ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
บันเทิง » ข่าวบันเทิง » ''เจมส์''เถียงสู้ลวงแฟนคลับขายตรง

''เจมส์''เถียงสู้ลวงแฟนคลับขายตรง

Posted 09/10/2012 by siamdara

    ''เจมส์-เรืองศักดิ์'' ออกโรงโต้เปล่าลวงแฟนคลับร่วมธุรกิจหลังจัดมีตติ้งฉลอง Follower ครบแสน พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ยันแคร์ความรู้สึกแฟนคลับทุกคน ยันไม่บังคับใจใคร แจงเป็นเพราะแยกกิจกรรมเป็น 2 ช่วงไม่ชัดเจน รับรอบคอบน้อยบทเรียนครั้งสำคัญ


    งานเข้าอย่างจังเบ้อเร่อเลย สำหรับดารานักแสดงและอดีตนักร้องหนุ่มชื่อดัง ''เจมส์'' เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ เจ้าของผลงานเพลง ''ข้าวมันไก่'' สุดฮิตเมื่อหลายปีก่อน  ที่ล่าสุดโดนแฟนคลับออกมาแฉว่านักร้องหนุ่มทำให้เสียความรู้สึกด้วยการจัดงานมีตติ้งบังหน้า แล้วหลอกบรรดาแฟนคลับที่หลงรักหัวปักหัวปำให้หลวมตัวสมัครเป็นสมาชิกบริษัทขายตรง จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงและกว้างขวางในสังคมออนไลน์
    

    โดยต้นตอของเรื่องราวสุดอื้อฉาวครั้งนี้เกิดจากการที่นักร้องหนุ่มจัดกิจกรรม ''Follower ครบแสน ชวนแฟนกินข้าวกับเจมส์-เรืองศักดิ์'' เมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วมีผู้ที่อ้างตนว่าเป็นแฟนคลับของหนุ่มเจมส์ซึ่งใช้ชื่อว่า ''ข้าวไก่ย่าง'' โพสต์ข้อความในทำนองว่าตนเสียความรู้สึกที่นักร้องหนุ่มใช้ความรักของแฟนคลับมาหากิน โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า ''ข้าวไก่ย่าง'' ยังแฉด้วยว่าในงานดังกล่าวมีการแอบแฝงชักชวนแฟนคลับมาสมัครเป็นสมาชิกขายตรงของบริษัทหนึ่ง
    

    ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 8 ต.ค. 55 ที่ ห้องประชุมชั้น 2  โรงเรียนสอนภาษา BSC  สี่แยกพญาไท  ''เจมส์-เรืองศักดิ์'' ได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงถึงเรื่องราวที่กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว เบื้องต้นหนุ่มเจมส์ได้ออกมากล่าวขอโทษไปยังแฟนคลับ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีการบังคับให้แฟนคลับที่มาร่วมงานสมัครเป็นสมาชิกบริษัทขายตรงตามที่ถูกกล่าวหา แต่ทั้งนี้หนุ่มเจมส์ก็ขอยอมรับว่าเป็นความผิดของตนเองที่อาจจะแยกแยะกิจกรรมทั้ง 2 อย่างไม่ชัดเจนจนทำให้เกิดความสับสนและเข้าใจผิดขึ้นได้
    

    ''วันนี้ก็มี 2 ประเด็นที่อยากขอบคุณแฟนๆ ที่มาร่วมงานฉลอง Follower ในทวิตเตอร์ครบ 1 แสนและก็มากินข้าวด้วยกัน ประเด็นที่ 2 คือเป็นการขออภัยที่ทำให้แฟนคลับบางส่วนไม่สบายใจ ซึ่งวันนี้ก็มีข้อเท็จจริงที่จะมาเล่าให้ฟัง''
    

