ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » นอกสนาม » 7 สิ่งควรจดจำในซูซูกิ คัพ 2012 รอบแบ่งกลุ่ม

7 สิ่งควรจดจำในซูซูกิ คัพ 2012 รอบแบ่งกลุ่ม

Posted 03/12/2012 by goal.com

จากเกมนัดแรกถึงนัดสุดท้าย แม้จะใช้เวลาในสนามแค่ทีมละราวๆ 270 นาที แต่เรื่องราวเหล่านี้จะไม่เลือนหายไปตราบนานเท่านาน เรามั่นใจ

7. แฟนบอลและนัดเปิดสนามกลางสายฝน

เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ครั้งนี้ เป็นอีกครั้งที่มีแฟนบอลเข้ามาชมกันในจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะที่บูกิต จาลิล ซึ่งกองเชียร์เสือเหลืองเข้าไปชมเกมที่ทีมชาติพวกเขาลงแข่งขันแน่นขนัดแทบทุกนัด แม้ในวันที่ฝนตกอย่างหนักในเกมนัดแรก หรือวันที่ศรัทธาสั่นคลอนจนมีเสียงโห่ไล่อย่างหลังจากที่พ่ายสิงคโปร์ในนัดเปิดสนาม แต่พวกเขาก็ไม่เคยย่อท้อที่จะเข้ามาให้กำลังใจทีมที่พวกเขารักเลย

 

 

6. ใจสู้ของลาว

ลาวอาจจะเป็นทีมรองบ่อนก่อนเริ่มต้นทัวร์นาเมนต์ ด้วยการผ่านรอบคัดเลือกมาเป็นอันดับสองรองจากพม่า แต่พวกเขาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ทัวร์นาเมนต์นี้ไม่มีคำว่าหมูสนามอีกต่อไป เมื่อไล่ต้อนอินโดนีเซียจนเกือบจนมุมในนัดแรก และมีความหวังอยู่ชั่วอึดใจที่จะผ่านเข้ารอบในนัดสุดท้าย น่าเสียดายที่ประสบการณ์ของพวกเขาในทัวร์นาเมนต์ระดับนี้ยังน้อยเกินไป จึงไม่อาจรักษาความสม่ำเสมอได้ตลอดทั้ง 90 นาที

 

5. ฟอร์มบู่ของเวียดนาม

เวียดนามลงสนามในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในฐานะหนึ่งในเต็งแชมป์และมีโอกาสสูงที่จะผ่านเข้ารอบไปพร้อมกับไทยในกลุ่มเอ แต่ฟอร์มการเล่นอันย่ำแย่ของพวกเขาก็ทำให้ทุกอย่างพลิกจากฟ้ามาเป็นเหว เมื่อพลพรรค "ดาวทอง" เก็บได้เพียง 1 แต้ม จากนัดที่เสมอพม่าแบบหวิดๆ จะพ่ายแพ้ และโดนไทยกับฟิลิปปินส์กำราบในอีก 2 นัดถัดมา กลายเป็นผลงานย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์นาเมนต์นี้ของทีมเวียดนาม และเป็นฝันร้ายที่แฟนบอลเหงียนทุกคนอยากจะลืม

4. ประตูประวัติศาสตร์ของดูริช

สิงห์เฒ่าวัย 42 ปีของสิงคโปร์กลายเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ทำประตูได้ในรายการนี้ เมื่อเขาถูกส่งลงสนามมาเพียง 2 นาที ก่อนจะทำประตูปิดกล่องให้สิงคโปร์ปราบมาเลเซียไปได้แบบช็อคแฟนบอลทั้งสนามบูกิต จาลิล 3-0 ในเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นัดแรก

3. การกลับมาของมาเลเซีย

หลังสิ้นเสียงนกหวีดบูกิต จาลิล ในเกมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นัดแรก แฟนบอลเสือเหลืองโห่ใส่ดาโต๊ะ ราชโคปาล และนักเตะทีมชาติของตัวเองกันลั่นสนาม เพราะไม่พอใจในฟอร์มการเล่นที่พ่ายเมอร์ไลออนอย่างสิ้นลาย แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็กลับมามีฮึดไล่ถล่มลาว 4-1 ก่อนจะมาเอาชนะอินโดนีเซียไปได้แบบสบายเท้า 2-0 การันตีการผ่านเข้ารอบไปเผชิญหน้ากับทีมชาติไทย

 

2. แฮตทริกของเจ้ามุ้ย

หลังจากที่เคยประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมจนกลายเป็นประตูที่เกิดจากทีมเวิร์คของอนุชา กิจพงษ์ศรี ในนัดแรก ความเฉียบคมในนัดที่ทีมชาติไทยไล่ถล่มพม่า 4-0 คือบทพิสูจน์อย่างเห็นได้ชัดเจนอีกนัดหนึ่งว่าเขาคือศูนย์หน้าเบอร์หนึ่งในอาเซียน และเป็นตัวเต็งคว้ารางวัลดาวซัลโวในทัวร์นาเมนต์นี้ เมื่อซัด 3 ประตู ดับพม่าและจีหลินที่สร้างปัญหาให้เวียดนามได้อย่างมากจนสิ้นลาย

1. คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า

การเปลี่ยนถ่ายเลือดในทีมฟุตบอลสักทีมเป็นเรื่องปกติ และทัวร์นาเมนต์ซูซูกิคัพครั้งนี้คือบทพิสูจน์ถึงคำพูดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี จีหลินที่กลบรัศมีของเล คอง วินห์ ในเกมที่พม่าพบเวียดนาม, คำแพง สายวุฒิ ที่ทำให้บัมบัง ปามุงกัสต้องหม่นหมองในเกมที่ลาวพบอินโดนีเซีย รวมถึงอังเคล กีราโด้ ที่ลงมาพลิกเกมให้ฟิลิปปินส์หลังจากถูกเปลี่ยนลงมาแทนฟิล ยังฮัสแบนด์ นี่เป็นทัวร์นาเมนต์แจ้งเกิดของนักเตะหน้าใหม่หลายรายอย่างแท้จริง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »