ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้มีการตกลงที่จะให้ใช้กฎควบคุมการเงินในอนาคตแล้ว อาทิการควบคุมค่าเหนื่อยโดยรวม และจำกัดหนี้โดยรวมไม่ให้สูงเกินไป ซึ่งหากทีมใดไม่ทำตามแล้วนั้น ก็มีสิทธิ์ถูกตัดแต้มได้เลยทีเดียว ด้าน ริชาร์ด สคูดามอร์ ซีอีโอของพรีเมียร์ลีก ระบุ กฎนี้ถูกร่างขึ้นเพื่อไม่ให้มีการทุ่มเงินมากเกินเหตุ จนอาจส่งผลเสียต่อทีมนั้นๆ เอง

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า บรรดาสโมสรในลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ตกลงที่จะให้มีการใช้กฎควบคุมการเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหากทีมใดไม่สามารถทำตามได้แล้วนั้น พวกเขาก็อาจโดนตัดแต้มได้เลยทีเดียว

สำหรับกฎที่มีการตกลงร่วมกันนั้น จะมีกฎหลักๆ อยู่ 2 ข้อ โดยอันแรกคือการจำกัดค่าเหนื่อยของบรรดานักเตะ ที่จะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลหน้า ซึ่งกฎกำหนดว่า หากทีมใดมีค่าเหนื่อยโดยรวมเกิน 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,600 ล้านบาท) แล้วนั้น พวกเขาก็จะสามารถเพิ่มค่าเหนื่อยโดยรวมได้เพียง 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 200 ล้านบาท) ต่อฤดูกาลเท่านั้น ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้

ขณะที่กฎอีกข้อหนึ่ง ก็คือการจำกัดให้แต่ละทีมมีหนี้โดยรวมสูงสุดได้ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 5,250 ล้านบาท) ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ นั่นก็คือปี 2013-16 และหากทีมใดมีหนี้โดยรวมเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้แล้วนั้น พวกเขาก็จะต้องได้รับบทลงโทษทางวินัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงการตัดแต้มด้วย

ทั้งนี้ ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานบริหารของพรีเมียร์ลีก กล่าวว่า กฎดังกล่าวถูกตั้งขึ้นเพื่อปรับปรุงความมั่นคงทางการเงินของสโมสรต่างๆ พร้อมเผยว่า พวกเขาให้กำเนิดกฎนี้ก็เพื่อไม่ให้นักลงทุนคนไหนทุ่มเงินให้กับทีมมากเกินเหตุ จนอาจส่งผลเสียต่ออนาคตของทีมนั้นๆ

"เจ้าของคนใหม่ หรือแม้แต่เจ้าของที่ครอบครองทีมอยู่แล้ว แต่มีทัศนคติ หรือกำลังทรัพย์ที่ต่างไปจากเดิมนั้น สามารถลงทุนตามสัดส่วนด้วยเงินก้อนที่เหมาะสม เพื่อปรับปรุงสโมสรของพวกเขาได้ แต่สิ่งที่พวกเขาจะทำไม่ได้ก็คือการทุ่มเงินก้อนโตในช่วงเวลาสั้นๆ" สคูดามอร์ ระบุ