ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » สิงห์ลั่นล้างตาคิวพีอาร์,เรือหนักเยือนสโต๊ค

สิงห์ลั่นล้างตาคิวพีอาร์,เรือหนักเยือนสโต๊ค

Posted 15/09/2012 by siamsport

 
"สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เตรียมจัดทัพเต็มสูบนำโดจ เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ เอแอน อาซาร์ เกมบุกหวังล้างตา "คิวพีอาร์" ควีนส์ปาร์ค ที่ซีซั่นก่อนพ่ายหวิวให้กับเจ้าถิ่นเกมเยือน ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องพบกับศึกหนักอีกคราเมื่อยกทัพเยือน "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ 4 นัดหลังยังไม่รู้จักคำว่าชัยชนะแม้แต่นัดเดียว ทัพเรือใบจะนำเกมรุกโดย คาร์ลอส เตเวซ และ เอดิน เชโก้ เช่นเคย ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา

ปรีวิว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 15 กันยายน 2555

ควีนส์ปาร์ค    -   เชลซี



สนาม : ลอฟตัส โร้ด


        มาร์ค ฮิวจ์ส กุนซือ คิวพีอาร์ ยังไม่ชนะในลีกฤดูกาลนี้ หลังจากนัดก่อนบุกไปแพ้ แมนเชสเตอร์ 1-3 โดย บ็อบบี้ ซาโมร่า เป็นคนยิงตีเสมอได้ก่อนจะมาโดนสอยอีก 2 ลูก


        สภาพทีม ฮิวจ์ส จะได้ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟหายเจ็บไหล่พร้อมลงสนามเผชิญหน้ากับคู่กรณี จอห์น เทอร์รี่ จากกรณีเหยียดผิวที่เป็นเรื่องใหญ่โตจนขึ้นโรงขึ้นศาล


        แซมบา เดียคิเต้ กองกลางยังพลาดช่วยทีมด้วยเหตุผลส่วนตัว ขณะที่ สเตฟาน เอ็มเบีย บาดเจ็บมาจากการเล่นให้ทีมชาติแคเมอรูน ส่วน ชูลิโอ เซซ่าร์ นายทวารที่ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน ยังไม่มีชื่อเกมนี้


        การจัดทัพ 4-4-2 โรเบิร์ต กรีน เฝ้าเสา แนวรับ โชเซ่ โบซิงวา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไรอัน เนลเซ่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ แดนกลาง พาร์ค ชี-ซอง, เอสเตบัน กราเนโร่, อเลฮานโดร เฟาร์ลิน, ดาวิด ฮอยเล็ตต์ คู่หน้า บ็อบบี้ ซาโมร่า กับ ฌิบริล ซิสเซ่


        ทางฝั่ง โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม ชนะในลีกมารวด 3 นัด แต่เกมล่าสุดศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ แพ้ แอตเลติโก มาดริด เละเทะ 1-4 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา


        สภาพทีมมีข่าวดี จอห์น เทอร์รี่ กับ แอชลี่ย์ โคล สองกองหลังตัวเก๋า หายเจ็บข้อเท้ากลับมาทั้งคู่ หลังลงฝึกซ้อมอย่างไม่มีปัญหาตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทำให้ เทอร์รี่ ก็พร้อมเผชิญหน้ากับ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ในเกมนี้


        มาร์โก มาริน ปีกชาวเยอรมนี ยังคงเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ไม่พร้อมประเดิมสนามอย่างเป็นทางการ ขณะที่ เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า กับ วิคเตอร์ โมเซส ที่เซ็นสัญญาร่วมทัพในช่วงโค้งสุดท้าย จะมีชื่ออยู่ในทีมแล้ว


        แดนกลาง รามิเรส จะกลับคืนตัวจริงผนึกกำลังกับ จอห์น โอบี มิเกล และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เนื่องจาก ไมเคิ่ล เอสเซียง กับ ราอูล เมยเรเลส ถูกปล่อยตัวออกไปแล้ว


        ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลาง รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด สามตัวรุก เอแดน อาซาร์, ฆวน มาต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


        ควีนส์ปาร์ค
: โรเบิร์ต กรีน - โชเซ่ โบซิงวา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไรอัน เนลเซ่น, อาร์กม็องด์ ตราโอเร่ - พาร์ค ชี-ซอง, เอสเตบัน กราเนโร่, อเลฮานโดร เฟาร์ลิน, ดาวิด ฮอยเล็ตต์ - บ็อบบี้ ซาโมร่า, ฌิบริล ซิสเซ่


        เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด - เอแดน อาซาร์, ฆวน มาต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส


        ผู้ตัดสิน
:
อันเดร มาร์ริเนอร์

 


