เนมันย่า วิดิช ปราการหลังเลือดเซิร์บของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศทัพ "ปีศาจแดง" พร้อมที่จะทิ้งสไตล์บุกแหลกเพื่อหันมาเล่นแบบหวังผลมากขึ้นสำหรับการทวง บัลลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากพวกเขาพลาดท่าเสียประตูมากมายแบบง่ายๆจนทำให้เป็นมีผลต่างประตูได้ เสียที่เป็นรอง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างน่าเจ็บใจ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

เนมันย่า วิดิช เซนเตอร์แบ็กกัปตันทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังศึกพรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าพลพรรค "ปีศาจแดง" พร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและทัศนคติในการเล่นในฤดูกาลนี้ หลังจากพบกับความผิดหวังด้วยการเสียแชมป์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่แค้นร่วมเมือง ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่เป็นรอง เมื่อซีซั่นก่อน
 
 แมนฯ ยูไนเต็ด เดินหน้ายิงประตูได้มากมายเมื่อฤดูกาลไม่ว่าจะเป็นเกมถล่ม อาร์เซน่อล 8-2 อีกทั้งยังมีเกมที่ไล่ต้อนคู่แข่ง 5-0 อีก 3 เกม แต่ว่าพวกเขาก็แพ้แบบยับเยินบ่อยครั้งเช่นกันอย่างเกมที่โดน แมนฯ ซิตี้ บุกมารัว 6-1 รวมทั้งเกมที่บุกไปพ่าย นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 3-0 แต่เกมที่เป็นจุดเปลี่ยนสำหรับการเสียแชมป์อยู่ที่เกมที่เสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 4-4 ทั้งที่สามารถขึ้น 4-2 ได้แล้ว
 
อย่างไรก็ ดี วิดิช ยืนยันว่าพวกเขาได้รับบทเรียนอันล้ำค่าจากฤดูกาลก่อนแล้วและพร้อมแล้วสำหรับ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นในซีซั่นนี้ "บางครั้ง สิ่งสำคัญคือการเล่นเพื่อ 3 คะแนน ไม่ใช่เพื่อที่จะสนุกกับมัน เราต้องการเล่นฟุตบอลอันยอดเยี่ยม แต่เราก็ต้องการ 3 คะแนนรวมถึงแชมป์ลีกด้วย ผมคิดว่าเราเข้าใจในจุดนี้แล้วในปีนี้"
 
นอก จากนี้ วิดิช ยอมรับว่าขุนพล "ปีศาจแดง" ต้องยกระดับตัวเองขึ้นมาให้ได้ เนื่องจากเชื่อว่าพลพรรค "เรือใบสีฟ้า" จะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นมหาศาลจากการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก แบบสุดระทึก เมื่อฤดูกาลก่อน แต่ก็ยังเชื่อว่าบรรดาเพื่อนร่วมสังกัดต่างมีจิตใจที่แข็งแกร่งสำหรับการ ลุกกลับมาจากความผิดหวังรวมทั้งทุ่มเททำงานหนักเพื่อการทวงแชมป์อีกด้วย
 
"ผม คิดว่าบางครั้งเมื่อคุณคว้าแชมป์ลีกได้ คุณจะมีความมั่นใจมากขึ้นในปีต่อไปเพราะคุณรู้สึกได้ว่าคุณจะเป็นแชมป์ได้ อีกครั้ง แต่เมื่อไม่ได้เป็นแชมป์ มันจะเป็นปีที่คุณจะคิดว่า "ฉันต้องผลักดันตัวเองมากกว่านี้, ฉันต้องทำงานหนักกว่านี้, ฉันต้องการทำให้ดีกว่าปีที่แล้วให้ได้" และผมคิดว่านั่นคือความแตกต่าง นี่เป็นสิ่งที่นักเตะคิดกัน เราคว้าแชมป์ไม่ได้เมื่อปีก่อน ทำให้เราต้องทำผลงานให้ดีขึ้นในปีนี้ เราต้องทำงานหนักขึ้น, รวมพลังกันทั้งทีมและเล่นเพื่อกันและกัน" ดาวเตะวัย 30 ปี กล่าวทิ้งท้าย