"วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ ปรับทัพแข้งไทย ซ้อมระบบ 4-4-2 ฉีดยาแรง 3 เข็ม เข็น "ใหม่" ภานุพงศ์ วงศ์ษา ลงขันแนวรับ ดัน กีรติ เขียวสมบัติ ยืนหน้าคู่ ธีรศิลป์ แดงดา อีกทั้งเรียกคุยส่วนตัวแนะแท็กติกเป็นตัวล่อ โดย "เจ้ามุ้ย" บอกไม่หวั่นสถานการณ์อย่างนี้เจอมาเยอะ ส่วน ดัสกร ทองเหลา วอนแฟนเชียร์เชื่อไทยถึงเป้า ฟาก ราดอจโก้ อัฟราโมวิช เฮดโค้ชสิงคโปร์ มาเน้นรับวางกองหลัง 6 คนติวลูกเซตพีซเป็นทีเด็ด

ในช่วงค่ำของวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 19.00 น. ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ได้ออกเดินทาง ไปยังฝึกซ้อมยังสนาม ม.รามคำแหง ซึ่งสภาพทีม "เจ้าใหม่" ภานุพงศ์ วงศ์ษา ที่เจ็บจากนัดที่แล้ว จนต้องเปลี่ยนตัวออกสามารถลงซ้อมได้ แต่ "วินนี่" ได้จับแยกไปวิ่งเรียกความฟิตต่างหาก ไม่ต้องซ้อมแท็กติกกับทีม

ขณะที่ "บอย" อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่เจ็บหน้าแข้งข้างซ้าย เพราะโดนผู้เล่นสิงคโปร์เสียบ ยังมีอาการบาดเจ็บ และมีรอยนูนปูดโปนไม่สามารถซ้อมกับทีมได้

โดยการซ้อมหลังจากที่วอร์มร่างกายแล้ว กุนซือทีมชาติไทย ได้แบ่งนักเตะตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนามได้ลงซ้อมแท็กติกกับผู้เล่นตัวสำรอง

จากการสังเกตของผู้สื่อข่าว วินนี่ มีการจัดวางระบบการซ้อมมาเป็น 4-4-2 แทน 4-5-1 อย่างที่เล่นมาประจำทุกนัด ซึ่งรูปแบบการซ้อม ได้เน้นการขึ้นเกมรุก เน้นโจมตีริมเส้น และการเจาะตรงกลาง และการยิงประตูในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ยังไม่ลืม ที่จะซ้อมเกมรับด้วย สุดท้ายฝึกความเข้าใจเรื่องลูกเซตเพลย์ และลูกเตะมุม

   
ส่ง "กีรติ" ยืนหน้าคู่ "มุ้ย"

 
ในการฝึกซ้อมของทีมชาติไทย ที่ทาง "วินนี่" ได้เน้นระบบ 4-4-2 และแบ่งข้างตัวจริงกับตัวสำรองลงซ้อมกันอย่างชัดเจนนั้น ปรากฏว่า คู่กองหน้าได้จับเอา กีรติ เขียวสมบัติ ที่ซัดไปแล้ว 2 ประตูในรายการนี้ ลงยืนคู่กับ ธีรศิลป์ แดงดา ขณะที่ผู้เล่นตำแหน่งอื่นยังคงเดิม แค่โยกเอา จักรพันธ์  พรใส ปีกจอมเลื้อยความเร็วสูงสลับมาเล่นทางด้านซ้าย แทนที่ของ อนุชา กิจพงษ์ศรี ที่ลงไม่ได้ ส่วนฝั่งขวาเป็น พิชิตพงษ์ เฉยฉิว

ซึ่ง 11 คนแรก ที่จะจัดทัพลงบู๊กับสิงคโปร์ ในเกมชี้ชะตาของไทย ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ เซนเตอร์ ชลทิตย์ จันทคาม, ภานุพงศ์ วงศ์ษา แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา กองกลาง อดุลย์ หละโสะ, ดัสกร ทองเหลา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, จักรพันธ์ พรใส กองหน้า กีรติ เขียวสมบัติ กับ ธีรศิลป์ แดงดา

   
"ใหม่" เผยฉีดยา 3 เข็มกันอาการบาดเจ็บ

 
จากการเปิดเผยของ "เจ้าใหม่" ภานุพงศ์ วงศ์ษา ปราการหลังตัวสำคัญของทีมชาติไทย ถึงอาการบาดเจ็บที่บริเวณหลัง เพราะโดนกระแทกเข้าอย่างจังว่า พร้อมจะลงเล่นได้หรือไม่

เจ้าตัวกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไป รพ.กรุงเทพ เพื่อตรวจอาการ และทางแพทย์ได้ทำการฉีดยาถึง 3 เข็ม เพื่อป้องกันอาการกำเริบ ส่วนตัวก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เพียงแต่ในวันแข่งจะดีขึ้นขนาดไหนเท่านั้น

ทั้งนี้มีรายงานว่า ถ้า ภานุพงศ์ วงศ์ษา ไม่สามารถลงสนามได้จริง ก็จะส่ง "โอ๊ด" ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ลงทำหน้าที่แทน

   
"วินนี่" วางแผนใช้ "มุ้ย" ตัวล่อ

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่ทีมชาติไทยจะออกไปซ้อมทาง "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ ได้เรียก "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงคนสำคัญ มาแนะนำแท็กติกเป็นกรณีพิเศษ โดยชี้ว่านัดที่แล้ว มุ้ย โดนกองหลังสิงคโปร์ประกบติดตลอด และมักจะเข้าบอลหนักเพื่อตัดเกม และพยายามจะยั่วให้อารมณ์เสีย

แต่สำหรับเกมนี้ก็ยังเชื่อว่ากองหลังสิงคโปร์ จะมาในรูปแบบเดิม ซึ่งก็จะใช้มุ้ยเป็นกับดัก ด้วยการดึงกองหลังออกมาเล่น เปิดพื้นที่ และจะมีตัวที่จะเสริมขึ้นไปทดแทน รวมทั้งมีจังหวะให้เรียกฟาวล์ หรือเรียกใบเหลืองจากคู่แข่งให้ได้ ทั้งนี้ขอให้ มุ้ย เหนื่อยเพื่อทีม เพราะจะเป็นตัวหลอกล่อสำคัญ ที่จะทำให้เกมของไทยไหลลื่น

   
"มุ้ย" ไม่หวั่นบอกเจอมาเยอะแล้ว

 
ด้าน "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าตัวความหวังของทีมชาติไทย ซึ่งนัดแรกไม่สามารถทะลวงตาข่ายได้ แต่จ่ายให้ อดุลย์ หละโสะ ยิงไป 1 ประตู ก็กล่าวว่า ทาง วินนี่ เรียกตนเองไปคุยกันจริง ถึงแท็กติกที่จะเล่น

ส่วนตัวก็บอกว่าไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อทีมเต็มที่ ซึ่งนัดแรกที่ตนโดนประกบ และไม่ค่อยได้บอล ส่วนใหญ่ก็เจอแบบนี้มาตลอด ไม่ว่าจะเล่นในลีกหรือระดับนานาชาติ มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย สิ่งสำคัญคือจิตใจเรามากกว่า ที่จะต้องสู้ด้วยใจเกินร้อย และไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ตนเจอมาเยอะ มันอยู่ที่จังหวะมากกว่า ถ้าเขาพลาด เราก็ยิงประตูได้ ก็ขอบอกว่าเต็มที่แน่นอน

   
"บอย" เสียดายส่งใจให้เพื่อนคว้าแชมป์

 
ส่วน "บอย" อนุชา กิจพงษ์ศรี  ตัวริมเส้นฝั่งซ้าย ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บ จนชวดลงสนามในนัดนี้ก็กล่าวว่า เสียดายมาก เพราะต้องพักถึง 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว กระนั้นก็มั่นใจในเพื่อนๆ ว่าจะช่วยกันในการคว้าแชมป์ได้ สกอร์แค่ 2 ประตูมั่นใจว่าเราจะทำได้ ส่วนแท็กติกคิดว่าน่าจะเปลี่ยนจากนัดแรก เพราะปกติตนจะเล่นกับ ธีราทร บุญมาทัน เมื่อตนไม่ได้ลง ก็น่าจะปรับแท็กติกใหม่

   
"ดัสกร" ลั่นเต็มที่ฝากแฟนมาช่วยเชียร์

 
"โกโก้" ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติไทย ได้ออกมาเผยความพร้อมของตัวเองในเกมนัดชิงชนะเลิศนัด 2 กับทีมสิงคโปร์ว่า ตอนนี้ตนเองไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ หรืออาการล้าแต่อย่างใด พร้อมลงสนามในเกมดังกล่าวอย่างแน่นอน และจะพยายามอย่างเต็มที่ แม้ว่าสกอร์ที่ตามอยู่จะห่างถึงสองลูก และดูเหมือนว่าทาง "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย จะแสดงอาการหนักใจ และเป็นห่วง

แต่ทุกคนก็จะสู้อย่างเต็มที่ จนสิ้นเสียงนกหวีดหมดเวลา ซึ่งตนเองอยากเชิญชวนแฟนบอลมาร่วมพลังให้กำลังใจเชียร์นักเตะในสนามกันอย่างเต็มที่ด้วย ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากันอีกที แต่ลึกๆ เชื่อว่า 90 นาทีคำว่าแชมเปี้ยนทีมไทยก็ยังมีโอกาสอยู่

   
"ชลทิตย์" ขอพรพระพรหมให้คว้าแชมป์

 
ด้าน ชลทิตย์ จันทรคาม เซนเตอร์ฮาล์ฟของทีมชาติไทย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 ธ.ค. 55 ที่โรงแรมเอสซี ปาร์ค ก็ได้ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อเดินทางไปตลาดซื้อหาดอกไม้ เพื่อมาไหว้สักการะพระพรหม ซึ่งเป็นศาลที่อยู่หน้าโรงแรม เพื่อที่จะขอพรการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศนัดที่สองกับสิงคโปร์ให้ทีมชาติไทย สามารถเอาชนะและครองแชมป์ของการแข่งขันให้ได้

"ปกติผมจะตื่นเช้าในช่วงของวันพระอยู่แล้ว และวันนี้ก็เป็นวันพระวันดีด้วย ผมก็เลยถือโอกาสนี้ไปซื้อดอกไม้มาไหว้ศาลพระพรหม เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต ซึ่งปกติทุกวันพระผมก็ทำอยู่แล้ว แต่วันนี้พิเศษผมได้ขอพรให้ท่านช่วยเป็นกำลังใจและดลบันดาลให้พวกเราทีมชาติไทยทุกคนสามารถที่จะเอาชนะทีมสิงคโปร์ พร้อมกับคว้าแชมป์ของการแข่งขันมาครองให้ได้"

   
ลอดช่องซ้อมเน้นรับวางหลัง 6 คน

 
ส่วนการฝึกซ้อมของทีม "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ที่สนามแข่งขันจริงศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 55 ที่ผ่านมา ภายใต้การคุมทัพของ ราดอจโก้ อบราโมวิช กุนซือใหญ่ใช้เวลาทั้งสิ้น 1 ชั่วโมงครึ่ง

โดยทางสิงคโปร์ได้เน้นการฝึกซ้อมในการตั้งรับ เพื่อบีบพื้นที่ให้ที่จำลองให้ไทยเปิดบอลจากบริเวณวงกลมครึ่งสนามออกด้านข้างไม่ให้เจาะตรงกลาง โดยวางผู้เล่นแนวรับเอาไว้ถึง 6 คนด้วยกัน และเมื่อตัดบอลได้จะโต้กลับโดยมีทาง ไคลรุล อัมรี่ เป็นหน้าเป้าตัวเดียวคอยฉีกบอลไปเอาตรงพื้นที่วางริมเส้น

   
ติวลูกเซตพีซจุดต่างๆ เป็นทีเด็ด

 
ขณะเดียวกันทางทีมสิงคโปร์ ยังได้มีการซ้อมเน้นในเรื่องของจังหวะการเล่นลูกเซตพีซในจุดต่างๆ ตั้งแต่ครึ่งสนามจนกระทั่งไปถึงระยะ 20-25 หลา ไม่ว่าจะเป็นบริเวณกลางประตู หรือจะเป็นด้านข้างทั้งสองฝั่ง

ซึ่งแต่ละจุดทาง ราดอจโก้ อบราโมวิช ได้เน้นเป็นพิเศษในเรื่องของการยืนตำแหน่งเข้าทำ ซึ่งถือว่าเป็นลูกสูตรที่เตรียมเอาไว้เป็นทีเด็ดในการเข้าทำประตูทีมชาติไทย รวมไปถึงในจังหวะที่เสีย และได้เตะมุมก็เก็บรายละเอียดในการยืนตำแหน่งของผู้เล่นแต่ละคนเป็นอย่างดี รวมถึงไม่ประมาทให้ลูกทีมซ้อมยิงจุดโทษปิดท้ายการฝึกซ้อมอีกด้วย

   
ดูริคโวจะชูถ้วยแชมป์ครองเจ้าอาเซียน

 
หลังการฝึกซ้อมทาง อเล็กซานเดอร์ ดูริค กองหน้าร่างโย่งตัวเก่งของทีม "ลอดช่อง" สิงคโปร์ ได้มีการให้สัมภาษณ์ ถึงเกมที่จะพบกับทีมชาติไทย รอบชิงชนะเลิศนัดที่ 2 ว่า ยอมรับทีมชาติไทยมีความแข็งแกร่ง แต่ทางโค้ชใหญ่ของทีมก็มีแผนที่จะรับมืออย่างแน่นอน

รวมถึงเพื่อนๆ ร่วมทีมก็พร้อมและกำลังมีความมั่นใจ ไม่กดดันอะไรเลย แม้จะทราบว่ากองเชียร์ทีมไทยจะขนกันมาเต็มสนามก็ตาม เนื่องจากสกอร์ที่ตุนอยู่จะทำให้ทีมเล่นได้ง่ายขึ้น และยังมั่นใจว่าสุดท้ายแล้วสิงคโปร์จะเป็นผู้ได้ชูถ้วยแชมป์อีกปี พร้อมกับครองเจ้าอาเซียนค้าแชมป์มากที่สุด รวมถึงตนเองก็จะได้ปิดฉากแขวนสตั๊ดด้วยการเป็นแชมป์ที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย