ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2555

เชลซี    -    ลิเวอร์พูล

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เชลซี รองจ่าฝูงของกุนซือ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เกมลีกล่าสุดบุกเสมอ สวอนซี 1-1 ส่วนเกมยุโรปกลางสัปดาห์ เปิดบ้านเฉือนชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค 3-2 ได้ประตูชัยช่วงทดเจ็บจาก วิคเตอร์ โมเซส

        สภาพทีมมีข่าวดี เมื่อได้ จอห์น เทอร์รี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีม พ้นโทษแบน 4 นัดกลับมาช่วยทีมแล้ว ส่วน ฆวน มาต้า กับ ดาวิด ลุยซ์ ก็ฟิตลงเล่นในเกมยุโรปไม่มีปัญหา พร้อมช่วยทีมต่อเนื่อง

        อย่างไรก็ตาม ดิ มัตเตโอ ยังขาดสองตัวเก๋า แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางที่เจ็บน่อง กับ แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายที่เจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ไม่มีชื่อในเกมกับ ชัคตาร์ คาดว่าต้องให้ ไรอัน เบอร์ทรานด์ ยืนแบ็กซ้ายต่อ

        การจัดทัพ ดาวิด ลุยซ์ หรือ แกรี่ เคฮิลล์ คนใดคนหนึ่งต้องหลุดเป็นสำรองเพื่อเปิดทางให้ จอห์น เทอร์รี่ คัมแบ็ก ขณะที่แนวรุก วิคเตอร์ โมเสส ที่ยิงต่อเนื่องใน 2 เกมหลัง อาจได้ลงตัวจริง

        ระบบการเล่น 4-2-3-1 ปีเตอร์ เช็ก เฝ้าเสา แผงหลัง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบอร์ทรานด์ คู่กลาง จอห์น โอบี มิเกล กับ รามิเรส แนวรุก วิคเตอร์ โมเซส, ออสการ์, ฆวน มาต้า หน้าเป้า เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ทางฝั่ง หงส์แดง ของกุนซือ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ตัดสินใจพักตัวหลักแบบยกชุดเอาไว้ในเกมยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่บุกไปแพ้ อันจิ มาคัชคาล่า ที่รัสเซีย 0-1 โดยผลงานของทีมชุดสองก็ถือว่าไม่เลว

        ข่าวดีคือ เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวาตัวหลัก หายเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ากลับมาแล้ว ขณะที่ โฆเซ่ เรน่า ประตูมือ 1 อยู่ในช่วงเร่งเรียกความฟิตจากปัญหาบาดเจ็บเดียวกัน ยังไม่ปิดโอกาสกลับมาเฝ้าเสา

        ส่วนพวกที่บาดเจ็บพักยาวอยู่เวลานี้ยังมี ลูคัส เลวา กองกลางบราซิล, มาร์ติน เคลลี่ แบ็กดาวรุ่ง และ ฟาบิโอ บอรินี่ กองหน้าอิตาเลียน ไม่พร้อมช่วยทีมอีกนาน

        ตัวหลักทั้ง 11 ตำแหน่งจะกลับคืนทีมทั้งหมด เริ่มจากประตู แบร๊ด โจนส์ หรือ โฆเซ่ เรน่า ลงเฝ้าเสา แผงหลัง เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ แดนกลาง สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, นูริ ซาฮิน และแดนหน้า ซูโซ่, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, จอห์น เทอร์รี่, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - จอห์น โอบี มิเกล, รามิเรส - วิคเตอร์ โมเซส, ออสการ์, ฆวน มาต้า - เฟร์นานโด ตอร์เรส

        ลิเวอร์พูล : แบร๊ด โจนส์ (โฆเซ่ เรน่า) - เกล็น จอห์นสัน, มาร์ติน สเคอร์เทล, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้ - สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, นูริ ซาฮิน - ซูโซ่, ราฮีม สเตอร์ลิง, หลุยส์ ซัวเรซ

        ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เว็บบ์

หงส์แกร่ง! อัดสิงห์ในลีกมา 4 นัดติด

        นี่คือเกมที่ เชลซี เจอกับ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา โดยฤดูกาลที่แล้ว ทั้งสองทีมต้องโคจรมาพบกันถึง 4 นัด ทั้งพรีเมียร์ลีก 2 นัด, เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ ด้วย

        หงส์แดง เป็นฝ่ายที่มีผลงานเหนือกว่า เอาชนะในลีกได้ทั้งเหย้าและเยือน และบุกชนะในลีกคัพได้ด้วย มีเพียง เอฟเอ คัพ ที่แพ้ในรอบชิงชนะเลิศที่ เวมบลีย์

        ในเกมพรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลหลัง ลิเวอร์พูล เอาชนะรวดทั้ง 4 นัด เริ่มจากซีซั่น 2010-11 หงส์แดง เปิดบ้านชนะ 2-0 ก่อนบุกชนะอีก 1-0 ส่วนซีซั่นที่แล้ว 2011-12 หงส์แดง บุกชนะก่อน 2-1 และกลับมาถล่มในบ้านถึง 4-1

ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
เชลซี    -    ลิเวอร์พูล
ผลงานการพบกันที่เชลซี (80 นัด)
- เชลซีชนะ 43 ลิเวอร์พูลชนะ 20 เสมอ 17

ประตู :
- เชลซี 140 ประตู เฉลี่ย 1.75 ประตูต่อเกม
- ลิเวอร์พูล 83 ประตู เฉลี่ย 1.04 ประตูต่อเกม

- ตอนเล่นให้ลิเวอร์พูล เฟร์นานโด ตอร์เรส ยิงได้ 5 ประตูจาก 4 นัดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับเชลซี ขณะที่ตอนเช่นให้เชลซีพบกับลิเวอร์พูล 3 นัด หัวหอกทีมชาติสเปนยังยิงหงส์แดงไม่ได้เลย
- ตอร์เรสลงเล่นนัดแรกให้เชลซีพบกับลิเวอร์พูล หลังจากย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 50 ล้านปอนด์ แต่ว่าแพ้ทั้ง 3 นัดที่เขาลงเล่นทั้งในพรีเมียร์ลีกเหย้า-เยือนและลีก คัพ
- ลิเวอร์พูลแพ้แค่ 2 จาก 11 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับเชลซี (ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 2) และชนะ 4 นัดหลังสุดติดต่อกัน
- ลิเวอร์พูลชนะ 3 แพ้ 1 จาก 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่ไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์
- เชลซีเสียประตูติดต่อกัน 5 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก เป็นผลงานแย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา และจาก 2 นัดเหย้าหลังสุดพวกเขาเสียประตูก่อนในเดอะ บริดจ์
- ลิเวอร์พูลเป็นเพียงทีมเดียวที่ยังไม่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย
- ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่เล่นวันอาทิตย์ในพรีเมียร์ลีกมากที่สุด (187 นัด ชนะ 87)
- แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 499 นัด (เวสต์แฮมและเชลซี)
- หลุยส์ ซัวเรซ มีค่าเฉลี่ยเปลี่ยนโอกาสยิงให้เป็นประตูได้ 14 เปอร์เซนต์ในฤดูกาลนี้ เทียบกับฤดูกาลก่อน 10 เปอร์เซนต์ 2011-12  และ 9 เปอร์เซนต์ฤดูกาล 2010-11
- ซัวเรซ มีส่วนร่วม 82 เปอร์เซนต์จากประตูที่ลิเวอร์พูลทำได้ในฤดูกาลนี้ มีเพียงแค่ สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ (100 เปอร์เซนต์) เท่านั้นที่ทำได้ดีกว่า

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านเชลซี)
เชลซี แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2
ผู้ทำประตู : 0-1 มักซี่ โรดริเกซ น.33, 1-1 ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ น.55, 1-2 เกล็น จอห์นสัน น.87
20 พ.ย.2011 : ผู้ตัดสิน : ลี โปรเบิร์ต

โปรแกรมฟตุบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
20.00 น. แมนฯ ซิตี้ - สเปอร์ส
22.00 น. นิวคาสเซิ่ล - เวสต์แฮม
23.00 น. เชลซี - ลิเวอร์พูล