ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์ตัวใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษสำเนียงสก็อตติชของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ปีศาจแดง" ในระหว่างช่วงพักครึ่งเลย แม้แต่เพียงคำเดียว แต่ก็ยืนยันว่าคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเนื่องจากกำลังเรียนภาษาอยู่ในเวลานี้ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะอยากจะให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนเชื่อมั่นในตัวเขาว่าจะพา ทีมประสบความสำเร็จได้

        ชินจิ คางาวะ เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่า ตนพร้อมที่จะแบกรับภาระอันหนักอึ้งในฐานะตัวความหวังในแผงมิดฟิลด์ "ปีศาจแดง" ในฤดูกาลนี้ หลังจากเพิ่งย้ายมาร่วมรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ (ราว 850 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
 
        เมื่อ ถูกถามว่ารู้สึกว่าตัวเองจะสามารถมีอิทธิพลต่อ ยูไนเต็ด มากขึ้นหรือไม่ หลังจากที่เริ่มทำผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซั่น คางาวะ ตอบว่า "ใช่ เราดูจะผ่านบอลออกริมเส้นบ่อยครั้ง แต่ผมอยากจะให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนเริ่มให้บอลกับผมจากทุกพื้นที่และทุกมุมใน สนาม ผมต้องพูดคุยกับพวกเขาในเรื่องนี้ เพราะผมอยากจะให้พวกเขาเชื่อใจผมในการพาบอลขึ้นไปในแดนหน้า"
 
        ใน เกมล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เชือด ฟูแล่ม 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา คางาวะ ประเดิมประตูแรกในสีเสื้อ "ปีศาจแดง" ต่อหน้าแฟนบอลใน โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้สำเร็จ จากการแปหน้าประตูในระยะเผาขนแบบง่ายๆ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้จากลูกยิงไกลเช่นกัน
 
        "(นัก ข่าวถามว่าคุณพลาดประตูนั้นได้หรือไม่?) ไม่ ไม่ใช่จากระยะ 2 หลาเลย! มันไม่ใช่ประตูในแบบที่ผมทำได้บ่อยๆ ผมจึงหวังว่าครั้งต่อไปผมจะแสดงให้แฟนบอล ยูไนเต็ด เห็นว่าผมทำอะไรได้บ้างจากลูกยิงระยะไกล แต่การเล่นของผมไม่ได้เน้นแค่การยิงประตูหรอกนะ ผมชอบที่จะสร้างโอกาสให้เพื่อนๆมากกว่า ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆที่เห็นธงล้ำหน้าหลังจากที่ผมมีส่วนร่วมในจังหวะที่ ราฟาเอล ยิงเข้าไปแล้ว แต่ไม่ได้ประตู" คางาวะ ร่ายยาว
 
        อย่าง ไรก็ดี โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ อีกหนึ่งสมาชิกใหม่ทัพ "ปีศาจแดง" ก็เบิกสกอร์แรกกับต้นสังกัดได้เช่นกันในเกมที่ผ่านมา โดย คางาวะ ยอมรับว่าประตูของ "อาร์วีพี" นั้นถือว่ายอดเยี่ยมกว่า แต่ตนเองก็พอใจแล้วกับการยิงประตูต่อหน้าสาวก "เร้ด อาร์มี่" ในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด "ประตูของผมไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับของเขา (ฟาน เพอร์ซี่) สักเท่าไร แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีนะ" 
 
        เมื่อถูกถามถึง ความแตกต่างระหว่างสไตล์ของ บุนเดสลีกา กับ พรีเมียร์ลีก อดีตดาวเตะของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวว่า "อันดับแรกเลยคือการเล่นแบบเน้นพละกำลัง ผมต้องปรับตัวกับมันให้ได้ อันต่อมาคือคุณภาพของทีมในลีก ในเยอรมนี มีทีมหัวแถว 2-3 ทีมที่ดีกว่าทีมที่เหลือแบบเห็นได้ชัด แต่ที่นี่ คู่แข่งทุกทีมต่างเล่นด้วยได้ยากทั้งนั้น"
 
        นอกจากนี้ ดาวเตะวัย 23 ปี ยังยอมรับอีกด้วยว่า เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ พยายามถ่ายทอดแก่ลูกทีมในช่วงพักครึ่งเลย "ผมบอกคำที่เขาพูดไม่ได้สักคำ! ผมกำลังพยายามเรียนภาษาอังกฤษ แต่การจะเข้าใจสิ่งที่ผู้จัดการทีมพูดนั้นคงต้องใช้เวลาอีกสักพักเลย"