3 ปี 6 โทรฟี่! 'ทัพเซราะกราว' กระหึ่มวงการลูกหนังเมืองไทย
Posted 15/11/2012 by buriramunited.co.th
หากจะเอ่ยถึงสโมสรฟุตบอลในเมืองไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คงไม่มีใครปฎิเสธผลงานของ "นักรบปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือว่าเป็นคลับลูกหนังที่สร้างความยิ่งใหญ่ให้กับตัวเองได้มากที่สุด รวดเร็วที่สุด และน่าทึ่งมากที่สุด
การคว้าถ้วยเกียรติยศมาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้ถึง 6 ใบ ในช่วงระยะเวลาเพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้น จากการคว้าทริปเบิ้ลแชมป์ เมื่อปี 2011 และ แชมป์ฟุตบอลโตโยต้า พรีเมียร์คัพ ด้วยการโค่น ยอดทีมจากเจ-ลีก ของญี่ปุ่น "เวลกัลตะ เซนได" ก่อนที่ ฤดูกาล 2012 ทัพเซราะกราว” จะมาคว้าดับเบิ้ลแชมป์ฟุตบอลถ้วยได้อย่างยิ่งใหญ่
"นักรบปราสาทสายฟ้า" คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 อย่างยิ่งใหญ่
แม้ผลงานในศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2012 จะพลาดเป้าไป แต่กับ 2 แชมป์ฟุตบอลถ้วยที่บุรีรัมย์รักษาไว้ได้ ถือเป็นถ้วยแชมป์ใบที่ 5 และ 6 ในตู้โชว์ของสโมสร นับจากเปลี่ยนชื่อเป็น “บุรีรัมย์ พีอีเอ” จนถึง “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” แค่เพียง 3 ฤดูกาลเท่านั้น
ความสำเร็จของ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" กับ 6 แชมป์ ที่โลดเล่นอยู่ในวงการลูกหนังเมืองไทย แค่ 3 ปี นับเป็นคำตอบในสิ่งที่ "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสร เคยประกาศไว้ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่วงการลูกหนัง ว่า "จะส้รางทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ให้ครองความยิ่งใหญ่ในการแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศภายใน 3 ปี และใน 5 ปี จะต้องเป็นทีมระดับหัวแถวของเอเชีย"
"แข้งเซราะกราว" ฉลองแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2011
3 ปี กับ 6 ถ้วยแชมป์ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะทำได้ แต่ “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ภายใต้การบริหารของ 'เนวิน ชิดชอบ' ทำได้ โดยเฉพาะการคว้า "ทริปเบิ้ลแชมป์" อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อฤดูกาล 2011 ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในวงการลูกหนังเมืองไทย "บุรีรัมย์" เป็นทีมฟุตบอลสโมสรแรกที่ทำได้ถึง 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ทั้ง ไทยพรีเมียร์ลีก, มูลนิธิ ไทยคม เอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ
"โตโยต้า ลีกคัพ 2011" คือ ถ้วยแชมป์อีกใบที่บุรีรัมย์คว้ามาครองเมื่อปี 2011
ขณะที่การสร้างชื่อ ในการลงเล่นถ้วยเอเชียใบใหญ่ อย่าง เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก "แชมป์เซราะกราว" ในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย ได้พิสูจน์ให้วงการฟุตบอลเอเชียรู้จักแล้วว่าจะประมาท "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ไม่ได้อีกต่อไป
ผลงานในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก 2012 รอบแบ่งกลุ่ม กับชัยชนะ 2 เกมรวด เหนือ "คาชิว่า เรย์โซล" แชมป์เจ-ลีก ของญี่ปุ่น ที่ไอ-โมบาย สเตเดี้ยม 3-2 ก่อนบุกไปถอดเกร็ด แชมป์ลีกจากแดนมังกรอย่าง "กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์" 2-1 ทำสื่อกีฬาทั่วโลกต้องพูดถึง “แชมป์เซราะกราว" ของเรามาแล้ว
"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" คว้าแชมป์ โตโยต้า พรีเมียร์คัพ ประเดิมปี 2012
ทว่าด้วยประสบการณ์ในเกมระดับเอเชียยังน้อย ทำให้ต้องพลาดตกรอบในท้ายที่สุด แต่ผลงานทุกนัดที่ลงสนามถือว่าสุดยอด...โดยเฉพาะผู้เล่นคนที่ 12 ของกองทัพเซราะกราว ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทั้งเกมในบ้าน และนอกบ้าน ชนิดที่บอกได้คำเดียวว่า ยอดเยี่ยมสุดๆ
ในฤดูกาล 2013 "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ยังคงได้โควตาในฐานะแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ กลับไปลุยศึกฟุตบอลถ้วยเอเชียอีกครั้ง แม้จะต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมในรอบเพลย์ออฟก็ตาม
"บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" รักษาถ้วยแชมป์มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ 2012 ไว้ได้อีกสมัย
นับจากนี้ไป สำหรับชาวเซราะกราว คงต้องรวมพลังกันอีกครั้ง ในการกลับมาไล่ล่าทุกถ้วยแชมป์ฤดูกาล 2013 โดยเฉพาะถ้วยไทยพรีเมียร์ลีก ที่เราจะต้องเอากลับคืนมาประดับตู้โชว์ที่ไอ-โมบาย สเตเดี้ยมให้ได้ ส่วน มูลนิธิ ไทยคม เอเอฟคัพ กับ โตโยต้า ลีก คัพ เรามีโอกาสที่จะเป็นสโมสรแรกที่คว้าแชมป์ 3 ปีติดต่อกัน
เช่นเดียวกับเป้าหมายในการก้าวไปเป็นทีมชั้นนำของเอเชีย ซึ่งเป็นภาระกิจที่สำคัญ ไม่แน่ว่า....ในปีหน้า “แชมป์เซราะกราว” ของเราอาจจะเนรมิตตัวเอง ให้กลายเป็นทีมหัวแถวของเอเชีย ดั่งคำที่ท่านประธานสโมสร "เนวิน ชิดชอบ" ได้ประกาศเอาไว้ก็เป็นได้
"แชมป์เซราะกราว" ปิดฉากซีซั่น 2012 ด้วยการฉลองแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์