ในบ้านยังไม่เฮ!หงส์ฝืดเจาะสโต๊คไม่เข้าเจ๊าจืด0-0
Posted 08/10/2012 by siamsport
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ยังไม่ชนะในบ้านต่อไป หลังเปิดบ้านเจาะ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ไม่เข้า เจ๊าไปแบบโนสกอร์ เก็บได้เพียงคะแนนเดียว ยังอยู่อันดับที่14ต่อไป ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา
วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2555
ลิเวอร์พูล 0-0 สโต๊ค ซิตี้
สนาม : แอนฟิลด์ สเตเดี้ยม
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูลเพิ่งพ่าย อูดิเนเซ่ 2-3 เมื่อกลางสัปดาห์ เกมนี้เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ปรับทัพพอสมควรโดยเฉพาะตัวหลักๆ หลุยส์ ซัวเรซ, สตีเว่น เจอร์ราร์ด,แดน แอ็กเกอร์,มาร์ติน สเคอร์เทล คืนตัวจริง รวมถึสามดาวรุ่งที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง อังเดร วิสดอม,ราฮีม สเตอร์ลิง และ ซูโซ่ ฝั่งทีมเยือนสโต๊ควาง ปีเตอร์ เคร้าช์ ยืนหน้าเป้า ขณะที่ ชาลี อดัม กลับมาเยือนแอนฟิลด์ครั้งแรกหลังเพิ่งย้ายไปร่วมทัพช่างปั้นหม้อเมื่อ ซัมเมอร์ที่ผ่านมา
เปิดฉากขึ้นมาสามนาที สโต๊คเกือบทำช็อคเจ้าบ้าน เปเป้ เรน่า เล่นสั้นมาถึง นูริ ซาฮิน จ่ายคืนเบาเกินไป ชาลี อดัม ฉกไปยิงจ่อๆติดบล้อค เปเป้ เรน่า หวุดหวิด
ลิเวอร์พูลพยายามตั้งเกมสู้บ้าง นาที 8 หลุยส์ ซัวเรซ โชว์ความสามารถเฉพาะเลี้ยงจี้ไปถึงเส้นหลังแตะหนีแนวรับทีมเยือน ไหลเข้ากลางให้ นูริ ซาฮิน แปเน้นๆ ทว่าไปติด ราฮีม สเตอร์ลิง พวกเดียวกัน
ผ่านยี่สิบนาทีแรกเกมยังคงสูสี แนวรับลิเวอร์พูลยังมีช็อตน่าเป็นห่วง นาที21 เปเป้ เรน่า จ่ายบอลเรียดพลาดอีกครั้ง โดน สตีเว่น เอ็นซ็องซี่ ตัดบอลได้ ลูกไปเข้าเท้า จอน วอลเตอร์ส พยายามชิพข้ามหัวดีที่ เรน่า ถอยกลับมาปัดข้ามคานหวุดหวิด
ลิเวอร์พูลเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นาที 27 บอลตรงกลางสนาม สตีเว่น เจอร์ราร์ด สบโอกาสวางเท้ายิงด้วยขวาระยะ 25 หลา อัสเมียร์ เบโกวิช ปัดออกข้างไว้เยี่ยม
สองนาทีต่อมา เจ้าบ้านยังเดินเครื่องต่อเนื่อง ซูโซ่ ลากเลื้อยจากด้านขวาตัดเข้ามากดด้วยซ้ายติดบล็อค ดีน ไวท์เฮด บอลกลับมาที่ซูโซ่ อีกครั้ง คราวนี้ดาวรุ่งสเปนพพยายามชิพให้ แดน แอ็กเกอร์ ชาร์จ แต่โดนไม่เต็มลูกออกหลังไป
เกมรุกลิเวอร์พูลเริ่มมีบทบาทมากขึ้น นาที 35 ราฮีม สเตอร์ลิง แย่งบอลกัลผู้เล่นสโต๊คตรงกลางสนามก่อนหลุดมาได้ เลี้ยงจี้จ่ายให้ หลุยส์ ซัวเรซ ผ่านอีกทีให้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เติมขึ้นมากดด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ ลูกบดเกินไปถากเสาออกหลัง
ท้ายครึ่งแรก เกมเริ่มหนักมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะฝั่งทีมเยือนต้องตัดฟาวล์บ่อยครั้ง ทว่าเจ้าถิ่นยังไม่สามารถฉกฉวยผลประโยชน์จากจุดนั้นได้ จบครึ่งแรกไม่มีประตูเสมอกันอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลังเจ้าบ้านยังเริ่มต้นได้ พยายามกดดันต่อเนื่อง นาที49 โจ อัลเลน เล่นกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ก่อนไหลให้ เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมาทางกราบซ้าย เลี้ยงตัดเข้ากลางกดด้วยขวาเต็มข้อ อัสเมียร์ เบโกวิช รับจังหวะกระฉอกก่อนตามมาตะครุบไว้ทัน
สองนาทีต่อมาสาวกหงส์แดงเกือบมีเฮอีกครั้ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด วางยาวเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย เกล็น จอห์นสัน เติมขึ้นมาพอเหมาะพอเจาะ แต่ชาร์จโดนไม่ดีลูกลอยข้ามคานออกหลัง
แตะหนึ่งชั่วโมงแรก หลุยส์ ซัวเรซ โชว์ลีลาลากเลื้อยจากกลางสนาม จี้หลบสองผู้เล่นสโต๊คก่อนหลุดเข้ากรอบเขตโทษ ทว่าจังหวะยิงด้วยซ้ายโดนไม่เต็มข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง
ทีมเยือนเริ่มมีหือบ้าง แม็ทธิว เอเธอริงตัน ตัวสำรองจี้ขึ้นด้านซ้าย เปิดเข้ากลางลูเลยไปถึง สตีเว่น เอ็นซ็องซี่ มีพื้นที่มีเวลาแต่ห้องเครื่องสโต๊คซัดไม่ดีลูกปลิ้นออกแบบน่าผิดหวัง
นาที 71 แดน แอ็กเกอร์ ตัดบอลกลางสนาม พาบอลขึ้นมาเองเลี้ยงเข้ากรอบเขตโทษด้านว้าย ก่อนหยอดข้ามมาเสาไกล ราฮีม สเตอร์ลิง เติมขึ้นมาแปเน้นๆลูกชนเสาแรกพลาดโอกาสทองไปอีก
เจ้าบ้านยังพยายามหาช่องเจาะไปเรื่อย นาที75 หลุยส์ ซัวเรซ พาตะลุยเข้ากรอบเขตโทษโดนปะทะแล้วทิ้งตัวล้มลง ไม่มีเสียงนกหวีดจากผู้ตัดสิน จากจังหวะต่อมา โจ โคล เล่นชิ่งกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ก่อนได้โอกาสซัดด้วยซ้ายตรงกรอบเขตโทษ ลุกเบาเกินไปเข้ามือ อัสเมียร์ เบโกวิช
โจ โคล ลงเริ่มสร้างความวูบวาบทางกราบซ้ายมากขึ้น นาที 78 พาบอลขึ้นด้านซ้ายอีกครั้ง ก่อนไหลเข้ากลาง นูริ ซาฮิน เติมขึ้นแปเน้นๆด้วยซ้าย ไม่ตรงกรอบตามเคย
นาที 82 ลูกทุ่มจาก อังเดร วิสดอม มาถึง หลุยส์ ซัวเรซ แตะหนี ดีน ไวท์เฮด กระชากเข้ากรอบเขตโทษพยายามยิงมุมแคบลูกไปชนเสาด้านนอกออกหลังอีกครั้ง
นาทีสุดท้าย เจอร์ราร์ด เล่นฟรีคิกสั้นมาถึง โจ โคล เปิดยาวเข้ากรอบเขตโทษ จังหวะชุลมุนสุดท้าย มาร์ติน สเคอร์เทล ได้ดีดด้วยขวาลูกเช็ดเสาอีกครั้งออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอ สโต๊ค 0-0 แบ่งไปทีมละแต้ม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า , อังเดร วิสดอม, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนียล แอ็กเกอร์, เกล็น จอห์นสัน , สตีเว่น เจอร์ราร์ด, นูริ ซาฮิน (อุสซาม่า อัสไซดี้ น.78), โจ อัลเลน , ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ซูโซ่ (โจ โคล น.66), หลุยส์ ซัวเรซ
สำรองไม่ได้ใช้ : แบรด โจนส์ (ผู้รักษาประตู), จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เซบาสเตียน โคอาเตส, เจมี่ คาราเกอร์, ฟาบิโอ บอรินี่
สโต๊ค ซิตี้ : อัสเมียร์ เบโกวิช , เจฟฟ์ คาเมร่อน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, มาร์ค วิลสัน , ไมเคิ่ล ไนท์ลี่ย์ (แม็ทธิว เอเธอริงตัน น.62), ชาร์ลี อดัม (เมาริเซ่ เอดู น.79), สตีเว่น เอ็นซองซี่, เกล็น วีแลน (ดีน ไวท์เฮด น.19), จอน วอลเตอร์ส, ปีเตอร์ เคร้าช์
สำรองไม่ได้ใช้ : โธมัส โซเรนเซ่น (ผู้รักษาประตู), เคนวีน โจนส์, แม็ทธิว อัพสัน, คาเมร่อน เจอโรม
ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ดาวนิ่งจวกบี-ร็อดเหน็บตนไม่ทุ่มเทให้หงส์
สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ปีกเลือดผู้ดีของทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ออกโรงจวก เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือคนเก่ง สำหรับการออกมาตั้งประเด็นสงสัยในความทุ่มเทของตนให้กับต้นสังกัดแบบเปิดเผย ต่อสาธารณชน เนื่องจากเจ้าตัวคิดว่ามันน่าจะเป็นการพูดคุยกันแบบตัวต่อตัวมากกว่าหงส์ส่งซัวเซกระชากซัด,สโต๊คจัดโย่งเคร้าช์โขกชัย
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกนำโดย หลุยส์ ซัวเรซ ที่พึ่งระเบิดฟอร์มเก่งเกมลีกที่ผ่านมา เตรียมเปิด แอนฟิลด์รับ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค ซิตี้ ที่ ปีเตอร์ เคร้าช์ ดาวยิงร่างโย่งเป็นตัวความหวังล่าตาข่าย ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. ศกนี้สตีวี่จีให้คำมั่นอยู่กับหงส์จนเลิกเล่น
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันทีม ลิเวอร์พูล ให้คำมั่นสัญญาจะขออยู่กับ "หงส์แดง" ไปจนถึงเวลาที่ต้องแขวนสตั๊ดแน่นอน พร้อมเผยเคยมีโอกาสที่จะย้ายออกจากทีมไปเมื่อ 5 ปีก่อน แต่เพราะเป็นแฟนตัวยงของสโมสรมาตลอดเลยตัดสินใจที่จะอยู่ต่อไปหงส์ยึดทีมแข้งละอ่อนสุดพรีเมียร์
การผลักดันดาวรุ่งขึ้น มาของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส อย่างต่อเนื่องทำให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยของนักเตะน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์