เหล่านักเตะในแนวรับของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวัง โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือคนเก่ง เลิกใช้ระบบแผงหลัง 3 คนแล้วกลับมายึดรูปแบบแบ็กโฟร์ต่อไปในเกมที่จะพบกับ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ในวันเสาร์นี้ หลังจากการเปลี่ยนแปลงระบบดังกล่าวทำให้พวกเขาสับสันจนต้องปราชัยต่อ อาแจ็กซ์ ในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

บรรดาแข้งแนวรับของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลก่อน เตรียมพูดคุยกับ โรแบร์โต้ มันชินี่ ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน สำหรับการเปลี่ยนระแบบแนวรับ ที่ใช้เพียงแค่ 3 คนในเกมบุกแพ้ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยักษ์ใหญ่ลีกฮอลแลนด์ 3-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม วันพุธที่ผ่านมา ให้กลับมาเป็นแผงแบ็กโฟร์ตามเดิมสำหรับเกมที่จะเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ สวอนซี ซิตี้ ในวันเสาร์ที่ 27 ต.ค. นี้
 
 กองหลังของ ซิตี้ อย่าง โจลีออน เลสค็อตต์ และ กาแอล กลิชี่ ดูสับสนเรื่องการยืนตำแหน่งในเกมดังกล่าว หลังจาก มันชินี่ เปรับมาใช้ระบบปราการหลังตัวกลาง 3 คน โดย ไมกาห์ ริชาร์ดส์ แบ็กขวาตัวแกร่งที่ถูกขยับตำแหน่งมาอยู่ตรงกลาง ชี้ว่าพวกเขาเล่นกันได้เหมือนไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนเลย โดยเชื่อกันว่าพวกเขาน่าจะอยากให้ กุนซือวัย 47 ปี กลับมาใช้แผงหลังแบบแบ็กโฟร์อีกครั้ง
 
นอกจากนี้ แกเร็ธ แบร์รี่ กองกลางทีมชาติอังกฤษ ยังยอมรับว่าขุนพล "เรือใบสีฟ้า" จะต้องมีความเฉียบคมมากกว่านี้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จในฟุตบอลยุโรป "พวกเขาครองบอลได้ตลอดในครึ่งแรก และเราฉวยโอกาสใช้เกมโต้กลับและยิงประตูขึ้นนำได้สำเร็จ หลังจากจังหวะนั้น เราน่าจะตั้งเกมกันได้และคว้าชัยชนะได้ที่สุด"
 
"เรามีโอกาสมากมายที่จะขึ้นนำ 2-0 แต่ก็ทำไม่ได้ แล้วพวกเขาก็มาได้ประตูในช่วงเวที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงท้ายครึ่งแรก มันเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเลย เราเริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีแต่พวกเขามาได้ประตูจากลูกตั้งเตะ มันทำให้ความมั่นใจของเราลดลงไปเลย แต่โดยรวมแล้ว เราบ่นอะไรมากไม่ได้เพราะเราเป็นฝ่ายแพ้ให้กับทีมที่ครองเกมได้มากกว่า" ดาวเตะวัย 31 ปี กล่าวทิ้งท้าย