พ่อแม่ ''เอ๋-พัชรา'' ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย ยันเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ เพราะไม่เคยปรับทุกข์และมีปัญหาอะไร แจงอดีตนักร้องเพิ่งโทร.มาให้ส่งเอกสารสอบพยาบาลไปให้สัปดาห์ที่แล้ว ฟาก วิเชียร บอสนิธิทัศน์ ยันขอจ่ายค่านำศพกลับไทย 2 แสนกว่าบาท และช่วยเหลือครอบครัวอดีตนักร้องสาวเต็มที่ ด้าน กงสุลไทยประจำลอสแอนเจลีส เผยเจ้าของเสียงแหบเสน่ห์ไม่ได้ถูกฆาตกรรมแน่นอน แต่ยังไม่มีรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษร คาดได้ข้อสรุปชัดเจน 14 ต.ค. 55

จากการณี อดีตนักร้องสาวเจ้าของฉายาแหบเสน่ห์และเจ้าแม่เพลงผิดหวัง ''เอ๋'' พัชรา แวงวรรณ นักร้องนำวงดิ โอเวชั่น  ที่มีเพลงฮิตมากมาย อาทิ ลืมเสียเถิด, กล้ำกลืน, แอบช้ำ ฯลฯ เสียชีวิต โดยสภาพศพอยู่ในลักษณะแขวนคอภายในโรงรถที่บ้านพัก ในประเทศสหรัฐอเมริกา จากตอนแรกรายงานข่าวระบุว่าประสบอุบัติเหตุ ซึ่งต่อมาสถานกงสุลใหญ่ นครลอสแอนเจลีส ก็ยืนยันข้อมูลจากตำรวจสหรัฐฯ ว่าแขวนคอตายในโรงรถที่บ้านพัก ซึ่งกำลังรอผลชันสูตรศพชัดเจนอีกครั้งว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม
    

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2555 นางศรีสุดารัตน์ กาญจนารักษ์ อายุ 72 ปี มารดาของ ''เอ๋'' พัชรา แวงวรรณ นักร้องหญิงชื่อดังในอดีตผู้ล่วงลับ ร่ำไห้เปิดใจทั้งน้ำตาที่บ้านพัก ย่านถนนขวัญเมือง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ว่า หลังจากทราบการยืนยันของตำรวจสหรัฐฯ ว่าแขวนคอตายในโรงรถบ้านพักตนเองช็อกไปเลย เพราะไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่เคยปรับทุกข์และมีปัญหาแต่อย่างใด มักจะโทรศัพท์มาคุยกับแม่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ทุกวันนี้ถือว่าเอ๋เป็นเสาหลักของครอบครัว ไปสอนหนังสือและดูแลคนชราอยู่ที่อเมริกาเป็นเวลา 20 กว่าปีแล้ว และส่งเงินมาให้ครอบครัวใช้เดือนละ 2-3 หมื่นบาท
    

''ตอนแรกแม่เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ พอทราบข่าวว่าผูกคอตายแทบช็อกเลย ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตาย ที่ผ่านมาโทรศัพท์มาคุยกับแม่ตลอด เขาเป็นเสาหลักของครอบครัวเลย สงสัยว่าการเสียชีวิตครั้งนี้เป็นการฆาตกรรมหรือเปล่า ตำรวจทางโน้นกำลังสอบให้ เขากำลังจะสอบพยาบาลวันที่ 17-18 ต.ค. นี้ ใช้เวลาเรียน 3 เดือนก็จะจบ เขายังพูดกับแม่เลยว่า ถ้าเรียนจบแล้วก็จะมารับแม่กับน้องไปอยู่ด้วยกันที่โน่น ทุกครั้งที่คุยกันเขาไม่มีปัญหาคับแค้นใจอะไร อาทิตย์ที่แล้วเพิ่งโทร.มาบอกให้แม่ส่งเอกสารไปให้เพื่อใช้สอบพยาบาล เขายังบอกแม่เลยว่าเก่งจังเลยส่งเอกสารไปให้ถูกต้องตามที่ต้องการทั้งหมด
    