    ''ขอเข้าประเด็นแรกก่อน ต้องขอขอบคุณเนื่องจากว่าในทวิตเตอร์หลังจากที่ผมมีงานคอนเสิร์ต ปรากฏว่ามียอดคนติดตามครบ 1 แสน ผมก็เลยจัดกิจกรรมขึ้นที่โรงแรมเมอร์เคียว ตรงฟอร์จูน เป็นการกินข้าวกับ เจมส์-เรืองศักดิ์ สนุกสนานมาก''
    

    ''ประเด็นที่ 2 คือเรื่องความไม่สบายใจของแฟนคลับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมค่อนข้างแคร์มาก เรื่องมันเป็นอย่างนี้ครับ ในวันที่ผมจัดกิจกรรม ก็มีการร้องเพลง เล่นมุกกับแฟนคลับ กิจกรรมก็ดำเนินไปจนจบ ผมก็มีการได้พูดคุย อัพเดตชีวิตก้าวต่อไปของผม ซึ่งในทุกๆ ปีผมก็จะมีการพูดอย่างนี้กับการจัดกิจกรรมให้แฟนคลับอยู่แล้ว เราก็เล่าเรื่องต่อไปว่าชีวิตต่อไปเราจะทำอะไร ซึ่งผมก็ได้เล่าถึงเรื่องธุรกิจที่ผมกำลังทำอยู่ มีความรู้สึกว่าทำแล้วมันดีต่อชีวิตเราและคนแรกที่เรานึกถึงคือแฟนคลับ ผมก็เลยมีการตั้งคำถามกับแฟนคลับ''
    

    ''วันนี้พี่เจมส์กำลังทำธุรกิจ ซึ่งเป็นธุรกิจเน็ตเวิร์กมาร์เกตติ้ง (ไม่ใช่ขายตรง) เรามีสิ่งดีๆ ถ้ามันให้อย่างนี้กับน้องๆ ได้จริง ถ้าใครสนใจที่จะฟัง ก็นั่งต่อเดี๋ยวพี่เจมส์จะให้ข้อมูลว่าธุรกิจนี้มันเป็นยังไง ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่สนใจหรือคิดว่าตัวเองไม่สะดวก ก็ไม่มีการบังคับใดๆ ทั้งสิ้น สามารถกลับได้และทุกคนที่เดินออกไปจากที่นี่ ณ เวลานี้ พี่เจมส์บอกเลยว่าถ้ามีการจัดมีตติ้งครั้งต่อไปเราก็สามารถมาร่วมสนุกกันได้อีก ยังเป็นพี่น้องเหมือนเดิม ไม่มีข้อแม้หรือการบีบบังคับ'' ผมพูด 3 รอบ ช้าๆ ชัดๆ ประตูก็ไม่มีการล็อก ก็บอกน้องๆ ทุกคนให้เข้าใจเพราะมันเป็นกิจกรรมคนละส่วน ก็คาดเอาไว้ในใจว่าน้องๆ น่าจะเดินออกไปสักครึ่งนึง หรือ 60-70 เปอร์เซ็นต์ แล้วเหลือคนที่สนใจจริงๆ แล้วผมจะให้ข้อมูลว่าธุรกิจที่ผมพูดถึงมันคืออะไร ปรากฏกว่าคาดการณ์ผิด พอผมพูดจบก็มีคนเดินออกไป 1-2 คนเท่านั้นเอง ผมก็คาดเดาไปเองว่าทุกคนก็คงอยากจะฟังจริงๆ ผมเลยถือโอกาสเล่าถึงโปรเจกต์ที่ทำอยู่ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกก็เล่าว่าธุรกิจนี้ให้อะไรบ้าง ใช้เวลา 5-10 นาที ผมก็พูดประโยคเดิมอีกครั้งนึง ''บอกถ้าไม่สนใจหรืออึดอัดใจที่จะฟังสามารถกลับได้ ไม่ต้องกลัวพี่เจมส์โกรธ อย่าอยู่ด้วยความเกรงใจ ยังไงพี่ก็ยังเป็นพี่ของน้องๆ เหมือนเดิม ที่กล้ามาพูดกับน้องๆ เพราะพี่เจมส์คัดสรรแล้วว่ามันดี ซึ่งผมพูดชัดเจนมาก'' พอพูดครั้งที่ 2 ก็ยังไม่มีคนลุกออกไปมากสักเท่าไหร่ จนผมเล่าจบทั้งโปรเจกต์ ซึ่งเราก็ไม่มีการบีบบังคับใดๆ กับน้องๆ แฟนคลับ แต่ผมบอกว่าถ้าอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเดี๋ยวเราไปกันต่อ ผมจะให้ข้อมูลที่มากกว่านี้เพราะตอนนั้นเวลาก็ 3 ทุ่มแล้วซึ่งมันดึกเกินไป ฟังครั้งแรกก็คงไม่สามารถได้ข้อมูลทั้งหมด ถ้าน้องๆ อยากได้ข้อมูล แล้วพี่เจมส์จะโทร.นัดแล้วเราก็ไปคุยกันต่อว่าลึกๆ แล้วมันเป็นยังไง ต้องทำอะไรบ้าง พอจบกิจกรรมนี้ไป ทุกคนก็มาถ่ายรูปกัน เฮฮาปาร์ตี้สนุกสนาน ก่อนกลับทุกคนก็มากอดพี่เจมส์คนละที''


