ฉาวอีก! ''พลอย-เฌอมาลย์'' หักหน้า ''พอล-ภัทรพล'' ชิ่งงานอีเวนต์กลางคัน หลังข้อตกลงไม่เป็นไปตามระบุ ด้านหวานใจด็อกเตอร์ ''นาวิน ต้าร์'' ออกหน้าแก้ต่างแทน พร้อมชี้มูลเหตุคือการสื่อสารที่ผิดพลาด ไม่เกี่ยวเรื่องเงินน้อย ยันพร้อมเข้าใจสไตล์การทำงานของคนรัก เชื่อไม่กระทบอีเวนต์อื่น

    หลังจากที่ ''พลอย'' เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ เพิ่งจบกรณีวิวาทเดือดกับออร์กาไนซ์ เรื่องรับเงินค่าตัวไปได้ไม่นาน ล่าสุดก็ดูเหมือนว่าเธอจะมีปัญหากับออร์กาไนซ์เจ้าใหม่อีกครั้ง เพราะเมื่อวันที่ 24 ต.ค. 55 ในงาน ''แถลงผลวิจัยสมุนไพรไทย ''ลดไข้'' ผลักความร้อนไม่ให้สะสมในตับ ช่วยให้คนไทยเลิกทานพารา'' ของผลิตภัณฑ์ ''คูลแคป'' ที่เป็นธุรกิจส่วนตัวของ ''พอล'' ภัทรพล ศิลปาจารย์ ที่จัดขึ้น ณ โรงพยาบาลปิยะเวท กรุงเทพฯ ดาราสาวปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับหวานใจด็อกเตอร์ ''นาวิน ต้าร์'' นาวิน เยาวพลกุล ตามหมายเชิญที่เหล่าสื่อมวลชนได้รับ ซึ่งทำให้บรรดาช่างภาพต่างรีบเข้าไปเก็บภาพคู่ของทั้งสอง เนื่องจากหลายเดือนที่ผ่านมาทั้งคู่ไม่ได้รับงานคู่เลย แต่เมื่อเห็นบรรดาสื่อมวลชนที่มากันอย่างหนาแน่น ดาราสาวถึงกับผงะก่อนกล่าวกับทีมงานที่มาต้อนรับว่า ขอเวลาคุยด้วยแป๊บนึง และเดินตรงเขาไปในห้องรับรองห้องหนึ่ง และไม่เกิน 5 นาที ดาราสาวเดินหน้าเครียดออกมา โดยมีผู้จัดการส่วนตัวที่ชื่อ ''มิว'' และทีมงานเดินตามมาติดๆ ซึ่งเธอไม่ได้ตรงไปร่วมในงานหรือถ่ายภาพที่โฟโต้แบล็คดร็อปแม้แต่น้อย แต่กลับตรงไปกดลิฟต์เพื่อเดินทางกลับ ซึ่งเธอยังบอกกับบรรดาสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวว่า ''ให้ไปเคลียร์กันเอาเอง เพราะนี่ไม่ใช่แบบที่ตกลงกันไว้'' ทั้งนี้ นางเอกสาวคนดังยังได้เชิญทีมงานและผู้จัดการส่วนตัวออกจากลิฟต์และเดินทางกลับแต่เพียงผู้เดียว โดยทิ้งหวานใจหนุ่มให้อยู่ร่วมงานต่อไปเพียงคนเดียวเท่านั้น โดยหลังจากที่พิธีการในงานดังกล่าวเสร็จสิ้นหนุ่ม ''นาวิน ต้าร์'' ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ''พลอย'' ขอตัวกลับก่อน เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้าว่าจะมีนักข่าวมาร่วมงานเยอะขนาดนี้

    ''คือ ''พลอย'' เขากลับไปก่อนนะครับ จริงๆ แล้วมันเกิดจากการสื่อสารที่ผิดพลาด ก็เลยทำให้ ''พลอย'' ตัดสินใจกลับไปก่อน ซึ่งสาเหตุมาจากการที่เขาคิดว่าเป็นงานภายใน ไม่มีสื่อมวลชน ไม่ได้เชิญสื่อมาเยอะขนาดนี้ แต่พอมาถึงพี่ๆ นักข่าวเยอะมากเลย ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีการแจ้งกับ ''พลอย'' ไว้ เขาก็เลยคิดว่าไม่อยู่ดีกว่า ซึ่งส่วนตัวผมก็ไม่สามารถไปห้ามอะไรเขาได้ เพราะ ''พลอย'' เขาก็ทำงานของเขา ผมก็เลยต้องเคารพการตัดสินใจของเขา ซึ่งก่อนกลับเขาก็บอกกับผมว่า ''เขาอยู่ไม่ได้นะ เขาคงต้องกลับก่อน'' ผมเองยังทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป สำหรับการติดต่อรับงาน ตัวผมได้รับการติดต่อมาว่าจะต้องมาร่วมงานนี้กับ ''พลอย'' ผ่านทางผู้จัดการของผม ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่า ''พลอย'' จะไม่รู้ ผมเองก็รู้ว่ามี แต่ไม่ทราบว่าเขาไม่รู้มาก่อน จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียส เพราะทาง ''พลอย'' เขาก็ไม่ได้มีอะไร ส่วนทางลูกค้าเองก็มีความเข้าใจว่าเป็นการสื่อสารผิดพลาด''

