การซื้อตัวนักเตะในช่วงกลางฤดูกาล บางครั้งก็รุ่ง บางครั้งก็ร่วง บางครั้งก็ดี บางครั้งก็เสี่ยง โกล.คอม ขอรวบรวม 10 การคว้าตัวที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก เดือน ม.ค. มาให้ได้ชมกัน

การซื้อตัวนักเตะในช่วง กลางฤดูกาล บางครั้งก็รุ่ง บางครั้งก็ร่วง บางครั้งก็ดี บางครั้งก็เสี่ยง โกล.คอม ขอรวบรวม 10 การคว้าตัวที่ยอดเยี่ยมในพรีเมียร์ลีก เดือน ม.ค. มาให้ได้ชมกัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทีมรักของคุณจะพบกับความโชคดีอีกครั้งในปีนี้

อันดับ 10 : นิกิชา เยลาวิช

ก่อนที่จะมาค้าแข้งกับเอฟเวอร์ตัน ไม่มีใครรู้จักกองหน้าชาวโครแอตรายนี้เลยสักคนเดียว แต่เดวิด มอยส์กลับคิดต่างจนสุดท้ายยอมทุ่มเงิน 5 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาจาก กลาสโกว์ เรนเจอร์ส เมื่อช่วงหน้าหนาวปีที่แล้ว

หัวหอกวัย 27 ปี รายนี้ ยิงประตูเป็นว่าเล่นให้ทีมท็อฟฟีสีน้ำเงิน พร้อมช่วยให้ทีมจบที่อันดับเจ็ด เหนือเพื่อนร่วมเมืองเมอร์ซีย์ไซด์อย่างลิเวอร์พูลอยู่ 4 แต้ม เมื่อปีที่แล้ว และปัจจุบันเขากลายเป็นกองหน้าคนหนึ่งที่ทีมเอฟเวอร์โตเนียนจะขาดไม่ได้ไปเสียแล้ว

อันดับ 9 : ปาปิสส์ ซิสเซ

การันตีผลงานช่วงครึ่งฤดูกาลแรกกับไฟร์บวร์กได้อย่างยอดเยี่ยม จนทำให้นิวคาสเซิล ยอมทุ่มเงินเพื่อคว้าตัวเขามาเล่นที่เซนต์ เจมส์ พาร์คถึง 9 ล้านปอนด์ และช่วยให้ทีมพุ่งทะยานสูงขึ้นไปคว้าอันดับ 5 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

หัวหอกชาวเซเนกัลมีโอกาสลงเล่น ถึง 14 นัดในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง และซัดไปคนเดียวทั้งสิ้น 13 ประตู และแม้ทีมจะเพิ่งเสียเดมบ้า บาให้กับเชลซีไป แต่แฟนๆ ทูน อาร์มีจะยังอุ่นใจที่ยังมีหัวหอกรายนี้อยู่กับทีมต่อไปอยู่บ้าง

อันดับ 8 : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช

เชลซีต้องทุ่มเงินสูงถึง 10 ล้านปอนด์ เพื่อล่าพาร์ตเนอร์ของเนมานยา วิดิชในทีมชาติเซอร์เบีย มาจากโลโคโมทีฟ มอสโก ในช่วงหน้าร้อนปี 2008 โดย
จุดเด่นของเขาอยู่ที่การเติมขึ้นมาทำประตูที่มักจะมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้งทั้งจากหัวและจากเท้าที่คมเสียจนกองหน้าบางคนต้องหลีกทางให้