ด้าน นายโกศล แวงวรรณ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด 2 สมัย ซึ่งเป็นบิดาของนักร้องสาว ''พัชรา แวงวรรณ'' ซึ่งเสียชีวิตที่สหรัฐอเมริกา โดยพบศพผูกคอเสียชีวิตอย่างมีปริศนาอยู่กับโรงรถ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า  รู้สึกเสียใจกับการจากไปของลูกสาวเพียงคนเดียว ที่เรียนพยาบาลกำลังจะจบในอีก 1 ปี 6 เดือน สำหรับการจัดการศพ ได้ประสานกับแม่ของ พัชรา แวงวรรณ ซึ่งไปมีครอบครัวใหม่ที่ อ.เสลภูมิ ร้อยเอ็ด ติดต่อรอผลการดำเนินการจากกงสุลอเมริกัน ประสานมาก่อนว่าจะส่งศพกับมาเมื่อไหร่  หลังจากส่งศพมาถึงประเทศไทย จะจัดงานศพที่ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งตนและแม่พัชราที่แยกทางกันก็จะร่วมเดินทางไปร่วมงานศพที่ปทุมธานีต่อไป
    

นายโกศลกล่าวอีกว่า สับสบกับสาเหตุการที่ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ซึ่งไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะลูกสาวเป็นคนนิสัยดี เป็นคนร่าเริงไม่เครียด แม้แต่ตอนที่พ่อแม่แยกทางกันเป็นคนปลงตกปลอบใจแม่ และพ่อตลอดเวลา ให้รู้จักปล่อยวางและต่อสู้กับชีวิต ปกติตนมีลูกชาย 3 คน ลูกสาวคนเล็ก 1 คน คือพัชรา แวงวรรณ ตอนที่สูญเสียพี่ชายไป 2 คน ก่อนหน้านั้น พัชรา แวงวรรณ น่ะแหละเป็นคนที่ตั้งสติได้และปลอบโยนทุกคน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นคนคิดสั้น ถึงกับแก้ปัญหาอะไรไม่ได้และคิดฆ่าตัวตาย เพราะหากมีปัญหาก็ต้องเล่าให้ฟัง แต่เท่าที่ติดต่อกันตลอด ไม่เคยบอกว่าชีวิตมีปัญหาอะไร มีแต่บอกว่าทุกอย่างราบรื่นดี
    

ช่วงไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาลูกสาวตนได้ใช้ชื่อเสียงที่พอมีอยู่บ้างไปร้องเพลงที่ร้านอาหารไทยในลอสแอนเจลีส เพื่อหาเงินเรียน ล่าสุดกำลังเรียนพยาบาล จะจบในอีก 1 ปี 6 เดือน และอยู่กับสามีที่เป็นตำรวจที่ลอสแอนเจลีส  จนกระทั่งทราบว่าเสียชีวิต การเสียชีวิตของลูกสาวครั้งนี้จึงเชื่อว่าน่าจะต้องมีเงื่อนงำ  ได้พูดคุยกับแม่คือนางศรีสุดารัตน์ และพี่ชาย เขาก็ไม่เชื่อ ตอนนี้กำลังประสานไปยังกงสุลไทยให้ช่วยตรวจสอบหาความชัดเจน ว่าสาเหตุเกิดจากอะไรแน่ และไขปริศนาการเสียชีวิตให้ได้ ต้องพิสูจน์ให้ชัดว่าการเสียชีวิตครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่
    

