เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ มิดฟิลด์ ยูเวนตุส เปิดอก สุดแสนจะปลาบปลื้มที่มีชื่อเข้าชิงรางวัล "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ประจำปี 2012 เคียงคู่กับนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ด้วย พร้อมโว วงการฟุตบอลของ อิตาลี กำลังกลับมาสู่ยุคทองอีกครั้ง หลังมีแข้งชาวอิตาเลียนเข้าชิงรางวัลดังกล่าวอื้อ แถมยก อันเดรีย ปีร์โล่ กองกลางรุ่นพี่ เป็นยอดแข้งอย่างแท้จริง

เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ กองกลางคนเก่งของ ยูเวนตุส สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวทีกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี กล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของโลก หรือ "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ประจำปี 2012 เคียงคู่กับนักฟุตบอลชื่อดังหลายคนในโลกลูกหนัง

แข้งวัย 26 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับทั้ง "เบียงโคเนรี่" และทีมชาติอิตาลี จนทำให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่ดีที่สุดของทวีปยุโรปใน ปีนี้ และเตรียมที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ครั้งที่จะถึงนี้ด้วย ซึ่ง มาร์คิซิโอ ระบุว่า ถึงแม้ตนคงจะไม่มีลุ้นคว้ารางวัลดังกล่าวมาครอง แต่การที่ได้เห็นชื่อของตัวเองอยู่เคียงข้างนักเตะชั้นยอดอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ อันเดรส อิเนียสต้า ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกปลาบปลื้มมากแล้ว

"มันเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจมาก ที่ได้อยู่ในรายชื่อของนักเตะชั้นยอดอย่างนี้ด้วย เพราะมันหมายความว่า ผมทำผลงานได้ดีสุดๆ มันเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้ผมปรับปรุงตัวเองเพื่ออนาคตต่อไป" มาร์คิซิโอ ให้สัมภาษณ์กับ "ตุ๊ตโต้สปอร์ต" สื่อกีฬาชื่อก้องของบ้านเกิด

ทั้งนี้ นอกจาก มาร์คิซิโอ แล้วนั้น ก็ยังมีพ่อค้าแข้งชาวอิตาเลียนหลายคน ที่มีชื่อลุ้นรางวัล "ฟีฟ่า บัลลง ดอร์" ประจำปี 2012 ด้วย อย่างเช่น อันเดรีย ปีร์โล่, จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ และ มาริโอ บาโลเตลลี่ ซึ่งกองกลางวัย 26 ปีจาก ยูเวนตุส ชี้ว่า นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า วงการฟุตบอลของแดนมะกะโรนีกำลังกลับมาสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง "มีอยู่บ่อยครั้งที่ประเทศของเราถูกปฏิบัติด้วยอย่างไม่เหมาะสม แต่ถ้าคุณมองดูแล้วล่ะก็คุณจะเห็นเลยว่า มีแค่ สเปน เพียงชาติเดียว ที่มีนักเตะติดโผมากกว่าเรา"

มาร์คิซิโอ ยังกล่าวชม ปีร์โล่ ซึ่งเป็นรุ่นพี่ทั้งในต้นสังกัด และในทีมชาติด้วยว่า เป็นนักเตะชั้นยอดขนานแท้ "พวกกองหน้ามักจะสร้างความแตกต่างได้ และมันก็เป็นเรื่องยุติธรรมสำหรับพวกเขา (ที่จะได้รับการยกย่อง) แต่ผมขอพูดถึง ปีร์โล่ ดีกว่า เพราะเขาเป็นคนที่ชี้ขาดเกม และมีความแน่นอนมาตลอดปีนี้เลยทีเดียว"