หลังจาก ''เปิ้ล'' นาคร ศิลาชัย พิธีกรแก๊ง ''รายการสาระแน'' ของบริษัท ลักษ์ 666 จำกัด ได้ถูกปลดฟ้าผ่าจากตำแหน่งผู้ดำเนินรายการประจำที่ทำมาเกือบ 15 ปี ล่าสุดมีกระแสข่าวลือว่า ''วิลลี่ แมคอินทอช'' และ ''เกียรติศักดิ์ อุดมนาค'' 2 พิธีกรร่วมและหุ้นส่วนใหญ่ได้เตรียมดันนักแสดงสาวสุดฮา ''ยิปโซ'' รมิตา มหาพฤกษ์พงศ์ มาดำเนินรายการแทน ล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 55 ผู้สื่อข่าวได้เจอกับหนุ่ม ''เปิ้ล'' ในงานแถลงข่าวงานเปิดตัวหนังสือทอยเลท 5 ที่จัดขึ้น ณ โคขุนคุณทองโพนยางคำ สาขาศรีวรา ทาวน์อินทาวน์ โดยพิธีกรตลกกล่าวว่า ตนไม่ทราบเหมือนกันแต่คิดว่าทางรายการคงอยากได้รูปแบบรายการที่สดใสขึ้น ซึ่งจริงๆ ''ยิปโซ'' ก็เป็นคนที่ตลกแต่ติดที่ว่าเป็นตลกแปลกๆ

    ''อ๋อหร๋อครับยังไม่รู้เลยถ้ามาจริงก็ดีเพราะว่ากับ ''ยิปโซ'' ก็เคยทำงานด้วยกันน้องเขาก็ตลกดีก็ตลกมีจังหวะแปลกๆ ถ้ามาเราก็คงจะได้เห็นจังหวะแปลกๆ ของน้องเขาทางรายการเขาก็คงอยากได้รูปแบบรายการใหม่ๆ ที่สดใส ส่วนตัวก็ยินดีครับ''
    

    ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อว่ารู้สึกอย่างไรการทำงานคนเดียวทั้งที่เมื่อก่อนมีคนช่วยหลายคน เดี่ยวกับเรื่องนี้ ''เปิ้ล'' ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าตนก็มีอารมณ์เหงาบ้างเหมือนกัน

    ''ก็เพิ่งรู้ว่าการทำงานคนเดียวมันว้าเหว่ก็เหงาดีแต่ก็เร็วดีจะซื้อตู้เย็นซื้อโถ่ส้วมก็ทำได้เลยก็ดีอย่างเสียอย่างมันเหงาแต่ก็มีเพื่อนพี่น้องมาร่วมออกไอเดียมานั่งคุยด้วยเป็นเหมือนจุดรวมของเหล่าครีเอทีฟนักช่างฝัน สำหรับตอนนี้กำลังคิดทำรายการของฟรีทีวีแล้วมันส์มาก และกำลังจะไปคุยกับผู้ใหญ่หลายๆ ช่องอยู่ถ้าช่องไหนจ้างก็ทำเลย น่าจะเป็นทางที่เราถนัดคงไม่พ้นเรื่องตลก และเร็วๆ นี้ก็จะเปิดทอยเลท 5 เป็นผลงานชิ้นแรกและยังเดินหน้าสานฝันของตัวเองต่อไปในรูปแบบของรายการทีวีภาพยนตร์หรือหนังสือรวมถึงงานโฆษณา นอกจากงานภาพยนตร์ที่รับจ้างเล่นสุดกู้โลก ก็อยากให้เห็นหนังเรื่องต่อไปซึ่งจะเป็นหนังที่สร้างเรื่องแรกของตัวเองในเรื่องของซูเปอร์ฮีโร่คงได้ดูกันในปีหน้า เสี่ยเจียงสั่งให้ทำน่าจะกำกับเองเล่นเองดูเอง (หัวเราะ) ก็คงจะแจ้งให้ทราบต่อไปถึงชื่อเรื่องครับ''
    

    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าทำผลงานออกมาคล้ายกันแบบนี้ไม่กลัวทับไลน์กับบริษัทที่เราเพิ่งออกมาหรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ ''เปิ้ล'' กล่าวว่าตนไม่รู้สึกกลัวเพราะถ้ากลัวคงต้องไปขายโคขุนอย่างเดียวแล้ว

    ''ถ้ากลัวก็คงต้องขายโคขุนอย่างเดียวคงต้องยุบทีวีและทุกๆ อย่างที่เป็นของเราทิ้งไปทำพิธีกรเดี๋ยวไปทับไลน์คนอื่นเขา คือตัวผมมันคงเลิกไม่ได้หรอก สันดานเป็นอย่างนี้ เราเกิดกับทีวีเราก็คงต้องตายกับทีวี''
    

    อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวยังได้ซักถามเกี่ยวกับล่าสุดที่ไปออกรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ที่มีคนวิจารณ์อย่างอื้ออึงว่าเป็นการโชว์หัวเราะหรือโชว์ฉลาดน้อยกันแน่น เกี่ยวกับเรื่องนี้พิธีกรหนุ่มบอกว่าในเน็ตมีความคิดเห็นแตกต่างกันเยอะซึ่งบางอันอ่านแล้วเกิดปัญญาบางอันอ่านแล้วก็ไม่ได้เกิดปัญญา
    

    ''ในเน็ตมันแล้วแต่เว็บไหนก็มีหลายคนบอกพี่เปิ้ลแตกต่างกัน เคยเผลอเข้าไปดูทีนึงรู้สึกว่าบางอันอ่านแล้วเกิดปัญญา บางอันอ่านแล้วไม่ได้เกิดปัญญา อันที่ไม่เกิดปัญญาพี่ว่าเขาป่วยมากกว่าถ้าป่วยก็อย่ามาเล่นเน็ตเลยไปหาหมอดีกว่า อ่านแล้วรำคาญเราทำงานสร้างสรรค์เหมือนขี่เจ็ตสกีแล้วเอาเท้ามาราน้ำ น้องอย่าเอาเท้ามาราน้ำเลยนะพี่ว่า''