สนาม:จูเซปเป้ เมซซ่า


         เกม ที่รังงูใหญ่ อินเตอร์ พบ กายารี่ เจ้าถิ่นของ อันเดรีย สตรามัชโชนี่ เสีย เฟรดี้ กัวริน เจ็บไป ทำให้ วอลเตอร์ การ์กาโน่ ได้ลงตัวจริง ส่วนสามหัวหอกยังอยู่กันครบทั้ง โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ดีเอโก้ มิลิโต้ และ อันโตนิโอ คาสซาโน่


         ฟากทีมเยือนมาแบบพร้อมเต็มสูบ และปรับเกมรุกเล็กๆ ส่ง เนเน่ ลงล่าตาข่ายคู่ มาร์โก ซาอู


         เปิด มานาทีแรก อินเตอร์ สร้างโอกาสจบได้ทันทีจากเตะมุม บอลมาที่ ดีเอโก้ มิลิโต้ ซัดด้วยซ้ายข้ามคานไป จากนั้นนาทีที่ 7 จากลูกฟรีคิกเปิดเข้าใน ฮวน เฮซุส โถมเข้าโหม่งหลุดกรอบไปนิดเดียว


         นาทีเดียวให้ หลัง กายารี่ โต้ขึ้นไปได้จบบ้าง ดานิโล่ อแวลาร์ เปิดเข้าหัว เนเน่ ขวิดเข้าหาประตู ติดเซฟ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช จอมหนึบงูใหญ่


         แล้ว เพียง 10 นาทีเท่านั้น อินเตอร์ ก็สอยตาข่ายออกนำสำเร็จ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ครองบอลทางกราบซ้ายของสนาม ก่อนหักมาเปิดขึ้นหน้าด้วยขวา โรดริโก้ ปาลาซิโอ โผไปที่จุดนัดพบขวิดเต็มหัวผ่านมือ ไมเคิ่ล อากัซซี่ ตุงตาข่าย 1-0 ของทีมงูใหญ่


         เกมสนุกทีเดียวเมื่อทั้งสองฝ่ายเดิน หน้าเข้าใส่กัน นาที 18 รัดย่า เนียงโกลัน ลองตะบันจาก 30 หลา ลูกเฉี่ยวเสาได้ลุ้น และนาที 24 เนียงโกลัน รับบอลจากเพื่อนก่อนสับด้วยขวาในเขตโทษ เข้ามือ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช


         นาที 33 กายารี่ น่าตีเสมอได้ ดานิโล่ อแวลาร์ สาดจากสุดเส้นหลังซ้ายมาที่เสาไกล เนเน่ โถมเข้าโหม่งเต็มๆ บอลจะลอยเข้า แต่ติดมือ ฮันดาโนวิช หวุดหวิด


         เล่นถึงนาที 37 กายารี่ ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ เนเน่ บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว เป็นโอกาสของ เมาริซิโอ ปินิย่า ลงไปแทน


          และเล่นกันต่ออีกแวบเดียว กายารี่ ก็ฮึดตามตีเสมอได้เลย อันเดรีย คอสซู ตวัดเปิดจากซ้ายเข้าไปตรงกลาง มาร์โก ซาอู สอดทะลุแนวรับอินเตอร์ไปล้มซัดบอลต่อไม่จับ ลูกเข้าประตูไปโดยที่ ฮันดาโนวิช ไม่ทันขยับ กายารี่ ตีเสมอ 1-1 ในนาที 43 ก่อนที่จากนั้นครึ่งแรกจะจบไปด้วยสกอร์นี้


         ลงไปต่อ ครึ่งหลัง สตรามัชโชนี่ ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวแก้เกม นาที 54 ดีเอโก้ มิลิโต้ พลาดประตูอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อสบโอกาสโผเข้าชาร์จโล่งๆ ในกรอบหกหลา ทว่าทำพลาดงัดโด่งออกไปเอง และอีก 5 นาทีให้หลัง ยูโตะ นางาโตโมะ เปิดให้ มิลิโต้ ตวัดยิงในเขตโทษ คราวนี้เข้ามือ ไมเคิ่ล อากัซซี่ 