    เหตุผลที่ ''พลอย'' ไม่อยู่ร่วมงานต่อ เป็นเพราะการตกลงที่ผิดพลาดเรื่องเงินหรือเปล่า เพราะปกติเวลาดาราออกงานอีเวนต์คนเดียวก็จะราคานึง แต่หากเป็นงานคู่ก็จะต้องอีกราคานึงที่มีมูลค่ามากขึ้น กับเรื่องนี้ดาราหนุ่ม กล่าวว่า ตนคงตอบอะไรไม่ได้ในเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่แรกตนก็ทราบงานในเฉพาะส่วนตนเองเท่านั้น

    ''อันนี้ผมคงตอบอะไรไม่ได้ เพราะตัวผมเองก็คงได้ทราบในส่วนของผม เพราะตั้งแต่แรกผมก็แค่ทราบในส่วนของผม สำหรับตัว ''ต้าร์'' เองก็ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับค่าตัว พี่เขาก็เข้าใจครับ ซึ่งก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะเท่าที่ได้คุยกับลูกค้าเขาก็เข้าใจดีว่าอาจจะมีการสื่อสารผิดพลาดนิดนึง''

    เมื่อถามว่านักแสดงหนุ่มรู้สึกตกใจหรือเปล่าที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น กับเรื่องนี้ ''นาวิน ต้าร์'' กล่าวว่า ไม่ได้ตกใจเรื่อง ''พลอย'' กลับก่อน แต่ตกใจที่วันนี้นักข่าวมากันเยอะมากกว่า

    ''ตกใจตอนจะออกจากลิฟต์มาแล้วมีพี่ๆ นักข่าวเดินเข้ามาถ่ายรูป ผมก็ปั้นหน้าไม่ถูก แต่ว่าคงไม่มีอะไรจริงๆ ก็ต้องไปต่อ เพราะพวกเราก็รู้ว่ามัน ''The show must go on'' (ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป) กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยากจะยืนยันอีกครั้งว่า ไม่ได้เป็นเรื่องที่ซีเรียส กับลูกค้าคุยกันเข้าใจเรียบร้อยแล้ว งานก็ออกมาอย่างที่เราต้องการ''

    จากการสังเกตเหตุการณ์ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเดินทางกลับ ดาราสาวมีทีท่าไม่สบอารมณ์มากกับการมาร่วมงานในวันนี้ ซึ่งภาพที่ออกมาอาจจะถูกมองในแง่ลบว่ามีปัญหากับงานอีเวนต์เยอะหรือเปล่า ในเรื่องนี้ดาราสาว กล่าวว่า ดาราสาวไม่ได้มีทีท่าไม่สบอารมณ์แต่อย่างใด ซึ่งตนคิดว่าสีหน้าที่ทุกคนเห็นเป็นความแปลกใจมากกว่า เผยไม่หวั่นกระทบงานอีเวนต์ชิ้นอื่น โดยยืนยันว่า นี่คือสไตล์การทำงานของตนและ ''พลอย''

    ''ไม่ครับ ผมคิดว่าเขาคงแปลกใจที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดมากกว่า น่าจะเป็นอย่างนั้น กับเรื่องนี้จะทำให้ ''พลอย'' ถูกมองในภาพลบอีกหรือเปล่า ผมว่าเรื่องนี้ไม่เลยครับ ผมว่านี่คือลักษณะของการทำงานที่เป็นปกติอยู่แล้ว ก็คือต้องคุยต้องสื่อสารกันให้ถูกต้อง เขาก็พยามทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่วนเรื่องกระทบกับงานอีเวนต์อื่นๆ นั้นก็ไม่กลัวครับ ตอบจริงๆ ว่า ไม่กลัว ผมเองก็ยืนยันตรงนี้ครับ ว่านี่คือการทำงานของพวกเรา และคิดว่าทุกคนคงเข้าใจอยู่แล้วว่าแบบไหนอย่างไร ปัญหามันไม่ใช่ว่าตกลงกันไม่เข้าใจ แต่อาจจะเป็นการสื่อสารผิดนิดนึง จริงๆ ไม่ต้องห่วงหรือกังวลว่าคนอื่นจะมองมีปัญหาหรือเปล่า คิดว่าไม่มีแน่นอน

