เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกทีมชาติอังกฤษ สารภาพแต่โดยดี ต้องการที่จะทำหน้าที่กัปตันทีม "สิงโตคำราม" ไปตลอด หลังได้เป็นผู้นำทีมเปิดสนาม เวมบลีย์ ถล่ม ซาน มารีโน สมันน้อย ไปอย่างมันเท้า 5-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เผยเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และเป็นความฝันมาตั้งแต่เด็กในการได้รับหน้าที่นี้ด้วย

เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งเวทีพรีเมียร์ลีก ยอมรับว่า ต้องการที่จะสวมปลอกแขนกัปตัน "ทรี ไลอ้อนส์" ไปตลอด หลังเพิ่งพาทีมเปิดบ้านถล่ม ซาน มารีโน 5-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่มเอช เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา

ศูนย์หน้าวัย 26 ปี ฉลองการได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติ ลงเล่นในบ้านเกิดของตัวเองเป็นครั้งแรกด้วยการพัง 2 ประตู ในเกมดังกล่าว และทำให้เขาขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับ 5 ของทำเนียบดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติอังกฤษ ด้วย

กระนั้น รูนี่ย์ จะต้องคืนตำแหน่งดังกล่าวให้กับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดกองกลางของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่จะพ้นโทษแบนในเกมกับ โปแลนด์ วันอังคารที่ 16 ตุลาคมนี้ แต่เจ้าตัวก็ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าต้องการที่จะรับช่วงต่อตำแหน่งนี้จาก "สตีวี่จี" ด้วย

หัวหอก "ผีแดง" กล่าวว่า "หากคุณได้รับโอกาสในการเป็นกัปตันทีมให้กับชาติของคุณ สิ่งที่ผมคิดในฐานะนักเตะคือคุณต้องยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับเลยล่ะ ในอนาคตหวังว่ามันจะเกิดขึ้น แต่ในตอนนี้ สตีเว่น คือกัปตันของเรา และเขาจะเป็นตัวอย่างให้กับเรา"

ในนัดดังกล่าวไม่ใช่เกมแรกที่ รูนี่ย์ ได้เป็นกัปตันทีมชาติ หลังเคยสวมปลอกแขนมาแล้วครั้งหนึ่งในเกมกระชับมิตรกับ บราซิล ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อปี 2009 แต่นี่เป็นเกมแรกที่ได้นำทีมลงเล่นใน เวมบลีย์ ซึ่งกองหน้าตัวเก่ง กล่าวเสริมว่า "การนำทีมเข้าสนาม และเมื่อมองขึ้นไปเห็นแฟนบอลและบรรยากาศต่างๆ มันเป็นความรู้สึกที่ดีทีเดียว"

"การเป็นกัปตันทีมชาติให้ประเทศคุณ และลงเล่นที่ เวมบลีย์ คือเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณจะได้รับ มันเป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มอย่างผมและคุณฝันถึง จริงๆ แล้วการทำแบบนี้มันคือเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผม และเป็นสิ่งที่ผมจะรับมาและชื่นชมไปตลอดชีวิต มันเป็นเกียรติที่ยิ่งใหญ่ที่ผมจะเก็บไว้ตลอดไป"

อย่างไรก็ตาม รูนี่ย์ ไม่ได้เก็บเสื้อที่สวมลงสนามไว้ โดยเผยว่า "ผมให้มันไปกับนักเตะคนหนึ่งของ ซาน มารีโน ผมให้กางเกงไปด้วย มันเป็นโอกาสที่ดีของพวกเขาในการได้มาเล่นที่ เวมบลีย์ ต่อหน้าแฟนบอล 86,000 คน"