    ''เวลาผ่านไป 2 วัน ผมก็ได้รับฟีดแบ็กที่ดีมากนะครับเกี่ยวกับกิจกรรมในช่วงแรก ได้มีโอกาสเห็นหน้าแฟนคลับที่ผมไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน 17 ปี เพิ่งได้มาเจอ เซอร์ไพรส์มากกับงานนี้ สุดท้ายแล้วผ่านไป 3 วันน้องๆบางกลุ่มก็เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งผมแคร์ความรู้สึกทุกคน น้องๆ ก็ได้มีการระบายความในใจผ่านทางกระทู้หรือพื้นที่ในเว็บไซต์ วันนี้ที่ผมออกมาพูดผมอยากจะมาขออภัยความรู้สึกของน้องๆ ที่ไม่สบายใจ ผมขออภัยจากหัวใจ (พร้อมยกมือไหว้) ผมคิดไปเองว่ากิจกรรม 2 กิจกรรมนี้ผมมีเส้นแบ่งที่ชัดเจนแล้ว แต่ว่าความเป็นจริงมันอาจจะยังชัดเจนไม่เพียงพอ ก็เลยทำให้เกิดความไม่สบายใจของน้องๆ หลายฝ่าย จากเหตุการณ์นี้ผมก็กราบขออภัยจริงๆ อาจเป็นความรอบคอบน้อยไปนิดนึง ก็เป็นประสบการณ์ให้ผมว่าต่อไปหากพูดถึงธุรกิจอีก ผมจะมีความชัดเจนยิ่งกว่านี้อาจจะแยกออกเป็นคนละวัน''
     

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าน้องๆ หลายคนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องมีทีมงานโทร.ไปตาม นักร้องหนุ่มชี้แจงทันทีว่าสาเหตุที่ให้ทีมงานโทร.ไปเพราะว่าต้องการจะทราบว่า แฟนคลับของตนที่เฝ้าฟังข้อความในวันนั้นด้วยความสนใจมีอะไรจะสอบถามเพิ่มเติมไหม เพื่อที่จะได้นัดหมายให้มาฟังต่อในวันรุ่งขึ้น  
                

    ''จากข้อความที่ไม่สบายใจของน้องท่านหนึ่ง ซึ่งผมต้องขอบคุณน้องคนนี้มาก เหมือนเตือนสติผมหลายๆอย่าง คือเล่าย้อนกลับไปนิดนึงว่า หลังจากที่ผมพูดในวันนั้นจบซึ่งมันก็ค่อนข้างดึกแล้ว สำหรับคนที่สนใจผมก็จะให้ทีมงานโทร.ไปสอบถามอย่างชัดเจนว่า วันนั้นอยู่ฟังจนจบไหม ถ้าอยู่ฟังจนจบ กิจกรรมสุดท้ายอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมไหม ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมให้มาพบพี่เจมส์ได้ ได้ข้อมูลแล้ว ทำหรือไม่ทำ ชอบหรือไม่ชอบ เราก็ยังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ผมถามชัดเจนครับ ซึ่งผมก็ได้สอบถามไปยังน้อง น้องก็บอกว่าพูดชัดเจน''
    