ฟอร์มการเล่นของเขาที่น่าจดจำคือการทะลุขึ้นมาเป็นแบ็คขวาตัวจริงให้ทีมแทนที่เปาโล แฟร์เรยรา ในนัดที่ทีมเจอกับลิเวอร์พูลในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมสุดท้ายตั้งแต่ปีแรกที่เขามาเล่นในสแตมฟอร์ด บริดจ์ และเจ้าตัวก็โหม่งคนเดียวสองลูกช่วยให้ทีมทำลายอาถรรพ์ที่มักจะตกรอบเกมยุโรปด้วยน้ำมือของหงส์แดงได้สำเร็จในปี 2008-09 แต่สุดท้ายทีมก็ตกรอบด้วยน้ำมือของบาร์เซโลนาที่ก้าวไปเป็นแชมป์ในปีนั้นอย่างน่าเสียดายในรอบรองชนะเลิศ

อันดับ 7 : เบรเด้ ฮันเกลันด์

กองหลังชาวนอร์เวย์ย้ายจากทีมเอฟซี โคเปนเฮเก้นมาเล่นให้กับฟูแล่มในปี 2008 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 2.5 ล้านปอนด์เท่านั้น และกลายเป็นหนึ่งในกองหลังที่น่าเชื่อถือที่สุดของทีมเจ้าสัวน้อยไปแล้ว

ในปีถัดมา เขาก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมของยอดทีมแห่งถิ่นคราเวน ค็อตเทจพร้อมกับพาทีมเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศในศึกยูโรป้าลีก ได้เหนือความคาดหมาย แต่สุดท้ายทีมกลับพ่ายให้กับแอตเลติโก มาดริดในรอบชิงชนะเลิศ ช่วงต่อเวลาพิเศษไปอย่างน่าเสียดาย

อันดับ 6 : เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

หัวหอกชาวโตโกย้ายจากโมนาโกมาร่วมทีมอาร์เซนอลด้วยค่าตัวเพียง 7 ล้านปอนด์ ในช่วงหน้าหนาวปี 2006 แต่ช่วง 18 เดือนแรกของเขาในพรีเมียร์ลีกถือว่าย่ำแย่เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ดี ในฤดูกาลถัดมาหลังจากที่เธียร์รี อองรีตัดสินใจย้ายไปเล่นให้บาร์เซโลนา เขากลับพุ่งขึ้นมาแทนที่ของหัวหอกชาวฝรั่งเศสได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการซัดไปทั้งสิ้น 30 ประตูในฤดูกาล 2007-08 แต่สุดท้ายเขากลับหักอกสาวก เดอะ กันเนอร์สด้วยการย้ายไปเล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ซิติ้ ด้วยค่าตัวสูงถึง 25 ล้านปอนด์ในช่วงหน้าร้อนปี 2009

อันดับ 5 : แกรี เคฮิลล์

ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดกองหลังของทีมชาติอังกฤษมานานแล้ว และสุดท้ายกลายเป็นเชลซีที่ยอมทุ่มเงิน 7 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาจากโบลตัน เมื่อหน้าหนาวปีที่ผ่านมา

จากสไตล์การป้องกันประตูที่แข็งแกร่งและมักจะมีจังหวะที่สอดขึ้นมาทำประตูให้ทีมได้บ่อยครั้ง ทำให้เขาประสบความสำเร็จกับทีมได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปีที่แล้ว ถือว่าเป็นการออกสตาร์ทที่ไม่เลวเลย

อันดับ 4 : ลาสซานา ดิยาร์รา

กองกลางร่างเล็กชาวฝรั่งเศสกลายเป็นส่วนสำคัญในการพาพอร์ทสมัธคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพในปี 2008 ได้อย่างเหนือความคาดหมาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เขาล้มเหลวสิ้นดีกับเชลซีและอาร์เซนอล จนถูกปล่อยไปอยู่มนถิ่นแฟรตตัน พาร์คด้วยราคาเพียงแค่ 5 ล้านปอนด์ เนื่องจากไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้เลย

แต่สุดท้ายการประสานระหว่างเขาและซัลลีย์ มุนตารีในทีมปอมปีย์ ถือว่าเรียกสีสันจากทีมในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษได้อย่างสุดมัน และสุดท้ายหลังจากที่เขาพาพอร์ทสมัธคว้าแชมป์ได้สำเร็จ เขาก็ถูกเรอัล มาดริด ซื้อตัวไปร่วมทีมทันทีในเดือนมกราคมปีถัดมาด้วยค่าตัวสูงถึง 18.88 ล้านปอนด์ และปัจจุบันเขายังโลดแล่นอยู่ในลีกรัสเซียกับ อันจิ มาคัชคาลา

อันดับ 3 : ปาทริซ เอฟรา

แม้ช่วงที่ผ่านมาเขาจะโดนแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตำหนิเรื่องการเติมเกมขึ้นมาสูงจนเสียตำแหน่งอยู่บ่อยครั้ง แต่ช่วงที่ผ่านมา เขาก็เป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไว้วางใจมากที่สุดนับตั้งแต่ย้ายมาจากโมนาโกเมื่อเดือนมกราคมปี 2006 ด้วยค่าตัวเพียง 5.5 ล้านปอนด์เท่านั้น

นัดเปิดสนามเขาเล่นได้แย่มากในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ แมตช์จนเฟอร์กี้ถูกตั้งคำถามว่าตัดสินใจถูกไหมที่ซื้อเขามาร่วมทีม แต่หลังจากที่เขาเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงมาจากกาเบรียล ไฮน์เซได้สำเร็จ เขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายชั้นนำของพรีเมียร์ลีก ที่ทีมปีศาจแดงขาดไม่ได้ จนช่วงที่ผ่านมากลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้สโมสรมากที่สุดตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

อันดับ 2 : หลุยส์ ซัวเรซ

กองหน้าชาวอุรุกวัยย้ายจากอาแย็กซ์มาร่วมทัพลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 22 ล้านปอนด์ พร้อมกับแอนดี้ คาร์โรลล์ ที่มาจากนิวคาสเซิลด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ และสามารถผลิตสกอร์แทนที่เฟร์นานโด ตอร์เรสที่ย้ายไปเล่นให้กับเชลซีได้อย่างยอดเยี่ยมในปีนี้

แม้เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาจะมีปัญหากับการถูกพุ่งเป้าเป็นที่วิจารณ์ทั้งเรื่องการพุ่งล้มและเหยียดผิวใส่ ปาทริซ เอฟรา แบ็คซ้ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขาก็แก้ตัวในซีซั่นนี้ได้เป็นอย่างดี ปัจจุบันเขาซัดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 15 ประตูรั้งอันดับสองในชาร์ตดาวซัลโวตามหลังโรบิน ฟาน เพอร์ซีเพียงสองประตูเท่านั้น และไม่ใช่แค่การยิงประตูเท่านั้น แต่ความคล่องแคล่วและฝีเท้าของเขาตอนนี้แทบจะทำให้แฟนๆ เดอะ ค็อป ลืมไปแล้วว่าทีมเคยมีตอร์เรสอยู่ในทีม

อันดับ 1 : เนมานยา วิดิช

ถือว่าเข้ามาแก้ไขปัญหาความไม่แน่นอนในแนวรับของปีศาจแดงเวลานั้นได้เป็นอย่างดี และค่าตัว 7 ล้านปอนด์ที่ทีมปีศาจแดงยอมจ่ายให้สปาร์ตัก มอสโก ถือว่าคุ้มค่าทีเดียวถ้าเทียบกับความสำเร็จของทีมในรอบหลายปีที่ผ่านมา

การประสานงานของเขากับริโอ เฟอร์ดินานด์ ในพื้นที่อันตรายของทีมถือว่ายอดเยี่ยมถึงขั้นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมกลับมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกถึง 4 สมัย แต่ผลงานที่สำคัญที่สุดของเขาคือการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเมื่อปี 2008 น่าเสียดายที่เขาได้รับบาดเจ็บยาวมาจากปีที่แล้ว จนทีมชวดแชมป์ แสดงให้เห็นว่าเขามีความสำคัญกับทัพเรด เดวิลส์ มากเพียงใด