          และเล่นถึงนาที 66 ก็กลับเป็น กายารี่ ที่พลิกขึ้นนำ 2-1 เมาริซิโอ ปินิย่า ได้ยิงไปชนเสา และบอลไม่ไปไหน มาร์โก ซาอู ตามซ้ำง่ายๆ เข้าไป ให้ทีมเยือนพลิกนำเฉย


          อินเตอร์ ต้องเดินเครื่องเต็มกำลังในสิบกว่านาทีท้าย และต้องทยอยเปลี่ยนสำรองลงไปทั้ง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ ริคาร์โด้ อัลวาเรซ


          แล้ว การเดินหน้าของ อินเตอร์ ก็เป็นผลสำเร็จจนได้ในนาที 82 จังหวะยัดบอลเข้าในเขตโทษของ ริคาร์โด้ อัลวาเรซ และ ดาวิเด้ อัสตอรี่ ทำพลาดล้มเสียบสกัดบอลเข้าประตูตัวเองอย่างเสียท่า เปลี่ยนสกอร์ให้ อินเตอร์ ตีเจ๊า 2-2


          ช่วงที่เหลือ อินเตอร์ ก็ยังคงบุกเข้าใส่ต่อเนื่องหวังจะแซงนำให้ได้ ทว่าก็ฉวยโอกาสไม่สำเร็จ สุดท้ายเวลาหมด เท่ากับเสมอกันไปที่ 2-2

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

 อินเตอร์: ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช; อันเดรีย ราน็อคเคีย, วอลเตอร์ ซามูเอล, ฮวน เฮซุส (ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ น.73); ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ, วอลเตอร์ การ์กาโน่, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่, ยูโตะ นางาโตโมะ; โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ดีเอโก้ มิลิโต้, อันโตนิโอ คาสซาโน่ (ริคาร์โด้ อัลวาเรซ น.82)

 กายารี่: ไมเคิ่ล อากัซซี่; ฟรานเชสโก้ ปิซาโน่, ลูก้า รอสเซ็ตตินี่, ดาวิเด้ อัสตอรี่, ดานิโล่ อแวลาร์; อัลบิน เอ็คดัล, ดานิเอเล่ คอนติ, รัดย่า เนียงโกลัน; อันเดรีย คอสซู (ดานิเอเล่ เดสเซน่า น.69); เนเน่ (เมาริซิโอ ปินิย่า น.37), มาร์โก ซาอู (วิกเตอร์ อิบาร์โบ น.74)

สนาม:อาร์เตมิโอ ฟรังคี่

         ฟิออ เรนติน่า ทีมจอมเซอร์ไพรส์ประจำฤดูกาลนี้ เปิด สตาดิโอ อาร์เตมิโอ ฟรังคี่ รอรับ อตาลันต้า เจ้าถิ่นขาดเพียง สเตฟาน โยเวติช ที่ยังคงไม่หายเจ็บ ทำให้ต้องส่ง อเล็ม ลายิช จับคู่ล่าข่ายกับ ลูก้า โทนี่ เหมือนเดิม ส่วนทีมเยือนไร้ ฟาคุนโด้ ปาร์ร่า และ เฟเดริโก้ เปลูโซ่ ที่ติดโทษแบน แต่ยังมีตัวทีเด็ดที่ มักซิมิเลียโน่ โมราเลซ กับ เกร์มัน เดนิส


         เริ่ม เกมเพียง 5 นาที "ม่วงมหากาฬ" ได้ประตูทันควัน จากจังหวะที่ มานูเอล ปาสกวาล เปิดฟรีคิกทางฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ บอลไปตกหน้า กอนซาโล่ โรดริเกซ ซัดเสียบใต้คานเข้าไปไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0


         ผู้มาเยือน ตอบโต้บ้าง ลูก้า ชิการินี่ โยนฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เดนิส จับหนึ่งจังหวะแล้วตวัดยิงแฉลบข้ามคานไปฉิวเฉียด


         อตา ลันต้า มาได้ลูกเตะมุม บอลมาตกใส่ โธมัส มานเฟรดินี่ และ กูเยลโม่ สเตนดาร์โด้ กระดอนไปตรงตัว เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ แบบหวาดเสียว