    ด้าน ''พอล'' ภัทรพล ศิลปาจารย์ ในฐานะเจ้าของงานวันนี้ได้กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด แถมยังยืนยันว่า จะจ่ายค่าตัวเต็มจำนวนให้กับดาราสาวอีกด้วย

    ''ผมไม่ได้คิดว่าเป็นเหตุการณ์ด้วยซ้ำไปครับ เพราะเห็นว่าทุกอย่างก็ออกมาเรียบร้อยดี จริงๆ ผมว่าเป็นแค่การสื่อสารที่ผิดพลาดมากกว่า ต้องบอกว่า ''พลอย'' เองก็เคยมาร่วมงานกับเราหลายครั้ง รวมไปถึงศิลปินท่านอื่นมากมายไม่ว่าจะเป็น ''อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ, ''ลีเดีย'' ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา หรือใครอีกหลายคน ทุกอย่างก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อยเสมอ และวันนี้ก็เช่นกันครับ ส่วนตัวผมไม่ได้ไม่พอใจอะไรครับ ผมคิดว่าเราอย่าไปตีความมากดีกว่าครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมเองก็เคยทำงานในวงการนี้เหมือนกัน ผมเข้าใจว่าบางทีมีเหตุการณ์ แต่อาจจะไม่มีอะไรจริงๆ ก็ได้ หรืออย่างส่วนตัวผม เคยไปทำงานพิธีกรที่อุบลราชธานี แต่ว่าผมมีอาการอาหารเป็นพิษ เจ้าของงานเขาก็ถามว่าเราหายไปไหน เขาก็มีอารมณ์เหมือนกัน แต่เมื่อเขาทราบว่าเราอยู่โรงพยาบาล เขาก็มาขอโทษทีหลัง ผมว่าอย่าไปคิดอะไรมาก เพราะผมมั่นใจว่า ทุกอย่างมันออกมาเรียบร้อยดี และเราร่วมงานกับ ''พลอย'' มาบ่อยครั้งเราก็แฮปปี้ทุกครั้ง ซึ่งก็ไม่มีอะไรที่เราจะต้องไม่เข้าใจ เพราะทุกอย่างมันก็ออกมาดี ดังนั้นเราก็ไม่เห็นจะต้องคิดอะไร และคงไม่ต้องเคลียร์อะไรกันด้วยครับ เพราะไม่รู้ว่าจะถามไปทำไมด้วย เนื่องจากเราก็ไม่ได้ผิดใจกันอยู่แล้ว ซึ่งเพราะถ้าผิดใจกันอาจจะต้องเคลียร์ แต่ไม่ได้มีเรื่องราวแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโทร.ทำไม คิดว่างานหน้าเราก็เชิญอีกแน่นอน ซึ่งค่าตัวในงานวันนี้ก็ตามเดิมแหละครับ เท่าไหร่ก็เท่านั้น ผมคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตขนาดนั้น เราเน้นความสบายใจของทั้งสองฝ่าย คือถ้าลูกค้าเราแฮปปี้เราก็โอเคแล้ว ผมคิดว่าต่อให้ไม่มี 2 ท่านนี้เราก็ต้องจ่ายให้กับใครบางคนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เราก็ให้แก่คนที่เราตั้งใจจะให้แล้วดีกว่า ทุกครั้งที่เราทำงานมันก็ต้องมีข้อผิดพลาดอยู่แล้ว แต่เมื่อผิดพลาดเราก็ต้องเรียนรู้ที่จะมีอะไรที่เราปรับปรุงให้ดีขึ้นได้''
    

    อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังได้ถามว่า หากหลายคนจะมองว่าเป็นการสร้างกระแสให้กับงานหรือเปล่า เกี่ยวกับเรื่องนี้หนุ่ม ''พอล'' กล่าวว่า ก็แล้วแต่จะคิด เพราะตนคงไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้เช่นกัน''ก็แล้วแต่คนจะคิด เพราะเราก็ไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่เป็นกระแสก็ไม่เลวนะ (หัวเราะ) ผมว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมากเลย ดังนั้นอย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตเลยครับ''