ดีเอโก้ มิลิโต้ หัวหอกจอมเก๋า อินเตอร์ มิลาน ประกาศชัด ทีมของตนสมควรได้เฮแล้ว หลังเล่นได้อย่างกล้าหาญชาญชัยในเกมบุกสอย ยูเวนตุส 3-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมหวังเห็นทีมรักษาฟอร์มเก่งแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

ดีเอโก้ มิลิโต้ กองหน้าคนเก่งของ อินเตอร์ มิลาน ยืนยันว่า ต้นสังกัดของตนสมควรบุกไปคว้าชัยเหนือ ยูเวนตุส ด้วยสกอร์ 3-1 ถึงถิ่น ยูเวนตุส สเตเดี้ยม ในเกม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาแล้ว เนื่องจากทัพ "เนรัซซูรี่" เล่นได้อย่างกล้าหาญสุดๆ แม้การตัดสินของกรรมการบางจังหวะไม่ค่อยเป็นใจก็ตาม

เกมนี้เจ้าถิ่นขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่เมื่อ ควัดโว่ อซาโมอาห์ ผ่านบอลมาให้ อาร์ตูโร่ วิดัล สังหารเข้าไปไม่เหลือในนาทีที่ 1 ซึ่งที่จริงแล้ว อซาโมอาห์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าในตอนที่รับบอลมาจาก มีร์โก วูชินิช แต่ทาง มิลิโต้ ก็มาเอาคืนด้วยการซัดทีเดียว 2 ประตู จากลูกจุดโทษในนาทีที่ 59 และลูกยิงซ้ำในนาทีที่ 76 ทำให้ทีมเยือนแซงนำเป็น 2-1 ก่อนที่ "เนรัซซูรี่" จะมาได้ประตูย้ำชัยจาก โรดริโก้ ปาลาซิโอ ในนาทีที่ 89 ส่งผลให้ ยูเวนตุส ต้องจบสถิติไม่แพ้ใครในลีกติดต่อกันเอาไว้ที่ 49 นัด

มิลิโต้ เผยว่า "มันเป็นเกมที่ยากมาก ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่า มันจะเป็นอย่างนั้น แต่เราก็เอาชนะมาได้ เรายังมึนๆ กันอยู่ตอนที่พวกเขาทำประตูได้ มันเป็นการเล่นงานเราในตอนที่เรายังไม่ทันตั้งตัว ถึงแม้จริงๆ แล้วนั่นจะเป็นจังหวะล้ำหน้าก็ตาม แต่ท้ายที่สุดเราก็สมควรเป็นฝ่ายชนะในวันนี้แล้วล่ะ ตอนนี้เราจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป และพยายามเล่นแบบนี้ให้ได้เรื่อยๆ รวมถึงคว้าชัยชนะให้ได้ต่อเนื่องจนถึงท้ายที่สุด"

"เรารู้สึกยังไงตอนที่พักครึ่งน่ะเหรอ ? ก็รู้สึกหงุดหงิดมากๆ กับประตูที่พวกเขาได้จากลูกล้ำหน้า และจากการที่ (สเตฟาน) ลิคท์สไตเนอร์ ไม่โดนไล่ออกน่ะสิ แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญที่ยอดเยี่ยม และเราก็ได้รับรางวัลตอบแทนสำหรับเรื่องนั้นในท้ายที่สุด" หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์วัย 33 ปี ระบุ โดยชัยชนะครั้งนี้ทำให้ อินเตอร์ รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไปอย่างเหนียวแน่น พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 27 แต้ม จากการลงเล่น 11 นัด ตามหลัง ยูเวนตุส เหลือเพียงแค่แต้มเดียวแล้ว