         ลูก ทีมของ สเตฟาโน่ โคลันตูโอโน่ ตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ในนาทีที่ 32 เดนิส ยิงติดบล็อก บอลยังลอยโด่งในเขตโทษ คาร์ลอส คาร์โมน่า เก็บตกไปเข้าทาง จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ


         อย่างไรก็ตาม 10 นาทีต่อมา เจ้าบ้านมาแซงนำอีกครั้งเป็น 2-1 เมื่อมาได้ฟรีคิกระยะประมาณ 20 หลา และเป็น อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ ที่ปั่นด้วยขวา บอลพุ่งโค้งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม


         สถานการณ์ของทีม เยือนย่ำแย่กันไปใหญ่ เมื่อต้องมาเหลือ 10 คนในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก หลัง ชิการินี่ ไปเสียบใส่ ฮวน กวาดราโด้ ในจังหวะที่กำลังจะหลุดเข้าไปทำประตู ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ พร้อมชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที จากลูกฟรีคิก ปาสกวาล ยิงไปติดเซฟ อันเดรีย คอนซิญี่ พุ่งปัดออกหลัง และจากลูกเตะมุม บอร์ฆา บาเลโร่ เปิดไปเสาสองให้ อาควิลานี่ ชาร์จไม่พลาด พร้อมเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของเจ้าตัวด้วย จบ 45 นาทีแรก ฟิออฯ ออกนำ 3-1


         ครึ่งหลัง โคลันตูโอโน่ ต้องแก้เกมด้วยการถอด โมราเลซ ออก พร้อมส่ง ดาวิเด้ บิออนดินี่ ลงแทน


         เปิด ฉากได้ 4 นาที สกอร์ไหลเป็น 4-1 คราวนี้ อาควิลานี่ ครอสจากริมเส้นฝั่งขวาให้ โทนี่ เทกตัวโหม่งบอลเสียบตาข่ายอย่างงดงาม หมดสิทธิ์สำหรับ คอนซิญี่


         เกมเป็นของ "วิโอล่า" แล้ว มูเนีย เอล ฮัมดาอุย ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ได้ซัดด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคานไปไม่มาก


         ผ่าน มาถึงนาทีที่ 78 บิออนดินี่ มีอาการบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว และ อตาลันต้า เปลี่ยนตัวครบเรียบร้อย ทำให้ต้องเล่นเพียง 9 คนเท่านั้น


         ช่วง เวลาที่เหลือเจ้าถิ่นยังเดินเกมต่อเนื่อง แต่ไม่เน้นแล้ว ขณะที่ผู้มาเยือนก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก จบเกม ฟิออฯ ทุบเอาชนะ อตาลันต้า สบาย 4-1 เก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมขึ้นรั้งอันดับ 3 ร่วมกับ นาโปลี เรียบร้อย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ฟิออเรนติน่า : เอมิเลียโน่ วิเวียโน่; ฟาคุนโด้ รอนคาญ่า (อาเหม็ด เฮกาซี่ น.77), กอนซาโล่ โรดริเกซ, สเตฟาน ซาวิช; ฮวน กวาดราโด้, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ (มาติอัส แฟร์นานเดซ น.69), ดาวิด ปิซาร์โร่, บอร์ฆา บาเลโร่, มานูเอล ปาสกวาล; อเด็ม ลายิช, ลูก้า โทนี่ (มูเนียร์ เอล ฮัมดาอุย น.57)

อตาลันต้า : อันเดรีย คอนซิญี่; คริสเตียน ไรมอนดิ, กูเยลโม่ สเตนดาร์โด้, โธมัส มานเฟรดินี่, ดาวิเด้ บริวิโอ; เอเซเกล สเคล็อตโต้, ลูก้า ชิการินี่, คาร์ลอส คาร์โมน่า (ริคคาร์โด้ คัซโซล่า น.53), จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า (กุยโด้ มาริลุนโก้ น.73); มักซิมิเลียโน่ โมราเลซ (ดาวิเด้ บิออนดินี่ น.46); เกร์มัน เดนิส