ปาทริค วิเอร่า

     พลันที่ โทนี่ อดัมส์ ประกาศอำลาทีมไป เวนเกอร์ ก็ตัดสินใจเลือก ดาวเตะที่เขาดึงตัวมาจาก เอซี มิลาน เมื่อปี 1996 ขึ้นมาเป็นกัปตันทีมคนใหม่ แบบไร้ข้อโต้แย้ง เพราะว่า ถึงตอนนั้น "ปั๊ต" ก็อัพเกรดตัวเอง จากกองกลางดาวรุ่ง กลายเป็น มิดฟิลด์ระดับโลกไปแล้ว ทำให้มีหลายทีมให้ความสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด รวมไปถึง ยูเวนตุส

     ในปี 2004 อาร์เซน่อล ที่มีการบัญชาเกมในแดนกลางโดย วิเอร่า มีตัวรุกสุดจี๊ดอย่าง เธียร์รี่ อองรี และ ตัวเปิดป้อนชั้นเซียนอย่าง โรแบร์ ปิแรส สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก มาครองได้แบบไร้พ่ายตลอด 38 เกม "ไอ้ปืนใหญ่" ก็ถูกรุกหนัก โดย เรอัล มาดริด ที่หวังจะคว้าตัว วิเอร่า เข้าสู่ชายคา ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ให้ได้

     แม้ว่าอาร์เซน่อล จะใจแข็งเมินค่าตัวมหาศาล เฉียด 30 ล้านปอนด์ ที่ "ราชันชุดขาว" ยื่นให้ แต่สุดท้าย หลังจากที่ทีม คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2005 ด้วยการชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการดวลลูกโทษ จู่ ๆ ก็มีรายงานว่า อาร์เซน่อล ตกลงรับข้อเสนอ 16 ล้านปอนด์ จากยูเวนตุส ด้วยเหตุผลที่ว่า เป็นข้อเสนอที่ยากจะปฎิเสธ

     เมื่อดูจาก อายุของ วิเอร่า ก็เกือบ ๆ จะ 30 ปี แล้วในตอนน้น บวกกับการที่ อาร์เซน่อล ก็มี เจ้าหนูแดนกระทิงดุ อย่าง เชส ฟาเบรกาส ที่พร้อมจะขึ้นมาทดแทนแล้วด้วย จึงทำให้ เวนเกอร์ กล้าที่จะโละ วิเอร่า ออกไปจากทีม ยุติบทบาทของ "ปั๊ต" ในฐานะนักเตะของ อาร์เซน่อล เอาไว้แต่เพียงเท่านี้

 
เธียร์รี่ อองรี

     เมื่อ วิเอร่า จากไป เวนเกอร์ ก็ต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด เข้ามาเป็นผู้นำของ คอยประคองน้อง ๆ หนู ๆ ในทีมที่อุดมไปด้วยนักเตะดาวรุ่งอนาคตไกล ซึ่งก็เลือกไม่ยาก นั่นก็คือ เธียร์รี่ อองรี ที่สวมบทบาทกัปตันทีมจำเป็นหลายต่อหลายครั้ง เมื่อสมัยที่ วิเอร่า ไม่ได้ลงเล่น นั่นเอง

     อาร์เซน่อล ในยุคที่มีคิง อองรี เป็นกัปตันนั้น ถ้าดูในลีก ผลงานไม่ค่อยจะสู้ดีนัก ต้องกระเสือกกระสนแทบตายกว่าจะได้อันดับ 4 มาครอง ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2005-06

     แต่ถ้าในฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลับเป็นตรงกันข้าม พวกเขาหักด่าน ยูเวนตุส ที่มีวิเอร่า ในรอบก่อนรองชนะเลิศ , ปราบ บียาร์เรอัล ทีมม้ามืดในรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่จะไปพลาดท่าให้กับ บาร์เซโลน่า ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ที่กรุง ปารีส

     จบซีซั่น ก็คล้าย ๆ กับ วิเอร่า อาร์เซน่อล ต้องเจอกับการรุกหนักจาก บาร์เซโลน่า ที่หวังดึงตัว อองรี ไปร่วมทัพให้ได้ ซึ่งแม้ว่า จะยื้อให้อองรี อยู่ต่อได้อีกหนึ่งซีซั่น แต่สุดท้ายก็ไม่แคล้ว ต้องเสีย ดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ไปให้กับ บาร์ซ่า จนได้ในปีต่อมา ด้วยค่าตัว 16.5 ล้านปอนด์ ก็เป็นกัปตันทีมอีกคน ที่อาร์เซน่อล รั้งเอาไว้ไม่อยู่

 
วิลเลี่ยม กัลลาส

     ตอนที่ อองรี ออกจากทีมไป เต็งหนึ่งที่จะเป็นกัปตันทีมคนใหม่ของ อาร์เซน่อล ก็คือ โคโล่ ตูเร่ ที่เป็นรองกัปตันของทีมมาก่อน แต่สุดท้าย เวนเกอร์ กลับ เซอร์ไพรส์ทุกฝ่าย ด้วยการแต่งตั้งให้ วิลเลี่ยม กัลลาส ขึ้นมาเป็นกัปตัน ท่ามกลางความการตั้งแง่ถึงความเหมาะสมจากทุกคน

