ปรีวิว ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556

ซันเดอร์แลนด์    -    อาร์เซน่อล

สนาม : สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์

        แมวดำ ของกุนซือ มาร์ติน โอนีล สองนัดหลังผลงานไม่ดี ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ สวอนซี 0-0 และบุกแพ้ เร้ดดิ้ง 1-2 แต่อันดับยังดีอยู่ที่ 12 มีคะแนนห่างจากโซนตกชั้น 8 คะแนน

        สภาพทีมอาจเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะแนวรับจะได้ แดนนี่ โรส กับ การ์ลอส เกยาร์ ฟิตกลับมา จึงเหลือเพียง ลี แคตเทอร์โมล กองกลางกัปตันทีม ที่ยังเจ็บเข่า

        แข้งใหม่ อัลเฟรด เอ็นดิอาย จะลงทำหน้าที่แดนกลางต่อ ขณะที่ แดนนี่ เกรแฮม กองหน้า กับ กาแดร์ ม็องกาเน่ กองหลังยังต้องรอโอกาสอยู่ข้างสนามต่อ

        การจัดทัพ ซิมง มินโญเลต์ เฝ้าเสา แผงหลัง เคร็ก การ์ดเนอร์, การ์ลอส เกยาร์, จอห์น โอเช, แดนนี่ โรส แดนกลาง อดัม จอห์นสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลเฟรด เอ็นดิอาย, แจ็ค โคลแบ็ค, สเตฟาน แซสเซญง หน้าเป้า สตีเว่น เฟล็ทเชอร์

        ทางฝั่ง เดอะ กันเนอร์ส ของกุนซือ อาร์แซน เวนเกอร์ ลงเล่นเกมลีกในบ้านมา 3 นัดติดต่อกัน ชนะ เวสต์แฮม 5-1, เสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 และชนะ สโต๊ค 1-0 ห่างจาก สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 อยู่ 4 แต้มแล้ว

        สภาพทีมมีปัญหาแนวรับ ต้องรอทดสอบความฟิต โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เซนเตอร์ฮาล์ฟที่เจ็บน่องมาจากการเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส ขณะที่ โธมัส แฟร์มาเล่น กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บข้อเท้า ยังพลาดช่วยทีม

        จึงเหลือ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ กองหลังเยอรมันเป็นตัวหลักเซนเตอร์ฮาล์ฟคนเดียว อาจต้องใช้ เซบาสเตียง สกิลลาชี่ กองหลังที่ถูกลืม หรือ อิ๊กนาซี่ มิเกล ดาวรุ่ง ลงเล่นแทน

        คีแรน กิ๊บบ์ส แบ็กซ้ายก็ยังเจ็บต้นขา แต่ได้ตัวใหม่ นาโช่ มอนเรอัล ที่ย้ายมาจาก มาลาก้า ลงประเดิมสนามไปแล้ว และพร้อมทำหน้าที่แทนต่อ

        ข่าวดี ธีโอ วัลค็อตต์ (เท้า), โทมัส โรซิชกี้ (ป่วย), อารอน แรมซี่ย์ (น่อง) และ ฟร็องซิส ก็อกเกแล็ง (เอ็นหลังหัวเข่า) ไม่น่ามีปัญหา ขณะที่ แชร์วินโญ่ กลับมาจากศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แล้ว แต่ยังไม่พร้อม

        การจัดทัพ วอยเช็ก เชสนี่ เฝ้าเสา แผงหลัง บาการี่ ซานญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล คู่กลาง มิเกล อาร์เตต้า กับ แจ็ค วิลเชียร์ แนวรุก ธีโอ วัลค็อตต์, ซานติ กาซอร์ล่า, ลูคัส โพดอลสกี้ หน้าเป้า โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มินโญเลต์ - เคร็ก การ์ดเนอร์, การ์ลอส เกยาร์, จอห์น โอเช, แดนนี่ โรส - อดัม จอห์นสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลเฟรด เอ็นดิอาย, แจ็ค โคลแบ็ค, สเตฟาน แซสเซญง - สตีเว่น เฟล็ทเชอร์

        อาร์เซน่อล : วอยเช็ก เชสนี่ - บาการี่ ซานญ่า, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (เซบาสเตียง สกิลลาชี่), นาโช่ มอนเรอัล - มิเกล อาร์เตต้า, แจ็ค วิลเชียร์ - ธีโอ วัลค็อตต์, ซานติ กาซอร์ล่า, ลูคัส โพดอลสกี้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

        ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์


ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าในใจ ซันเดอร์แลนด์ - อาร์เซน่อล
ผลงานการพบกันที่ซันเดอร์แลนด์ (71 นัด)
- ซันเดอร์แลนด์ชนะ 33 อาร์เซน่อลชนะ 16 เสมอ 22

ประตู :
- ซันเดอร์แลนด์ 129 ประตู เฉลี่ย 1.82 ประตูต่อเกม
- อาร์เซน่อล 85 ประตู เฉลี่ย 1.20 ประตูต่อเกม

- อาร์เซน่อลมีค่าเฉลี่ยเสียประตูในครึ่งแรก 62 เปอร์เซนต์ (ค่าเฉลี่ยสูงสุดในพรีเมียร์ลีก) แต่ว่าพวกเขาเสียประตูในครึ่งหลังน้อยที่สุด (11)
- เกมนัดแรกที่เสมอ 0-0 ในเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อาร์เซน่อลยิงเข้ากรอบแค่ 3 ครั้งจากโอกาสยิงทั้งหมด
- แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ บาดเจ็บที่เอ็นข้อเท้าจากสภาพสนามขุรขระของสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และจังหวะนั้นเองที่ซันเดอร์แลนด์ฉวยโอกาสยิงประตูอาร์เซน่อลได้
- อาร์เซน่อลแพ้ 1 จาก 9 นัดหลังสุดที่มาเยือนภาคอีสาน (ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 1)
- อาร์เซน่อลชนะ 10 แพ้ 1 จาก 18 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบซันเดอร์แลนด์ แต่ว่าฤดูกาลก่อนพวกเขาแพ้ที่นี่ในเกมเอฟเอ คัพ
- ลูคัส โพดอลสกี้ มีส่วนร่วมกับ 10 ประตูจาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก (ยิง 4 แอสซิสต์ 6)
- ซันเดอร์แลนด์ชนะแค่ครั้งเดียวจากการพบกันทีมจากครึ่งบนของตารางคะแนน (ชนะ 1 เสมอ 5 แพ้ 7)

ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านซันเดอร์แลนด์)
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ อาร์เซน่อล 1-2
ผู้ทำประตู : 0-1 เจมส์ แม็คคลีน น.70, 1-1 อารอน แรมซี่ย์ น.75, 1-2 เธียร์รี่ อองรี น.90
181 ก.พ.2012 : ผู้ตัดสิน : นีล สวาร์บริค

เซาธ์แฮมป์ตัน   -  แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สนาม : เซนต์ แมรี่ส์ สเตเดี้ยม

        ทีมนักบุญ ของกุนซือใหม่ เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ชาวอาร์เจนไตน์ คุมทีมไปแล้ว 3 นัด เสมอ 2 แพ้ 1 เกมล่าสุดบุกเสมอ วีแกน 2-2 อยู่อันดับ 16 มีแต้มมากกว่าโซนตกชั้น 3 คะแนน

        สภาพทีม ลุค ชอว์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 17 ปี บาดเจ็บเส้นเอ็นเข่า ต้องทดสอบความฟิต ขณะที่ เนธาเนียล ไคลน์ แบ็กขวาที่ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษชุดเล็ก ก็อาจไม่พร้อม

        กาสตอน รามิเรซ มิดฟิลด์อุรุกวัย กับ กูลี่ โด ปราโด้ กองหน้าบราซิล ก็มีปัญหาบาดเจ็บและความฟิตเช่นกัน ขณะที่ โชเซ่ ฟอนเต้ เซนเตอร์ฮาล์ฟตัวหลักก็ยังเจ็บเข่า

        แต่จะได้ อดัม ลัลลานา กองกลางกัปตันทีม ฟิตกลับมาเป็นตัวจริงเกมแรกนับตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ปีที่แล้ว ขณะที่กองหลังตัวใหม่ เวการ์ด ฟอร์เรน อาจมีชื่อประเดิมสนาม

        การจัดทัพ อาร์เทอร์ โบรุช เฝ้าเสา แผงหลัง แจ็ค คอร์ค, มายะ โยชิดะ, ยอส ฮอยเฟลด์, แดนนี่ ฟ็อกซ์ แดนกลาง สตีเว่น เดวิส, มอร์กก็อง ชไนเดอร์ลิน, อดัม ลัลลานา แนวรุก เจสัน ปันเชียน, เจย์ โรดริเกซ และ ริคกี้ แลมเบิร์ต

