รุด กุลลิท อดีตกุนซือ เชลซี รับงงเป็นไก่ตาแตกเลย เมื่อได้รู้ข่าวอันน่าเศร้ากับเหตุการณ์ฟ้าผ่าตะเพิด โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ออกจากตำแหน่งนายใหญ่ "สิงห์บลูส์" ไปเมื่อวันพุธ ต่อจากนำทีมบุกพ่าย ยูเวนตุส 0-3 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม คืนก่อนหน้านั้น พร้อมเชื่อมีความเป็นไปได้สูงว่า โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุกีสของ เรอัล มาดริด จะเข้ามานั่งกุมบังเหียนทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" คนต่อไป

รุด กุลลิท อดีตผู้จัดการทีม เชลซี แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า รู้สึกสลดหดหู่เป็นอย่างยิ่งกับการได้ยินข่าวว่าทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" จัดการสั่งปลด โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ กุนซือชาวอิตาลี ออกจากตำแหน่งต่อจากความพ่ายแพ้ต่อ "เจ้าม้าลาย" ยูเวนตุส 0-3 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม อี เมื่อวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

กุลลิท พูดถึง ดิ มัตเตโอ วัย 42 ปี ที่เพิ่งจะได้รับสัญญาเข้ามานั่งเป็นนายใหญ่แห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบเต็มตัว ไปเมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมาเท่านั้นเองว่า "หากคุณได้แชมป์บางอย่างที่ เชลซี คุณก็มาโดนปลด ผมรู้สึกเสียใจมากต่อ ร็อบบี้ ผมมีความรู้สึกว่าเมื่อพวกเขาได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาอาจจะมองหาคนอื่นอยู่ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงใช้เวลานานมากกับการพิจารณาเซ็นสัญญากับเขา"

ขณะเดียวกัน กุลลิท ยังเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อยกับการกลับมาของ โชเซ่ มูรินโญ่ โค้ชชาวโปรตุเกสของ เรอัล มาดริด ที่แม้ว่าครั้งหนึ่งเขาจะเคยถูก โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย สั่งเด้งมาแล้ว ก็ตามที โดยระบุเพียงสั้นๆว่า "ผมรู้สึกว่าต้องเป็น มูรินโญ่ อยู่เสมอ"

ด้าน ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้คำจำกัดความของการปลด ดิ มัตเตโอ ว่าเป็น "ความบ้าคลั่ง" แถมนำมาเปรียบอีกว่าสถานการณ์ช่างแตกต่างจากทัพ "เร้ด เดวิลส์" ของตนอย่างสิ้นเชิง ที่มี ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นั่งเป็นนายใหญ่มานานกว่า 26 ปีแล้วไม่มีทีท่าที่จะเปลี่ยนมือด้วย

เฟอร์ดินานด์ โพสต์ข้อความลง "ทวิตเตอร์" เครือข่ายสังคมออนไลน์ส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า "ว้าว เชลซี ปลดผู้จัดการทีมของเขาแล้ว ! ผมค่อนข้างที่จะรู้ช้าไปหน่อย มันเป็นเรื่องที่บ้าคลั่งมาก ความมั่นคงของสโมสรเราเป็นบางอย่างที่ผู้จัดการทีมของเราได้รับการยกย่อง จงอย่าประเมินค่าต่ำไป"

ด้าน อลัน พาร์ดิว กุนซือ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก็ได้พูดถึงการที่ "สิงห์บลูส์" สั่งตะเพิด ดิ มัตเตโอ แบบฟ้าผ่าว่า "ผมรู้สึกประหลาดใจจริงๆ มันเพิ่งจะแสดงให้คุณเห็นว่าเราสุ่มเสี่ยงแค่ไหนกับการเป็นผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีก และคุณก็ไม่ถูกมองเห็นคุณค่า แน่นอนว่าคงมีความตกใจเกิดขึ้นกับแฟนๆ และสื่อก็น่าจะมีคำอธิบายบางอย่างจากปากของเจ้าของทีมบ้าง เพราะผมไม่รู้ว่านั่นเป็นผู้จัดการทีมรายที่ 9 หรืออะไรทำนองนั้น ในช่วงเวลาไม่กี่ปี ซึ่งมันดูจะไม่ค่อยยุติธรรมสักเท่าใด" 

"ตราบเท่าที่ผมรู้สึกกังวล เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแม้แต่น้อย เขามีปรัชญาการทำทีมในการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ใหม่ของทีม ซึ่งเขาพยายามที่จะทำในสิ่งที่ไม่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงข้ามคืน และเขาก็นำทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 รายการกับระยะเวลาน้อยกว่า 1 ปี ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ เขาควรจะก้าวขึ้นไปทำงานอื่น บางทีมันน่าจะเป็นเรื่องของคนที่ไม่มีโชค โชคร้าย เสียมากกว่า" พาร์ดิว ทิ้งท้าย