"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เตรียมเปิดศึกวันหยุดโลกอีกครั้งนำโดย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เครื่องจักรสังหารประจำทีม เกมรับการมาเยือนของอริตลอดกาล "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่ ลีโอเนล เมสซี่ พร้อมกระชากยิงทุกวินาที จากสถิติรายการนี้ เรอัล ไม่เคยปราชัยในบ้านให้ บาร์ซ่า เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าสงครามฟาดแข้งครั้งนี้จะจบลงด้วยผลเท่าไร ติดตามชมและเชียร์ได้ในศึก ฟุตบอล ซูเปร์โกปา สเปน (นัดสอง) คืนวันพุธที่ 29 ส.ค. ศกนี้

ปรีวิว ฟุตบอล ซูเปร์โกปา สเปน

(นัดสอง)

วันพุธที่ 29 สิงหาคม 2555

เรอัล มาดริด    -    บาร์เซโลน่า

(ผลนัดแรก บาร์เซโลน่า ชนะมา 3-2)

เวลาถ่ายทอดสด : 03.30 น.

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด

        นัดแรกของศึกซูเปร์โกปา หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ สเปน นั้น บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเอาชนะมาได้ก่อน 3-2 กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อนบุกมาเยือนเบร์นาเบว ของ เรอัล มาดริด ในเกมนัดสองวันพุธนี้

        หากว่าเกมนี้ เรอัล มาดริด สามารถเอาชนะได้บ้างในสกอร์เดียวกันคือ 3-2 นั้น จะต้องต่อเวลาอีก 30 นาที ก่อนดวลจุดโทษตัดสินแชมป์ หากออกสกอร์อื่นจะนับสกอร์รวมสองนัด หรือหากสกอร์เท่ากันก็จะใช้กฎยิงประตูทีมเยือนเป็นตัวตัดสินผล

        โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์มาดขรึมของเรอัล มาดริด แชมป์ ลา ลีกา เมื่อซีซั่นก่อน พาทีมออกสตาร์ทได้ไม่ดีในฤดูกาลใหม่นี้ ทั้งปราชัยให้กับ บาร์เซโลน่า 2-3 ในศึกซูเปร์โกปา นัดแรก อีกทั้งทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ บาเลนเซีย 1-1 ในนัดเปิดสนามลา ลีกา ต่อด้วยการออกไปพ่ายให้กับ เคตาเฟ่ 1-2 ในเกมล่าสุด

        ความพร้อมทั่วไปนั้น "ราชันชุดขาว" ได้ตัว เปเป้ ปราการหลังทีมชาติโปรตุเกส ฟิตกลับมาคุมแนวรับ โดยจะยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ เซร์คิโอ รามอส

        อย่างไรก็ตามเกมนี้ไม่มี ฟาบิโอ โคเอนเตรา วิงแบ็คทีมชาติโปรตุเกส ที่ไปด่าผู้ตัดสิน มิเกล อังเคล เปเรซ ลาซ่า ในเกมพ่ายเคตาเฟ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนโดนไล่ออกทั้งที่ไม่ได้ถูกเปลี่ยนลงสนามด้วยซ้ำไป ทำให้อาจถูกสั่งแบนถึง 4 นัด

        สำหรับ ลูก้า โมดริช มิดฟิลด์จอมทัพชาวโครแอตที่เพิ่งย้ายมาจากสเปอร์ส อาจมีส่วนร่วมกับช่วงใดช่วงหนึ่งของเกมนัดนี้

        รูปแบบการเล่นใช้สูตร 4-2-3-1 ให้ อีเกร์ กาซิยาส กัปตันทีมลงมาเฝ้าเสา พร้อมได้ความช่วยเหลือจากไลน์ดีเฟนซ์อย่าง อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส และ มาร์เชโล่ วิเอยร่า

        ในแดนกลางเรียก ซามี่ เคดิร่า ที่เป็นแค่สำรองในเกมล่าสุดนั้นกลับมาเป็นตัวจริงลงคุมเกมร่วมกับ ชาบี อลอนโซ่ ปล่อยให้ อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินเกมรุกสนับสนุน กอนซาโล่ อิกวาอิน หัวหอกตัวเป้าทีมชาติอาร์เจนติน่า

        ทางด้าน "อาซูลกราน่า" บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทัพของ ตีโต้ บีลาโนบา เพิ่งจะบุกไปเชือด โอซาซูน่า มาได้หวุดหวิด 2-1 ในศึกลา ลีกา นัดล่าสุด ทำให้ยังนำเป็นจ่าฝูง ส่วนในซูเปร์โกปา นัดแรก ก็เอาชนะ เรอัล มาได้ก่อน 3-2

        ในรายของ ตีโต้ บีลาโนบา เทรนเนอร์ของบาร์ซ่า ที่ไปประท้วงการตัดสินของ เซซ่าร์ มูนญิซ เฟร์นานเดซ ในเกมเยือนโอซาซูน่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จนโดนไล่ออกไปนั้น อาจถูกสั่งแบนห้ามคุมทีมถึงสองนัด แต่เกมซูเปร์โกปา นัดสองที่เบร์นาเบวนั้น ทาง ตีโต้ บีลาโนบา ยังได้ลงทำหน้าที่ตามปกติ