    นอกจากนี้หนุ่มเจมส์ยังได้อธิบายถึงเหตุผลที่น้องคนดังกล่าวได้เขียนข้อความในตอนนึงว่า หลังจากที่น้องไม่สนใจกิจกรรมก็เหมือนได้รับการเพิกเฉยจากเจมส์ และวางแบงก์ร้อยให้จ่ายค่าน้ำ
    

    ''ผมเล่าข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ฟัง จริงๆ เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ผมเข้าใจอะไรหลายๆ อย่าง ก็เป็นน้องคนเดิมที่ผมพูดถึงนี่แหละครับ เราก็บอกว่าถ้าสนใจก็ให้มาฟังข้อมูลต่อ ปรากฏว่าน้องนัดกับผมประมาณ 6 โมงถึง 1 ทุ่ม แต่น้องมาเลต เนื่องด้วยผมก็มีภารกิจค่อนข้างเยอะ ระหว่างที่น้องมาเลต ผมก็คุยกับคนอื่นอยู่ น้องก็มานั่งรอ สั่งน้ำ อาหาร แล้วผมก็ไปนั่งคุยกับน้อง อธิบายข้อมูลเพิ่มเติม ใช้เวลานั่งคุย 1-2 ชั่วโมงกว่า ถ้าผมจำไม่ผิด ระหว่างที่ผมคุยก็มีอีกทีมที่รอผมอยู่ ซึ่งทีมนั้นก็รอผมมานานมากแล้ว พอผมคุยจบ ผมทิ้งประโยคสุดท้ายกับน้องว่า ''น้องครับวันนี้ฟังข้อมูลพี่เจมส์แล้วสนใจไหม'' น้องก็เหมือนไม่สนใจ ผมก็บอกว่าไม่เป็นไรเราก็เป็นพี่น้องเหมือนเดิม เดี๋ยวพี่เจมส์ต้องไปแล้วเพราะต้องไปสอนอีกทีมนึง และในระหว่างที่ผมเล่าก็มีน้องทีมงานผมนั่งดูแลเขามาตั้งแต่ต้น โดยธรรมเนียมของทีมผมเวลาที่เราไปทานอาหารร่วมกันจะไม่มีใครคนใดคนหนึ่งเลี้ยง ใครสั่งอะไรก็จ่ายกันเอง วันนั้นผมไปนั่งคุยกับน้องเขา ผมก็สั่งน้ำแดงมา 1 แก้ว ราคา 39 บาท ก่อนที่ผมจะลุกไป ผมก็หันไปบอกทีมงานที่ดูแลน้องคนนั้นว่า ''เดี๋ยวพี่เจมส์ฝากจ่ายค่าน้ำพี่เจมส์ด้วยนะ'' ซึ่งผมก็วางเงินไป 100 แล้วก็บอกบ๊ายบายพี่เจมส์ไปก่อนนะ ด้วยความเร่งรีบ อันนี้ผมอาจจะมองข้ามความรู้สึกนี้ไปว่า ทำไมผมไม่ดูแลทั้งโต๊ะ ไม่มีเจตนาอย่างอื่นเลยครับมันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของทีมเราอยู่แล้ว''
    

    หนุ่มเจมส์ยังได้เผยกับสื่อว่า หลังจากแถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยตนจะโทรศัพท์เพื่อพูดคุยกับน้องคนดังกล่าว พร้อมกับกล่าวความรู้สึกเสียดายที่ในวันดังกล่าวตนไม่ได้เซ็นแผ่นซีดีและหนังสือที่น้องเตรียมมา เหตุก็เนื่องมาจากตนไม่รู้
    