นอกจากนี้ยังมีลางบอกเหตุบางอย่างโดย พ่อของอดีตนักร้องดังเผยว่า เมื่อตอนกลางคืนวันที่ 10 ต.ค. ซึ่งเป็นคืนที่ตร.สหรัฐฯ พบศพ ''เอ๋-พัชรา'' น้องสาวของตนและเป็นอาของเอ๋ ซึ่งอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ได้โทรศัพท์มาเล่าว่า นั่งอยู่ที่ระเบียงบ้านแล้วได้ยินเสียงนกแขกเต้าร้องทักเป็นภาษานกหลายครั้ง โดยตามธรรมชาติของนกแขกเต้าจะไม่ร้องในเวลากลางคืน ซึ่งตนกับน้องสาวคิดว่าน่าจะเป็นลางบอกเหตุลูกสาวเสียชีวิต  พ่อนักร้องชื่อดังที่ล่วงลับกล่าว
    

ส่วน นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของ"เอ๋" พัชรา แวงวรรณ อดีตนักร้องนำวงดิโอเวชั่น เผยว่า ทางครอบครัวยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดระหว่างเสียชีวิตจากอุบัติทางรถยนต์ หรือแขวนคอเสียชีวิตในโรงรถที่บ้านพัก ตามที่สถานกงสุลใหญ่ นครลอสแอนเจลีส ระบุข้อมูลจากตำรวจสหรัฐฯ ซึ่งในวันจันทร์นี้ทางครอบครัวจะทำหนังสือมอบอำนาจผ่านกรมการกงสุล จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อส่งต่อให้ตำรวจสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการสอบสวนและชันสูตรศพ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด เบื้องต้นคาดว่าจะนำศพกลับประเทศได้ประมาณเดือน ธันวาคม
    

วันเดียวกัน  วิเชียร อัศว์วิเศษศิวกุล ประธานกรรมการ บริษัท นิธิทัศน์ โอเอโอ อดีตต้นสังกัดของ "เอ๋-พัชรา" เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางครอบครัวของนักร้องสาวกำลังรอนำเอกสารที่เตรียมมอบอำนาจในการเคลื่อนย้ายศพไปส่งให้ที่สถานกงสุลใหญ่ ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะต้องดำเนินการในวันจันทร์ที่ 15 ต.ค.นี้ เนื่องจากวันเสาร์อาทิตย์ สถานกงสุลใหญ่นั้นปิดทำการ  หลังจากนั้นถึงจะได้ทราบว่าศพของนักร้องคนดังจะเดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อไหร่ ทั้งนี้ส่วนตัวก็ไม่ได้ปักใจเชื่อว่าอดีตนักร้องสาวจะฆ่าตัวตาย เพราะไม่มีเหตุจูงใจ เนื่องจากที่ผ่านมาที่ตนทราบชีวิตของเอ๋ยังมีความสุขดี และเร็วๆ นี้ก็กำลังจะจบการศึกษาด้านพยาบาล อีกทั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน "เอ๋-พัชรา"  ยังโทรศัพท์มาหา เดชา จินดาพล สมาชิกวง รอยัลสไปรท์ ที่ขณะนี้ทำงานให้บริษัท นิธิทัศน์ โอเอโอ ของตนเองว่า ให้ช่วยจัดเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการศึกษาที่โรงเรียนเก่า เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาเพิ่มเติมอีกด้วย
    

ในส่วนของค่าใช้จ่าย ยืนยันว่าตนเองจะจ่ายค่าดำเนินการนำศพกลับประเทศไทย ซึ่งน่าจะประมาณ 7,000 - 8,000  พันดอลลาห์สหรัฐฯ เป็นเงินไทยประมาณ 2 - 2.5 แสนบาทนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านพี่ชายของเอ๋ ก็ได้มาปรึกษาว่าควรจะเผาศพที่ประเทศอเมริกาเลยดีหรือไม่ เพราะถ้าประกอบพิธีที่นั่นและนำเพียงกระดูกกลับมา จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 ดอลลาห์สหรัฐฯ หรือกว่า 9 หมื่นบาทเท่านั้น แต่ตนคิดว่าอยากพาเอ๋กลับบ้านมากกว่า เพราะถ้าทิ้งไว้ที่นั่นหวั่นกลัวดวงวิญญาณของอดีตนักร้องสาวจะเคว้งคว้าง อีกทั้งตนเองก็อยากจะทำบุญครั้งใหญ่นี้ให้แก่อดีตนักร้องสาว  เพราะผูกพันกันมานาน โดยตนจะเป็นเจ้าภาพในการทำพิธีบำเพ็ญกุศลทุกคืน   ตั้งใจจะตั้งศพไว้ที่วัดสายไหม เนื่องจากแฟนคลับจะได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัยและเคารพศพได้อย่างสะดวก นอกจากนี้เนื่องจากเอ๋เป็นหัวเรือใหญ่ของบ้านที่ส่งเสียเงินเลี้ยงดูคนในครอบครัวมาตลอด ดังนั้นทางตนเองจะให้ลูกชายเป็นผู้จัดการในส่วนค่าเลี้ยงดูรายเดือน ที่จะมอบให้แก่ครอบครัวของนักร้องคนดังด้วย แต่จะเดือนเท่าไหร่นั้น ยังอยู่ในช่วงปรึกษากันอยู่
    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบรรณา วังวิวัฒน์ กงสุลฝ่ายคุ้มครองดูแลคนไทย ณ สถานกงสุลไทยประจำลอสแอนเจลีส ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ทางกงสุลได้คุยกับตำตรวจเมื่อตอนบ่ายและได้รับคำตอบว่าไม่ใช่เป็นการฆาตกรรมแน่นอน  แต่ยังไม่มีรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษร โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนในวันที่ 14 ต.ค. 55
    

ช่วงเย็นวันที่ 13 ต.ค. มีรายงานข่าวว่า นายผดุงศักดิ์ แวงวรรณ พี่ชายของพัชรา ได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า น้องสาวมักเล่าประจำว่าช่วงที่พักอยู่ที่บ้านในที่เกิดเหตุ ได้เช่าบ้านอาศัยอยู่กับครอบครัวชาวอเมริกันผิวดำชายอายุ 80 ปี ที่ภรรยาเสียชีวิตแล้ว และมีลูกชายผิวดำอายุกว่า40 ปี อาศัยอยู่ด้วย โดย "เอ๋-พัชรา" เล่าประจำว่ามีปัญหาและมีปากเสียง เดือนละหลายครั้ง และมีปากเสียงกับ 2 พ่อลูกอยู่เสมอ แต่ก็ต้องทนอยู่ เพราะหาที่อยู่ลำบาก และบ่นไม่สบายใจมาโดยตลอด ดังนั้นเพื่อคลายข้อสงสัยในประเด็นนี้ จึงทำเรื่องยื่นไปขอผ่าพิสูจน์จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่ได้ถูกฆาตกรรมแล้วจัดฉากแขวนคอตายอำพรางคดี คาดว่าใช้เวลา 1 เดือนจึงจะทราบผล

สำหรับ "เอ๋-พัชรา" เดินทางมาอยู่สหรัฐฯ กว่า 10 ปี โดยมาเรียนภาษาจากนั้นเรียนด้านพยาบาล แต่ในแวดวงของสังคมไทยในริเวอร์ไซด์และ แอลเอ ไม่ปรากฏว่าเธอออกมาร้องเพลงเหมือนกับนักร้องดังในอดีตของเมืองไทย ที่ออกร้องเพลงเป็นประจำ รวมทั้งงานด้านการกุศล สำหรับนักร้องไทยที่เดินทางมาอยู่สหรัฐฯ โดยเฉพาะในเขต แอลเอ มีมากมาย อาทิ กลุ่มราชดำเนิน ประกอบด้วย ไฉไล ไชยทา, ศวรรณี พัฒนะ, นิตยา นนทสุต, ปนัดดา ฉายะภาคย์, พราวตา ดาราเรือง, สายัณห์ จันทรวิบูลย์  นอกจากนี้ยังมีเดอะ ฮ็อตเปปเปอร์ ซิงเกอร์ทั้ง รุ่งพิรุณ เมธารมย์ และ ผุสดี เอื้อเฟื้อ เป็นต้น