เซปป์ แบล็ตเตอร์ บิ๊กบอสของ ฟีฟ่า แสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง มิดฟิลด์ เอซี มิลาน เดินออกจากสนาม หลังโดนเหยียดผิว ในเกมกระชับมิตร นัดที่ "รอสโซเนรี่" เจอกับ โพร พาเทรีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แต่ยัน ตนยังต้านการหมิ่นสีผิวในเกมลูกหนังอยู่เหมือนเดิม

เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กล่าวตำหนิ เควิน-พริ้นซ์ บัวเต็ง กองกลางคนเก่งของ เอซี มิลาน สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ว่าทำไม่ถูกต้อง ที่ตัดสินใจเดินออกจากสนามทันทีภายหลังที่โดนเหยียดผิว ในเกมอุ่นเครื่องที่ "รอสโซเนรี่" บุกไปเยือน โพร พาเทรีย สโมสรในระดับดิวิชั่น 4 ของแดนมะกะโรนี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา

พริ้นซ์ บัวเต็ง รวมถึงแข้งผิวสีของ มิลาน หลายคน โดนสาวกของ โพร พาเทรีย ตะโกนเหยียดผิวใส่อย่างหนัก จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว จนต้องเดินออกจากสนามแข่งขันในช่วงนาทีที่ 26 ของเกม ซึ่งบรรดานักเตะของ "รอสโซเนรี่" ก็พากันเดินออกจากสนามด้วย ก่อนที่เกมนัดดังกล่าวจะโดนยกเลิกในเวลาต่อมา

ทั้งนี้การกระทำของมิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติกานา ได้รับการชื่นชมจากหลายฝ่าย อย่างไรก็ตาม แบล็ตเตอร์ ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ถึงแม้ตนจะยืนยันว่า ยังคงต่อต้านการเหยียดผิวในเกมลูกหนังอย่างเต็มที่ก็ตาม โดยหัวเรือใหญ่ของ ฟีฟ่า วัย 76 ปี เผยว่า "การเดินออกจากสนามน่ะเหรอ? ไม่หรอก ผมไม่คิดว่า นั่นเป็นทางแก้ปัญหาหรอกนะ"

"แต่จนถึงตอนนี้ สหพันธ์ฟุตบอลอิตาลี (เอฟไอจีซี) ก็ยังไม่ได้ส่งรายงานถึงรายละเอียดที่ระบุว่า จริงๆ แล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นในเกมนั้น มาให้ทาง ฟีฟ่า ได้พิจารณาเลย ยังไงก็ตาม ผมไม่คิดว่า คุณจะเดินหนีจากมันได้หรอก เพราะท้ายที่สุดแล้ว คุณจะสามารถหันหลังวิ่งหนีได้ ถ้าเกิดคุณเป็นฝ่ายแพ้"

"นี่เป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อนมากๆ แต่ผมขอย้ำอีกครั้งว่า มันไม่มีการให้อภัยต่อเรื่องเหยียดผิวในสนามฟุตบอล เราต้องต่อต้านเรื่องนั้น ซึ่งหนทางเดียวที่จะยุติปัญหานี้ได้ก็คือ ต้องมีบทลงโทษที่รุนแรงมากๆ และบทลงโทษนั้นก็ต้องเป็นการตัดแต้ม หรืออะไรบางอย่างที่คล้ายๆ กัน" แบล็ตเตอร์ ระบุ