     กัลลาส ย้ายจาก เชลซี มาเล่นให้กับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2006 ด้วยการเป็นตัวแถมในดีลซื้อแอชลี่ย์ โคล ซึ่งนับตั้งแต่ วิลลี่ ขึ้นมาเป็นกัปตันทีม ในปีถัดมา แรก ๆ ก็เหมือนว่าจะดี เพราะว่า อาร์เซน่อล ผลงานติดลมบน นำโด่งเป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ ลีก

     แต่จุดเปลี่ยนดันมาเกิดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2008 ที่อาร์เซน่อล ทำแต้มสำคัญหลุดมือด้วยการโดน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ตีเสมอในวินาทีสุดท้าย ภาพที่เห็นคือ กัลลาส ที่เป็นผู้นำนั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่กลางสนาม พร้อมทั้งวิ่งไล่เตะป้ายโฆษณา ซึ่งเป็นสิ่งที่กัปตันทีมไม่สมควรกระทำ หลังจากนั้นอาร์เซน่อล ก็ฟอร์มเป๋ เสียแชมป์ให้กับ แมนฯยูไนเต็ด ในที่สุด

     กัลลาส ถูกตราหน้าว่า เป็นตัวการที่ทำให้ อาร์เซน่อล พลาดแชมป์ในปีนั้น แถมยังไม่ได้รับความเคารพจากลูกทีมหลายราย โดยเฉพาะ ซามีร์ นาสรี่ ก่อนที่สุดท้าย กัลลาส โดนปลดจากตำแหน่งกัปตันทีม และย้ายไปอยู่กับทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในปี 2010

 
เชส ฟาเบรกาส

     ตอนที่ทีมกำลังระส่ำ ในยุคที่ กัลลาส เป็นผู้นำ เวนเกอร์ ต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อที่จะรวมสปิริตในทีมกลับมาอีกครั้ง คราวนี้ เวนเกอร์ วัดดวงไปที่ ทางด้านของ เชส ฟาเบรกาส ที่ตอนนั้นมีอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้ เชส กลายเป็นกัปตันทีมที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของ อาร์เซน่อล ทันที

     ด้วยฝีเท้าที่เก่งกาจเกินวัย ทำให้ เชส ก้าวขึ้นมานั่งในใจของ บรรดาแฟนบอล อาร์เซน่อล ได้ไม่ยาก แต่สิ่งสำคัญก็คือ การที่ทีมไร้ความสำเร็จแบบรูปธรรม

     ผิดกับสังกัดเก่าอย่าง บาร์เซโลน่า ที่เล่นยังไงก็ได้แชมป์ และยิ่งตอนไปเล่นทีมชาติสเปน กับพวกเพื่อนเก่าเมื่อสมัยเป็นเด็กฝึกของ บาร์ซ่า ยิ่งทำให้ เชส โหยหาถึงการกลับคืนรังเก่าอย่างหนัก จนแทบไม่เหลือใจที่จะเล่นให้กับ อาร์เซน่อล อีกต่อไป

     สุดท้ายช่วงซัมเมอร์ของปี 2011 อาร์เซน่อล ยอมขายเชส ฟาเบรกาส ไปให้กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์ ซึ่งถ้ายังจำกันได้ วันที่ไปเปิดตัวในฐานะนักเตะคนใหม่ของ บาร์เซโลน่า เราได้เห็นใบหน้าของคนที่มีความสุขที่สุดในชีวิตบนหน้าของ เชส ซึ่งก็มีข่าวตามาทีหลังว่า เขายอมรับค่าเหนื่อยที่น้อยกว่าที่ทางอาร์เซน่อล เสนอให้ เพื่อกลับไปที่ถิ่น คัมป์ นู เลยทีเดียว

 
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

     อันนี้ก็เป็นรายล่าสุด ที่โดนอาถรรพ์ปลอกแขนกัปตันทีมของ อาร์เซน่อล เล่นงานเข้าให้ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมเมื่อปีที่แล้ว จากการอำลาของ เชส ฟาเบรกาส และก็โชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าตำแหน่งดาวซัลโว , นักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ และ สมาคมนักข่าว ทุกอย่างดูเหมือนจะสวยหรู อาร์เซน่อล กำลังจะได้คนที่มาเป็นเสาหลักคอยค้ำจุนทีม

     แต่แล้ว ปัญหาใหญ่ก็คือ สัญญาของ ฟาน เพอร์ซี่ ที่เหลืออีกเพียงแค่ปีเดียว ซึ่งสุดท้ายเขาก็ประกาศที่จะไม่ต่อสัญญากับทีมออกไป และคาดว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาจะเปิดตัวเป็นนักเตะคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการ

     เห็นแบบนี้ แฟน ๆ ปืน อาจจะหวังให้ เวนเกอร์ แก้เคล็ด ตั้งกัปตันทีมคนใหม่ มาเป็น อารอน แรมซี่ย์ ก็เป็นได้