จากเด็กเกรียนนอกสนาม สู่ไอคอนคนใหม่
Posted 22/03/2013 by goal.com
บางทีเราคงต้องยอมรับเสียที ว่าความทรงจำแบบเกรียนๆ ที่เคยมีต่อบาโลเตลลีกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว และเซซาเร โปเลงกี จะอธิบายให้ฟังว่าเป็นเพราะอะไร
เราเคยได้ยิน และเคยได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับมาริโอ บาโลเตลลี มามากแล้วว่า ผู้คนมักหลงลืมไปว่าเขาอายุเพียง 22 ปี เท่านั้น ใครก็ตามที่สนใจเรื่องฟุตบอล หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้สนใจ ดูเหมือนจะตื่นเต้นไปกับเรื่องราวเพี้ยนๆ ของเขานอกสนาม มากกว่าจะสนใจเรื่องทักษะของเขาในฐานะนักฟุตบอล ถึงขั้นที่มักจะลืมไปว่าเขาเป็นนักเตะที่น่าอัศจรรย์เพียงใด
มันอาจจะน่าประหลาดใจมากยิ่งขึ้นไปอีก หากเรารู้ว่าดาวรุ่งที่ถือกำเนิดในปาแลร์โมรายนี้ช่วยต้นสังกัดของเขาในอดีต ทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอินเตอร์ มิลาน คว้าแชมป์ทั้งในอิตาลี, อังกฤษ รวมถึงบนเวทียุโรป รวมแล้ว 9 รายการด้วยกัน
ประตูสุดสวยของเขาในเกมกับบราซิลที่เจนีวาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาชวนให้เราหวนไประลึกถึงประตูประวัติศาสตร์ของเขาในเกมกับเยอรมันเมื่อตอนยูโร 2012 ซึ่งส่งผลให้เขากลายเป็นตำนานเล่าขานในทีมอัซซูรีไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าทุกสิ่งยังเป็นไปตามอย่างที่มันเป็น (หรือบางทีอาจจะดีขึ้นกว่านี้) บาโลเตลลีน่าจะเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันในแนวรุกของอิตาลีไปอีก 10 ปี นั่นหมายความว่าเขาน่าจะมีส่วนร่วมในฟุตบอลโลกอีก 2-3 ครั้ง ต่อจากนี้ไป
บาโลเตลลีคือข่าวดีของอิตาลี หรือแม้กระทั่งสำหรับมิลานและเซเรีย อา แน่นอนว่าเขาคือการลงทุนครั้งใหญ่ของรอสโซเนี (รวมทั้งหมดค่าตัวของเขาตกอยู่ราวๆ 70 ล้านยูโร) แต่การกลับมายังเมืองมิลานของเขาส่งผลอย่างมากต่อการคืนฟอร์มของทีมปีศาจแดงดำ ทั้งยังเพิ่มคุณภาพและความน่าสนใจให้ศึกชิงความเป็นใหญ่แห่งแดนมะกะโรนีซึ่งกำลังตกต่ำอยู่ในตอนนี้มากขึ้นอีกโขทีเดียว
ตัวเลขไม่เคยโกหก ใน 6 เกมกับมิลาน บาโลเตลลีทำไปได้ทั้งสิ้น 7 ประตู ค่าเฉลี่ยสุดวิเศษนี้ช่วยให้แฟนบอลรอสโซเนรีลืมการจากไปของซลาตัน อิบราฮิโมวิชไปได้มากทีเดียว
เขาดีกว่าดาวยิงสวีดิชแล้วหรือเปล่า? ถ้าจะว่ากันตามข้อเท็จจริง บาโลเตลลีเป็นนักเตะคนละประเภทกับอิบรา เขารู้ดีกว่าจะตัดสินเกมอย่างไรเมื่อถึงเวลาชี้เป็นชี้ตาย ตอนอยู่ที่อินเตอร์ มิลาน เขาทำประตูคู่ปรับตัวฉกาจอย่างยูเวนตุสได้ไม่น้อย ตอนอยู่ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขาส่งบอลให้เซร์คิโอ อเกวโร ยิงประตูคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ส่วนกับทีมชาติอิตาลี อย่างที่อ้างถึงไปแล้วในตอนต้น เขาพาทีมไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป เมื่อหน้าร้อนปีที่แล้ว ด้วยการทำสองประตูแห่งความทรงจำในเกมกับเยอรมัน
ในสโมสรเอซี มิลาน นี่เป็นครั้งแรกที่บาโลเตลลีจะได้เป็นตัวหลักของทีม หลังจากต้องตกอยู่ใต้ร่มเงาของดาวดังอย่างเอโต้ หรือเตเบซ มานานหลายปี ความสำเร็จที่ผ่านมาของเขาขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่เห็นได้ชัดอยู่ประการหนึ่งว่า ในเมืองมิลานที่เขารักนี่เอง เป็นครั้งแรกที่เด็กเจ้าปัญหาจะได้พบแหล่งพักพิงที่มั่นคงซึ่งเขามองหามานาน
มิลานเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดในโลก หากเราพูดถึงการปกป้องนักเตะของพวกเขา และนั่นต้องขอบคุณการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยมของ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี กับ เอเดรียโน กัลเลียนี รวมถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของพวกเขากับสื่อมวลชน (ซึ่งหลายๆ แห่ง เป็นของแบร์ลุสโคนีเสียเองเลยด้วยซ้ำ!) เราจึงมั่นใจได้ว่าบาโลเตลลีจะได้รับการคุ้มครองจากข่าวทางลบ, ปาปารัซซีและบรรดาเรื่องซุบซิบนินทาทั้งหลาย เราคงต้องคารวะเอเยนต์ของเขาอย่าง มิโน ไรโอลา ด้วย ที่เลือกเปิดการเจรจาย้ายทีมครั้งนี้ เพื่อปกป้องชีวิตค้าแข้งของลูกรักของเขา
ความสำเร็จในอนาคตของทั้งเอซี มิลาน และทีมชาติอิตาลี คงต้องขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทั้งในและนอกสนาม ระหว่างบาโลเตลลีกับอีกหนึ่งดาวรุ่งจากรั้วรอสโซเนรี อย่าง สเตฟาน เอล ชาราวี เป็นส่วนใหญ่ ถ้าทั้งสองสามารถหาจุดสมดุลทั้งในฐานะนักเตะและความเป็นเพื่อนกันได้ เราก็จะได้คู่ขาซึ่งมีแนวโน้มเป็นตำนานได้เลยทีเดียว
นอกจากเรื่องฟุตบอลแล้ว ทั้งบาโลเตลลีและเอล ชาราวี ยังมีบทบาททางสังคมที่สำคัญต่อการเติบโตของสังคมอิตาลี ทั้งคู่เป็นคนแอฟริกันโดยกำเนิด (มาริโอ มีเชื้อสายกานา ขณะที่เอล ชาราวี มีพ่อแม่เป็นอียิปต์) ซึ่งจะทำให้พวกเขากลายเป็นนายแบบรณรงค์เรื่องต่อต้านการเหยียดผิวได้เป็นอย่างดี
การอพยพของชาวแอฟริกันเข้าไปอยู่ในอิตาลีคือปรากฏการณ์ทางสังคมในยุค 1980s หลังจากที่ผ่านหลายทศวรรษแห่งการถูกเหยียดหยามและพบกับปัญหา ในที่สุดฟุตบอลจะกลายเป็นทางออกที่สำคัญสำหรับพวกเด็กอิตาลีที่มีเชื้อสายแอฟริกันพวกนี้ โดยมีมิลานเป็นต้นแบบของความสำเร็จ
เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ โชเซ มูรินโญ เคยระบุถึงบาโลเตลลีไว้ในบทสัมภาษณ์ว่า “บางครั้งบาโลเตลลีก็ไม่รู้ว่าควรจะใช้สมองของเขาอย่างไร” มาถึงตอนนี้ เมื่อบาโลเตลลีกลับกลายเป็นผู้นำทีมในเกมชนะปาแลร์โม เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เราคงจะต้องยอมรับกันเสียทีว่า ความทรงจำถึงคืนวันเหล่านั้นมันจากไปเสียแล้ว และทั้งมิลานรวมถึงอิตาลีกำลังจะมีไอคอนคนใหม่ให้เราได้ติดตามกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
มาย ฮาเร็ม ส่งภาพเขย่าโซเชียล นุ...
เจนนี่ ธมนภัค พริตตี้สุดฮอต นุ่ง...
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
คลิปไฮไลท์