        ทางฝั่ง เรือใบสีฟ้า เกิดเครื่องสะดุดในสองนัดหลัง บุกเสมอ ควีนส์ปาร์ค 0-0 และเปิดบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล 2-2 ทำให้ถูกจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทิ้งห่างเป็น 9 คะแนนแล้ว

        สภาพทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ยังคงไร้ แว็งซ็องต์ ก็อมปานี เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมที่เจ็บน่อง แต่น่าจะกลับคืนทีมในเกมเอฟเอ คัพ รอบ 5 กับ ลีดส์ สัปดาห์หน้า

        ข่าวดีคือการได้สามนักเตะทีมชาติไอวอรี่โคสต์กลับมาแล้ว ทั้ง ยาย่า ตูเร่, โคโล่ ตูเร่ และ อับดุล ราซัค หลังจากทีมชาติตกรอบก่อนรองชนะเลิศ แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ แต่ก็ต้องรอเช็กความฟิตด้วย

        การจัดทัพ โจ ฮาร์ท เฝ้าเสา แผงหลัง ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ แดนกลาง ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์ แนวรุก ดาบิด ซิลบา, เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

        เซาธ์แฮมป์ตัน : อาร์เทอร์ โบรุช - แจ็ค คอร์ค, มายะ โยชิดะ, ยอส ฮอยเฟลด์, แดนนี่ ฟ็อกซ์ - สตีเว่น เดวิส, มอร์กก็อง ชไนเดอร์ลิน, อดัม ลัลลานา - เจสัน ปันเชียน, เจย์ โรดริเกซ, ริคกี้ แลมเบิร์ต

        แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, มาติย่า นาสตาซิช, โจเลียน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์ - ดาบิด ซิลบา - เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้

        ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ๊ตกินสัน


ข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าในใจ เซาธ์แฮมป์ตัน - แมนฯ ซิตี้
ผลงานการพบกันที่เซาธ์แฮมป์ตัน (38 นัด)
- เซาธ์แฮมป์ตันชนะ 18 แมนฯ ซิตี้ชนะ 10 เสมอ 10

ประตู :
- เซาธ์แฮมป์ตัน 57 ประตู เฉลี่ย 1.50 ประตูต่อเกม
- แมนฯ ซิตี้ 43 ประตู เฉลี่ย 1.13 ประตูต่อเกม

- เซาธ์แฮมป์ตันเป็นทีมที่ทำแต้มหล่นจากเกมที่นำคู่แข่งไปก่อนมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (24)
- เกมนัดแรกที่พบกัน ปรากฎว่าเซาธ์แฮมป์ตันทำได้ทั้ง 2 ประตูจากโอกาสยิงเข้ากรอบแมนฯ ซิตี้แค่ 2 ครั้ง
- เอดิน เชโก้ ยิงได้ 5 ประตูจาก 6 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก
- ริคกี้ แลมเบิร์ต ยิงได้ 5 ประตูจาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีก แต่ว่าทั้งหมดเกิดขึ้นจากการเล่นนอกบ้าน
- เซาธ์แฮมป์ตันมีค่าเฉลี่ยยิงเข้ากรอบแค่ 40.2 เปอร์เซนต์ในฤดูกาลนี้ (น้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก)
- เซาธ์แฮมป์ตันไม่ชนะจากการพบกับทีมอันดับครึ่งบนของตารางคะแนน (เสมอ 5 แพ้ 8)
- แมนฯ ซิตี้ชนะ 9 เสมอ 1 จาก 10 นัดหลังสุดที่พบกับทีมจาก 8 อันดับท้ายของตาราง
- แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่เปิดโอกาสให้คู่แข่งยิงเข้ากรอบน้อยที่สุดในฤดูกาลนี้ (65)
- 6 จาก 8 นัดหลังสุดในพรีเมียร์ลีกของเซาธ์แฮมป์ตันจบลงด้วยการเสมอ (ชนะ 1 เสมอ 6 แพ้ 1) ขณะที่แมนฯ ซิตี้เสมอรวดจาก 2 นัดหลังสุด

 ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา (ที่บ้านเซาธ์แฮมป์ตัน)
- ไม่ได้พบกัน

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
19.45 น. สเปอร์ส - นิวคาสเซิ่ล
22.00 น. เชลซี - วีแกน  
22.00 น. นอริช - ฟูแล่ม
22.00 น. สโต๊ค ซิตี้ - เร้ดดิ้ง
22.00 น. ซันเดอร์แลนด์ - อาร์เซน่อล
22.00 น. สวอนซี - ควีนส์ปาร์ค
00.30 น. เซาธ์แฮมป์ตัน - แมนฯ ซิตี้