เอซี มิลาน เตรียมแสดงจุดยืนอันหนักแน่นถึงการต้านการเหยียดผิว ด้วยการให้ผู้เล่นใส่เสื้อที่มีสโลแกนต้านการหมิ่นสีผิวก่อนลงเตะกับ เซียน่า วันอาทิตย์นี้ หลังจากที่ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง กองกลางคนเก่ง รวมถึงแข้งผิวสีของทีมหลายคน โดนแฟนบอลของ โพร พาเทรีย เหยียดผิวใส่อย่างหนัก ระหว่างเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

บรรดานักเตะของ เอซี มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี จะสวมเสื้อที่มีสโลแกน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคีของพวกเขาในเรื่องการต่อสู้กับการเหยียดผิวระหว่างการอบอุ่นร่างกาย ก่อนลงเตะเกมลีกกับ เซียน่า ที่สังเวียนแข้ง ซาน ซิโร่ วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคมนี้

มาตรการในครั้งนี้ถูกหยิบขึ้นมาใช้ หลังจากที่เกิดเรื่องอื้อฉาวในเกมกระชับมิตรนัดที่ มิลาน บุกไปเยือน โพร พาเทรีย สโมสรในระดับดิวิชั่น 4 ของลีกแดนมะกะโรนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา โดยในเกมนัดดังกล่าวนั้น พ่อค้าแข้งผิวสีหลายคนของ "รอสโซเนรี่" อาทิ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน, ซัลลี่ย์ มุนตารี่ และ เอ็มบาเย่ เนียง ต่างก็โดนแฟนบอลของเจ้าถิ่นตะโกนเหยียดผิวใส่อย่างหนัก จนทำเอา พริ้นซ์ บัวเต็ง ฉุนขาดถึงขั้นถอดเสื้อแข่งเดินออกจากสนามเลยทีเดียว และเกมนัดนั้นก็โดนยกเลิกไปในที่สุด

เรื่องดังกล่าวทำให้ มิลาน เตรียมแสดงออกถึงจุดยืนในการต่อต้านการเหยียดผิวในเกมวันอาทิตย์นี้ โดยทีมของกุนซือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี แถลงการณ์ว่า "บ่ายวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์นี้) ระหว่างช่วงอบอุ่นร่างกาย ก่อนเกมกับ เซียน่า นั้น นักเตะ มิลาน จะใส่เสื้อที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อโอกาสนี้โดยเฉพาะ ที่จะมีสโลแกนของการต่อต้านการเหยียดผิวแปะอยู่ ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทั้งท่านประธาน ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่, สโมสร และนักเตะในทีม"

ทั้งนี้ พริ้นซ์ บัวเต็ง ออกมาพูดอย่างเปิดอกหลังเกิดเหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนี้ และการกระทำของเขาก็ได้รับการชื่นชมจากนักเตะคนอื่นๆ ในโลกลูกหนัง ที่รู้สึกว่าต้องมีการแสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นมากกว่านี้ เพื่อที่จะหยุดยั้งการเหยียดผิวในวงการฟุตบอลให้ได้ นอกจากนี้ มิดฟิลด์วัย 25 ปี ยังยอมรับด้วยว่า การที่ต้องเจอเรื่องเหยียดผิวในแดนมะกะโรนี คือสิ่งที่ทำให้ตนตั้งคำถามเกี่ยวกับอนาคตการค้าแข้งใน อิตาลี แล้ว