สิงห์ล้างตาบุกพ่ายคิวพีอาร์ซีซั่นก่อน



        เชลซี มักจะมีปัญหายามต้องออกไปเยือนรัง ลอฟตัส โร้ด ของ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส เพราะ 17 นัดในลีกสูงสุดที่สนามแห่งนี้ สิงโตน้ำเงินคราม บุกมาเก็บชัยชนะได้เพียงแค่ 2 นัดเท่านั้น


        ในเกมพรีเมียร์ลีก ทั้งสองทีมเพิ่งกลับมาพบกันในฤดูกาลที่แล้ว ซึ่ง คิวพีอาร์ เป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 ก่อนหน้านั้น 4 ฤดูกาล 1992-93 เสมอกัน 1-1, ฤดูกาล 1993-94 เสมอกัน 1-1, ฤดูกาล 1994-95 คิวพีอาร์ ชนะ 1-0 และ ฤดูกาล 1995-96 เชลซี บุกชนะ 2-1


        ทั้งนี้ การพบกันใน 5 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ จบลงด้วยผลชนะ 1-0 มากถึง 4 นัด เป็นชัยชนะของ เชลซี 3 นัด และ ควีนส์ปาร์ค 1 นัด

สโต๊ค    -    แมนเชสเตอร์ ซิตี้


สนาม : บริทานเนีย สเตเดี้ยม


        โทนี่ พูลิส กุนซือ เดอะ พ็อตเตอร์ส ผลงาน 3 นัดแรก เสมอรวดต่อ เร้ดดิ้ง 1-1, อาร์เซน่อล 0-0 และล่าสุดบุกเสมอ วีแกน 2-2 โดยได้ประตูจากจุดโทษของ โจนาธาน วอลเตอร์ส และลูกโหม่งของ ปีเตอร์ เคร้าช์


        สภาพทีม พูลิส จะได้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า และ แอนดี้ วิลกินสัน ที่กระทบกระเทือนศีรษะ กลับคืนทีมทั้งคู่ แต่ในราย เจมี่ เนสส์ มิดฟิลด์ตัวใหม่ ยังเจ็บโคนขาหนีบ


        ในรายแข้งใหม่ ไมเคิ่ล โอเว่น จะถูกประเมินความฟิตก่อนเกมนี้ ขณะที่ สตีเว่น เอ็นซอนซี่ กับ มัวริซ เอดู สองกองกลาง น่าจะมีส่วนร่วมในเกมนี้ ส่วน ชาร์ลี อดัม จะลงตัวจริงเกมแรก หลังเป็นสำรองลงเล่นนัดก่อน


        การจัดทัพ 4-4-2 อัสเมียร์ เบโกวิช เป็นประตู แนวรับ แอนดี้ วิลกินสัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน แดนกลาง ไมเคิ่ล ไคท์ลี่, ดีน ไวท์เฮด, ชาร์ลี อดัม, แม็ทธิว เอเธอริงตัน คู่หน้า โจนาธาน วอลเตอร์ส กับ ปีเตอร์ เคร้าช์


        ทางฝั่ง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือ เรือใบสีฟ้า เกมล่าสุดเปิดบ้านชนะ ควีนส์ปาร์ค 3-1 จากประตูของ ยาย่า ตูเร่, เอดิน เชโก้ และ คาร์ลอส เตเวซ ทำให้ผลงาน 3 นัดแรกในลีกเสียไปแล้ว 5 ประตู


        สภาพทีม มันโช่ มีข่าวดี เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" กองหน้าตัวเก่ง หายเจ็บเข่าอาจฟิตกลับคืนทีมเกมนี้ ขณะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ หัวหอกแบดบอย ก็พร้อมลงสนาม หลังเข้ารับการผ่าตัดดวงตาช่วงพักเบรคทีมชาติ


        อย่างไรก็ตาม ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (ข้อเท้า) กับ แกเร็ธ แบร์รี่ (กล้ามเนื้อหน้าท้อง) ยังไม่พร้อมคืนสนาม ส่วนแข้งใหม่ สกอตต์ ซินแคลร์, ฆาบี การ์เซีย, ไมค่อน และ มาติย่า นาสตาซิช อาจมีส่วนร่วมกับทีมบางคน


        ระบบการเล่น 4-3-3 โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แผงหลัง ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แดนกลาง ยาย่า ตูเร่, แจ็ค ร็อดเวลล์, ซามีร์ นาสรี่ ส่วนสามตัวรุก ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เชโก้


รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม


        สโต๊ค
: อัสเมียร์ เบโกวิช - แอนดี้ วิลกินสัน, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน - ไมเคิ่ล ไคท์ลี่, ดีน ไวท์เฮด, ชาร์ลี อดัม, แม็ทธิว เอเธอริงตัน - โจนาธาน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์


        แมนฯ ซิตี้ :
โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ - ยาย่า ตูเร่, แจ็ค ร็อดเวลล์, ซามีร์ นาสรี่ - ดาบิด ซิลบา, คาร์ลอส เตเวซ, เอดิน เชโก้


        ผู้ตัดสิน :
มาร์ค แคล๊ตเทนเบิร์ก

 

สโต๊คเหนียว!ไม่แพ้เรือใบในบ้าน


        สโต๊ค ซิตี้ มีผลงานที่เหนียวแน่นทีเดียวในการเปิดบ้านต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะ 4 ฤดูกาลในพรีเมียร์ลีก เดอะ พ็อตเตอร์ส ยังไม่แพ้ให้ เรือใบสีฟ้า เลยแม้แต่เกมเดียว


        นับเฉพาะเกมที่ บริทานเนีย สเตเดี้ยม นับตั้งแต่ที่ สโต๊ค เลื่อนชั้นขึ้นมาในปี 2008 ช่างปั้นหม้อ เอาชนะ เรือใบสีฟ้า ได้ในซีซั่นแรก และที่เหลือ 3 ฤดูกาล เสมอ 1-1 มาทั้ง 3 นัด ระหว่างนั้นมีเกมเอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2009-10 ด้วย ซึ่งเป็นเกมรีเพลย์ สโต๊ค กลับมาเล่นในบ้านชนะ 3-1 ใน 120 นาที หลังเสมอ 1-1 ในเวลาปกติ


        ชัยชนะที่ บริทานเนีย ครั้งสุดท้ายของ แมนฯ ซิตี้ ต้องย้อนกลับไปฤดูกาล 1998-99 ที่บุกชนะ 1-0 ในศึกดิวิชั่น 2 (หรือศึกลีกวันในปัจจุบัน)


โปรแกรม ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
18.45 น.
นอริช ซิตี้ - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
21.00 น. อาร์เซน่อล - เซาธ์แฮมป์ตัน
21.00 น. แอสตัน วิลล่า - สวอนซี ซิตี้
21.00 น. ฟูแล่ม - เวสต์บรอมวิช
21.00 น. แมนฯ ยูไนเต็ด - วีแกน
21.00 น. ควีนส์ปาร์ค - เชลซี
21.00 น. สโต๊ค ซิตี้ - แมนฯ ซิตี้
23.30 น. ซันเดอร์แลนด์ - ลิเวอร์พูล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ดิมัตเตโอแจงเหตุส่งมาลูด้าซ้อมกับเด็ก
    โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือเชลซี แจงการส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า ไปซ้อมกับเด็ก ไม่ได้ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ทั้งนั้น ย้ำเป็นการตัดสินใจของเขากับสโมสร และนักเตะคนอื่นในทีมก็ยอมรับ แถมบอกที่ผ่านมานักเตะแสดงความต้องการอยากย้ายทีมมาตลอด แต่พอมีโอกาสก็ไม่ยอมย้าย ขณะที่ทีมก็เดินหน้าซื้อผู้เล่นเข้ามาทดแทนแล้ว
  • มันโช่รับบุกเยือนสโต๊คเป็นหนึ่งในงานสุดหิน
    โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่ แมนฯ ซิตี้ ก้มหน้ารับสภาพ เกมบุกไปเยือน สโต๊ค คือหนึ่งในงานสุดหิน พร้อมยก "ช่างปั้นหม้อ" มีสไตล์การเล่นที่รับมือยาก แต่มั่นใจลูกทีมตนเอาอยู่ สำหรับแมตช์ที่จะดวลกันวันเสาร์นี้
  • ซาโมร่าลั่นพร้อมจับมือเจทีเพื่อนรักก่อนเกม
    บ็อบบี้ ซาโมร่า ศูนย์หน้าทัพ "ทหารเสือราชินี" ควีนส์พาร์ค เรนเจอร์ส ยืนยันเขาไม่มีปัญหาในการจับมือกับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ก่อนเริ่มเกมที่จะเจอกันวันเสาร์นี้ หลังเขาย้ายมาร่วมทีมหลังเกิดประเด็นเหยียดผิวหลายเดือน แถมพวกเขาทั้งคู่ยังเป็นเพื่อนร่วมเล่นฟุตบอลกันมาตั้งแต่เด็กๆ
  • อาซาร์เผยอยากใส่เบอร์10ตามรอยไอดอลซีดาน
    เอแด็น อาซาร์ มิดฟิลด์ตัวรุกของ เชลซี ยอมรับว่ามี ซีเนอดีน ซีดาน เพลย์เมกเกอร์ระดับตำนานทีมชาติฝรั่งเศส เป็นนักเตะขวัญใจ ทำให้อยากสวมเสื้อเบอร์ 10 เหมือนกับ "ซิซู" ด้วย แต่ว่าคงต้องรอไปก่อนเนื่องจากเจ้าของเสื้อคนปัจจุบันในรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ อย่าง ฆวน มาต้า ยังไม่ยอมยกให้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »