เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกอวบอั๋นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับต้องรีบรีดไขมันออกให้เร็วที่สุด รวมทั้งรักษามาตรฐานการเล่นให้อยู่ในระดับสูงต่อไป ไม่งั้นคงโดน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถีบหัวส่งออกจากทีมแหงๆ รับอาชีพนักเตะมีช่วงเวลาที่แสนสั้น แต่ต้องการเป็นคนตัดสินใจแขวนเกือกเอง ไม่ใช่คำพูดของแพทย์ หรือรองเท้าสตั๊ดคู่แข่ง

เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มหาอำนาจลูกหนังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่าตนรู้อยู่แก่ใจไม่สามารถเล่นต่ำกว่ามาตรฐานเด็ดขาด ไม่งั้นคงโดน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ ดร็อปออกจากทีมตัวจริงอย่างแน่นอน

"รูน" หลุดจากตำแหน่งตัวจริงในซีซั่นนี้แล้วตั้งแต่แมตช์ที่ชนะ ฟูแล่ม ซึ่งหลังจากที่เจ้าตัวถูกส่งลงมาเล่นแทน ชินจิ คางาวะ ได้ไม่นานก็ได้รับบาดเจ็บหนักที่ขา ขณะเดียวกันหลังจบเกม "เซอร์เฟอร์กี้" ประกาศก้อง รูนี่ย์ ต้องรีดน้ำหนักหากอยากมีอนาคตอยู่ในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อไป
 
สำหรับตอนนี้ รูนี่ย์ ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงรักษาอาการเจ็บ ยอมรับว่าตนต้องทำงานหนักในการลดน้ำหนักแต่ก็ไม่ได้รู้สึกกังวลใจอะไรมากนัก เพราะมั่นใจว่าหากรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้เหมือนเดิมยังไง เฟอร์กูสัน ก็ต้องเลือกลงสนามแน่นอน "ผมเป็นคนชอบดื่มมากๆ ผมน้ำหนักขึ้นพอสมควรช่วงที่หยุดพักผ่อน แม้ว่าผมไม่ได้ลงฝึกซ้อมทุกสัปดาห์ ผมน้ำหนักเพิ่ม 2-3 กิโลกรัม แต่เมื่อผมกลับมาที่คาร์ริงตัน (สนามซ้อม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) ช่วง 5 วันแรกในการฝึกซ้อม ผมแทบช็อก"
 
"เครื่อง ชั่งน้ำหนักในโรงยิมแสดงให้เห็นว่าผมน้ำหนักขึ้นมากกว่าที่คาดคิดเอาไว้ มันตั้ง 7 กิโลกรัม ให้ตายเหอะ 7 ก.ก. ! จากนั้นผมจำได้เลยว่าผมดื่มเบเวอเร็ดจ์ ผมอ้วนเป็นตุ่มเลย ผมไม่เหมือนกับ ไรอัน กิ๊กส์ ที่กล้ามเนื้อไม่มีไขมันเลย ในฐานะกองหน้า ผมต้องทำงาานหนักตลอดเวลา ผมต้องดูปราดเปรียว ซึ่งหมายความว่าผมต้องฟิตเต็มที่เพื่อเล่นให้ดีที่สุด ถ้าไม่งั้นคงโชว์ฟอร์มไม่ออก"
 
"ในฐานะกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่มีที่ให้หลบซ่อน ผมต้องทำงานให้หนักเท่าที่ผมสามารถทำได้ ไม่งั้นผู้จัดการทีมคงจะเปลี่ยนตัวผมออกจากสนาม หรือดร็อปผมในเกมต่อไป ไม่มีโอกาสสำหรับความล้มเหลว หรือเป็นอันดับสองที่ดีที่สุดที่สโมสรแห่งนี้"
 
 นอก จากนี้ อดีตเด็กปั้น เอฟเวอร์ตัน ยอมรับว่าตนต้องเจอกับเรื่องที่แสนยากลำบากเมื่อปีที่แล้วจากความเฮี้ยบของ เฟอร์กูสัน แต่ยืนยนพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อทีม "ผมมีความสุขที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะเกิดความรู้สึกแย่ซึ่งบางครั้งก็เกิดขึ้นกับสโมสรแห่งนี้"
 
"อย่าง ตอนที่เราถล่ม วีแกน แอธเลติก 5-0 ในเกมบ็อกซิ่ง เดย์  ผมออกไปดินเนอร์กับเพื่อนๆ และก็พากันไปโรงแรม อีกวันผู้จัดการทีมถอดผมออกจากทีม และบอกกับผมว่าเขาไม่พอใจ และรู้สึกว่าผมฝึกซ้อมได้ไม่ดี เขาสั่งปรับเงินผม แต่มีเรื่องที่แย่ยิ่งกว่าตามมา ผมถูกดร็อปในเกมต่อไป ช่วงวันปีใหม่ ในเกมกับ แบล็คเบิร์น มีสโมสรมากมาย ที่ผู้คนคงไม่ไปวุ่นวายกับนักเตะที่ออกไปเที่ยวตลอด 6 วันก่อนเกม แต่นั่นมันแตกต่างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีมาตรฐานสูงตามที่ผู้จัดการทีมต้องการ"
 
 ขณะเดียวกัน รูนี่ย์ ยอมรับว่าตอนนี้สภาพร่างกายไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนเดิมแล้ว เนื่องจากตลอด 10 ปีในอาชีพนักเตะต้องเข้าปะทะหนักมาตลอด "ร่างกายของผมถูกปะทะหนักมาตลอดหลายปี ส่วนใหญ่ผมต้องชนกับบรรดาเซนเตอร์แบ็กร่างยักษ์ หรือการที่กล้ามเนื้อของผมต้องเจ็บจากการล้ม ไหล่ชนไหล่ และการเสียบสกัด โดนแบบนี้ทุกวัน จนร่างกายผมบอบช้ำไปหมด"
 
"ช่วงเช้าที่ผม ตื่นนอนหลังจบเกม ผมรู้สึกทรมานมากในการเดินในช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ผมปวดระบมไปหมด มันไม่เหมือนกับตอนที่ผมยังวัยรุ่นเลย ผมจำได้บางครั้งตอนที่ผมเสร็จจากการฝึกซ้อมหรือการเล่นให้กับ เอฟเวอร์ตัน และ ยูไนเต็ด ผมอยากลงเล่นอีกทันที แต่ฟุตบอลมันเป็นเรื่องการปะทะด้านร่างกาย เพราะสไตล์ของผมเน้นความรวดเร็ว, พละกำลัง และความหนัก"
 
"ก็เหมือนกับนักเตะแต่ละคน ผมกลัวที่จะต้องจบอาชีพเร็วเกินไป ผมยังอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิต และจากนั้นอีกวันเมื่อโดดเสียบหนักอาจทำให้ผมต้องเลิกเล่น แต่นั่นเป็นเรื่องเสี่ยงที่ผมต้องยอมรับในฐานะนักเตะสำหรับการลงเล่นทุกๆ เกม ผมรู้ว่าฟุตบอลมันเป็นอาชีพที่แสนสั้น ดังนั้นผมอยากเป็นคนตัดสินใจเองเมื่อถึงเวลาต้องเลิกเล่น ไม่ใช่แพทย์ หรือรองเท้าสตั๊ดของคู่แข่ง" รูนี่ย์ ร่ายยาว