        สภาพทีมทั่วไปไม่มี การ์เลส ปูโยล ปราการหลังกัปตันทีมที่กระดูกโหนกแก้มแตกจากเกมเจอกับ โอซาซูน่า ทำให้ต้องส่ง ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ลงมายืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟร่วมกับ เคราร์ด ปีเก้

        อย่างไรก็ตามยังไม่มี เอริก อบิดัล, มาร์ก มูเนียซ่า และ อีซัค เกวนก้า ที่ยังเดี้ยงอยู่ทั้งหมด แต่ได้ ชาบี เอร์นานเดซ กับ เปโดร โรดริเกซ หวนคืนสู่ทีมตัวจริง หลังจากได้พักมา

        ระบบการเล่นใช้ 4-3-3 เหมือนเคยให้ บิคตอร์ บัลเดส ลงเฝ้าเสา แนวรับ 4 คนเป็น ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ และ จอร์ดี้ อัลบา

        ห้องเครื่องของทีมวาง ชาบี เอร์นานเดซ, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ อันเดรส อีเนียสต้า ผนึกกำลังร่วมกัน

        สามประสานแดนหน้าส่ง เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่ และ อเล็กซิส ซานเชซ ลงล่าตาข่าย ส่วนในรายของ ดาบิด บีย่า กองหน้าตัวเก่งที่หายเจ็บกลับมาแล้ว น่าจะเป็นเพียงแค่สำรองเท่านั้น 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

        เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ วิเอยร่า - ชาบี อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า - อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอิน  

        บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส, เคราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อีเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลิโอเนล เมสซี่, อเล็กซิส ซานเชซ

        ผู้ตัดสิน: อันโตนิโอ มิเกล มาเตว ลาโอซ

เผยชุดขาวไร้พ่ายบาร์ซ่าในบ้านรายการนี้

        ศึก "เอล กลาซิโก้" ของสองทีมที่ยิ่งใหญ่สุดในสเปน ปะทะกันมาแล้วถึง 165 แมตซ์ โดยทาง เรอัล มาดริด ชนะไป 69 นัด ส่วน บาร์เซโลน่า ชนะ 65 เกม และที่เหลือ 31 นัด นั้น เสมอกันไป

        ทางราชันชุดขาว ยิงไป 268 ประตู ส่วนเจ้าบุญทุ่มยิงไป 259 ประตู แต่เฉพาะในซูเปร์โกปา หรือ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ ทั้งคู่เจอกันมา 11 ครั้ง เรอัล มาดริด ชนะ 5 นัด บาร์เซโลน่า ชนะ 3 เสมอ 3 นัด

        กระนั้นก็ดีการเจอกันในซูเปร์โกปาที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว นั้น ทาง "ราชันชุดขาว" มีผลงานดีกว่ามาก เมื่อชนะได้ 4 นัด และ เสมอ 2 นัด โดยไม่เคยแพ้ให้กับ บาร์เซโลน่า ในรังของตัวเองเลย

        ขณะเดียวกันตลอด 27 เกมหลังสุดที่เจอกันของทั้งสองทีมไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ 0-0 เลย

        ฤดูกาลที่แล้วทั้งคู่เจอกันถึง 6 เกม แต่ละนัดมีประตูเฉลี่ยต่อเกมสูงกว่า 2.5 ลูก โดย ลีโอเนล เมสซี่ ซัดใส่ เรอัล มาดริด ไปแล้วถึง 15 ประตู (5 ลูกในรายการซูเปอร์ คัพ) สูงที่สุดในนักเตะชุดปัจจุบันของทั้งสองทีม ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยิง บาร์ซ่า ไปแล้ว 7 ประตูด้วยกัน 

เกร็ดและสถิติที่น่าสนใจ
เรอัล มาดริด v.s บาร์เซโลน่า
- พลิกปูมการเจอกันของคู่นี้ ฟาดแข้งกันมายาวนานถึง 165 เกม ทางฝั่ง เรอัล มาดริด ดีกว่าเล็กน้อยชนะไป 69 นัด ส่วน บาร์เซโลน่า ชนะ 65 แมตซ์ ที่เหลือ 31 นัด นั้น เสมอกันไป โดยทางราชันชุดขาวยิงไป 267 ประตู ด้านเจ้าบุญทุ่มยิงไป 259 ประตู
- อย่างไรก็ตาม 7 นัดหลังสุด (ทุกรายการ) ที่เจอกันในรังซานติอาโก้ เบร์นาเบว นั้น เรอัล มาดริด ไม่เคยเอาชนะได้เลย (เสมอ 2 แพ้ 5)
- ตลอด 27 เกมหลังสุดที่เจอกันของทั้งคู่มีประตูเกิดขึ้นทุกเกม
- ด้าน บาร์เซโลน่า สามารถยิงประตูได้ตลอด 8 เกมหลังสุดที่มาเยือน เรอัล มาดริด (ยิงได้ 19 ประตู เสีย 11) โดยชนะ 5 เสมอ 2 แพ้ 1
- เมื่อฤดูกาล 2011/12 เรอัล มาดริด แพ้คารังแค่ 2 เกมเท่านั้นรวมทุกรายการ แต่ทั้ง 2 นัดก็เป็นการพ่ายให้กับ บาร์เซโลน่า