คลิกดูภาพเด่นอื่นๆ

        "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล บุกคว้าชัยเหนือ เวสต์แฮม ไปได้แบบลุ้นเหนื่อย 3-2 ทำให้เก็บเพิ่มอีก 3 แต้ม ทำอันดับขยับขึ้นไปอยู่ที่ 10 ของตาราง ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 9 ธันวาคม 2555

สนาม : อัพตัน พาร์ค


         "ขุนค้อน" เวสต์แฮม เปิดรังอัพตัน พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โดยเจ้าถิ่นไม่มี แอนดี้ แคร์โรล ที่บาดเจ็บ ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าตัวเก่งติดโทษแบน โดยจะให้ เชลวี่ย์ ลงทำหน้าที่แทน

     เริ่มเกมมา7นาที ทีมเจ้าถิ่นได้โอกาสเสียวก่อน เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ ได้เก็บตกยิงจากแถวสอง บอลแฉลบหลัง คาร์ลตัน โคล เปลี่ยนทาง แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย แม้ เรน่า จะพุ่งผิดฝั่งไปแล้วก็ตาม

     แต่แล้วนาทีที่11 กลายเป็นฝั่งลิเวอร์พูล ได้เฮก่อน เมื่อ สตีเว่น เจอร์ราร์ด จ่ายบอลออกขวาให้ เกล็น จอห์นสัน เลี้ยงตัดเข้ากลาง ก่อน เกล็น จอห์นสัน กดยิงด้วยขวา บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบเข้าสามเหลี่ยมเสาสอง ไปอย่างสวย ให้ หงส์แดง บุกนำก่อน 1-0

     3นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล ยังบุกไม่เลิก โดยขึ้นเกมมาทางฝั่งขวาจาก เกล็น จอห์นสัน ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางตามถนัด สุดท้ายไหลให้ เจ้าหนู ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งมากดยิงด้วยขวา บอลพุ่งเฉียดเสาออกหลังไปอย่างหวุดหวิด

     นาทีที่26 ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปลี่ยนเอา โจ โคล ลงมาแทน โฆเซ่ เอ็นริเก้ ที่บาดเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว

     4นาทีต่อมา เป็นฝ่ายลิเวอร์พูล ที่โดนใบเหลืองไปก่อน เมื่อ จอนโจ เชลวี่ย์ ไปดักเกมหนักใส่ โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ จึงโดนใบเหลืองก่อนใคร ก่อน ดิยาเม่ คนเดิม จะทำให้ เจอร์ราร์ด ต้องโดนใบเหลืองไปบ้าง หลังถูกกัปตันทีมลิเวอร์พูล เสียบสไลด์จากด้านหลัง

     นาทีที่35 เป็น เวสต์แฮม ได้ลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิก เควิน โนแลน ปั่นข้ามกำแพงไปแล้ว แต่ โฆเซ่ เรน่า มารออยู่แล้ว จึงรับเข้าซองสบาย

     อย่างไรก็ตามนาทีต่อมา เวสต์แฮม ก็ได้เฮ เมื่อ โมฮาเหม็ด ดิยาเม่ ยิงบอลไปถูกแขน โจ อัลเลน ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินลี โพรเบิร์ต ชี้เป็นลูกจุดโทษให้เจ้าบ้านทันที

     ก่อน มาร์ค โนเบิ้ล จะรับหน้าที่สังหาร ยิงเรียดเสียบเสา แม้ เรน่า จะพุ่งถูกทาง แต่ก็ไม่ถึง เวสต์แฮม ตามตีเสมอ 1-1

     นาทีที่38 เป็นฝั่ง เวสต์แฮม โดนใบเหลืองไปบ้าง เมื่อ แม็ทธิว เทย์เลอร์ ไปเปิดปุ่มใส่ ราฮีม สเตอร์ลิง แบบน่าเกลียด ผู้ตัดสินจึงควักแจกแบบไม่ลังเล

     ก่อนหมดเวลา3นาที แฟนขุนค้อน ได้เฮกันเต็มๆ เมื่อ แม็ทธิว จาร์วิส ได้บอลทางฝั่งซ้ายของสนาม ก่อนเปิดเข้ากลางมาที่หน้าประตู สตีเว่น เจอร์ราร์ด พยายามจะกระโดดโหม่งสกัด แต่บอลโดนเหลี่ยมไม่ดี กลายเป็นเปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเอง กลายเป็นสกอร์ใส่พาน ให้ เวสต์แฮม แซงนำ 2-1

     ท้ายครึ่งแรก บวกสกอร์กันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาครึ่งแรก เวสต์แฮม จึงนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 2-1


      กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เจ้าบ้านเปลี่ยนตัว กีย์ เดเมล ออกและส่ง จอร์จ แม็คคาร์ทนี่ย์ ลงเล่นแทน


     นาทีที่ 54 เวสต์แฮม ยังบุกอย่างต่อเนื่องและได้โอกาสลุ้นทำประตู แม็ทธิว จาร์วิส หลุดขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้าไปหน้าประตู แต่ มาร์ติน สเคอร์เทล โหม่งทิ้งออกหลังไปได้


     นาทีที่ 67 หงส์แดงได้ลุ้นตีเสมอ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เปิดบอลเข้ากลาง โจ โคล ปล่อยบอลลอดขาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง วิ่งเข้ากดด้วยขวาหน้าเขตโษ บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ปัดออกหลังไปได้


     นาทีที่ 70 ทีมเยือนได้โอกาสอีกหน สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง คนเดิมเปิดบอลโด่งเข้าไปหน้าเขตโทษ จอนโจ เชลวี่ย์ ได้โขกโล่งๆแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย


      นาทีต่อมา ลิเวอร์พูล เปลี่ยนตัวคนที่สองโดยส่งเอา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามมาแทน ลูคัส เลว่า ที่ดูหมดแรง


      นาทีที่ 76 แฟงหงส์แดงก็ได้เฮลั่น ราฮีม สเตอร์ลิง จ่ายบอลให้ โจ โคล หลุดเข้าไปยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งหนีมือ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น เสียบเสาเข้าไป ลิเวอร์พูล ตามตีเสมอเป็น 2-2


       ถัดจากนั้น 3 นาที จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลแรงไปหน้าประตู เจมส์ คอลลินส์ เบียดกับ จอนโจ เชลวี่ย์ ก่อนสกัดบอลพลาด บอลพุ่งย้อยข้ามหัว ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น เข้าประตูไป ลิเวอร์พูล พลิกขึ้นนำ 3-2


      นาทีที่ 86 เวสต์แฮม เปลี่ยนตัวบ้างโดยถอดเอา แม็ทธิว เทย์เลอร์ ออก และส่ง โมดิโบ ไมก้า


      ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็หันมาเน้นรับโดยส่ง เซบาสเตียน โคอาเตส ลงมาแทน โจ อัลเลน


     นาทีที่ 88 ราฮีม สเตอร์ลิง แตะหลบ เจมส์ คอลลินส์ ก่อนหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น แต่นายทวารเจ้าบ้านยังไวพุ่งออกมานอกเขตโทษสกัดบอลทิ้งไว้ได้


     ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 วินสตัน รีด ไปเตะ จอนโจ เชลวี่ย์ ล้มลงในเขตโทษแต่ผู้ตัดสิน ลี โพรเบิร์ต ยังนิ่งปล่อยให้เล่นต่อไป