    คนมองว่าเราเหมือนกับจัดมีตติ้งลวงให้คนมาฟัง ผู้สื่อข่าวถามเพื่อให้นักร้องหนุ่มอธิบายในเรื่องนี้
    

    ''คำว่า ''ลวง'' หมายถึงว่าผมพยายามไปสอดแทรกธุรกิจให้อยู่กับกิจกรรมปาร์ตี้แฟนคลับ แต่ผมบอกได้เลยว่าผมแบ่งแยก 2 กิจกรรมนี้อย่างชัดเจนมาก ช่วงแรกจบแล้วต่อช่วงสอง โดยมีคำถามคั่นกลางอย่างชัดเจน วันนี้อยากขออภัยที่สุดเลยที่ผมคาดเดาสถานการณ์ไปเอง แล้วมันยังไม่ชัดเจนมากพอ ฉะนั้นเรื่อง ''ลวง'' ก็ไม่มีครับ เพราะผมทำทุกอย่างด้วยความบริสุทธิ์ใจ ผมไตร่ตรองมาอย่างดี สิ่งที่ผมแคร์ที่สุดคือความรู้สึกของแฟนคลับทุกคน ไม่ว่าใครจะคิดแง่ลบหรือต่อต้านผมก็ยังแคร์เหมือนเดิม ต้องขออภัยอีกครั้ง (ยกมือไหว้) ก็ถือว่าเป็นบทเรียนประสบการณ์ครับ''
    

    ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมแรกนานไหม เพราะน้องบอกว่าร้องแค่ 3 เพลง ผู้สื่อข่าวล้วงลึกถึงรายละเอียดการจัดมีตติ้งแฟนคลับ ซึ่งหนุ่มเจมส์ก็ได้กล่าวว่า ตนต้องการให้มีตติ้งดังกล่าวเป็นแบบเอ็กซ์คลูซีฟจริงๆ เพื่อให้แฟนคลับได้ใกล้ชิด ตนจึงไม่ได้เน้นในเรื่องร้องเพลงมากนัก โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ส่วนคุยธุรกิจใช้เวลา 1 ชม.
    

    ''กิจกรรมนี้ชื่อว่า ''กิจกรรม Follower ครบแสน ชวนแฟนกินข้าวกับเจมส์-เรืองศักดิ์'' ถ้าผมจำไม่ผิดเราใช้เวลาไปกับกิจกรรม 2 ชั่วโมงเกือบ 2 ชั่วโมงครึ่ง กิจกรรมหลักๆ เน้นเข้าถึงแฟนคลับทุกคน ถ้าใครที่ไปอ่านรีวิวกิจกรรมก็จะเห็นเลยว่าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยใกล้ชิดผมขนาดนี้มาก่อน ผมเน้นทอล์กโชว์ เล่นมุก เล่นเกมไปตามโต๊ะต่างๆ และมีการร้องเพลงแค่ 3 เพลงเพราะเราไม่ได้จัดคอนเสิร์ต ไม่อยากให้เป็นกิจกรรมร้องเพลง อยากให้เป็นกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ ทุกคนสามารถใกล้ชิดผมมากกว่าเห็นผมอยู่บนเวที ส่วนกิจกรรมที่พูดถึงเรื่องธุรกิจใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว''
      

    ''ตอนที่แจกบัตรบอกแฟนคลับหรือว่าแบ่งกิจกรรมเป็น 2 ช่วง อันนี้เป็นสิ่งที่ผมจะขออภัย คือผมคิดไปเองว่าน้องๆ คือคนกันเอง เรากะว่าพอน้องๆ มาเราก็จะบอกในงานได้ ใครไม่อยู่ก็คือไม่อยู่ อันนี้คือสิ่งที่อยากขออภัยและคิดว่าอาจจะเป็นเพราะว่ารอบคอบน้อยนิดนึง''

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »