต่อ 1 หุ้น ทำให้รายได้ทั้งหมดที่น่าจะได้นั้น เหลือเพียง 233.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 6,996 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้มาก
 
ยูไนเต็ด ปล่อยขายจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 16,666,667 หุ้น ตามที่วางแผนไว้ แต่จะโกยทรัพย์ไปได้แค่เพียง 233.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 6,996 ล้านบาท) ถ้าขายในราคา 14 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 520 บาท) ต่อ 1 หุ้น ซึ่งน้อยกว่าที่คาดเอาไว้ร่วม 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3,000 ล้านบาท) จากการที่พวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ขายหุ้นในอัตรา16-20 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 480-600 บาท) ต่อ 1 หุ้น
 
จากสถานการณ์ดังกล่าว จะหมายความว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องหาทางอื่นมาระดมเงินเพื่อชำระหนี้ก้อนโตร่วม 437 ล้านปอนด์ (ราว 21,850 ล้านบาท) จากการที่ ตระกูลเกลเซอร์ ครอบครัวนักธุรกิจดังเมืองมะกัน กู้หนี้ยืมสินจำนวนมหาศาล เพื่อเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2005