"กระทิงดุ" สเปน ผลงานเกิดสะดุดเสียแล้วหลังเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอ ฟินแลนด์ 1-1 แบ่งไปทีมละแต้มส่งผลให้ สเปน ต้องตกมาอยู่อันดับ 2 โดยมี "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่เก็บชัยได้ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ในศึกฟุตบอลโลก รอลคัดเลือก (โซน ยุโรป กลุ่มไอ.) เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา

 

ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก

(โซนยุโรป กลุ่ม ไอ.)

วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2556

สเปน 1   -   1 ฟินแลนด์

สนาม: เอสตาดิโอ เอล โมลีน่อน (คิฆอน, สเปน)    ผู้ชม: 28,000 คน

         "กระทิงดุ" ทีมชาติสเปน รั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ไอ. ร่วมกับ ฝรั่งเศส มีทั้งหมด 7 คะแนน จากการลงสนามทั้งหมด 3 นัด

        เกมนี้ สเปน ไม่มี การ์เลส ปูโยล ปราการหลังจอมเก๋าวัย 34 ปี จากบาร์เซโลน่า ที่เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า รวมไปถึง อีเกร์ กาซียาส นายทวารมือหนึ่งและกัปตันทีม เนื่องจากเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัดกระดูกข้อมือที่หัก

        ตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้นใช้ บิคตอร์ บัลเดส นายทวารจากสโมสรบาร์เซโลน่า ลงเฝ้าเสา แนวรับให้ เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังวัย 26 ปี ลงสนามเป็นเกมที่ 100 ให้กับทีมชาติสเปน โดยยืนเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟเคียงข้างกับ เคราร์ด ปีเก้

        สามประสานแดนหน้าดัน อันเดรส อิเนียสต้า ขึ้นมาผนึกกำลังร่วมกับ ดาบิด บีย่า และ ดาบิด ซิลบา

        ทาง "ฟลายอิ้ง ฟินน์" ทีมชาติฟินแลนด์ ต้องปราศจาก อเล็กเซ เอเรเมนโก้ มิดฟิลด์ตัวเก่งวัย 29 ปี ที่ติดโทษแบน ส่งผลให้ ตีมู เตนิโอ ได้ลงสนามเป็นนัดที่ 55 ให้กับฟินแลนด์ โดยหน้าเป้าวาง ตีมู พุคคี่ ลงสังหาร

        เปิดเกมครึ่งแรกมาได้แค่ 6 นาที เจ้าบ้านเดินเครื่องบดทันทีมีโอกาสก่อนจากจังหวะที่ อิเนียสต้า จ่ายให้กับ เชส ฟาเบรกาส หวดด้วยขวาบอลหลุดเสาสองไป

        ผ่านมา 20 นาที ทัพกระทิงได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ดาบิด บีย่า ไหลบอลให้กับ อันเดรส อิเนียสต้า กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลตรงกรอบ แต่ไม่ผ่านมือของ นิคกิ มาเอนปา นายทวารฟินแลนด์

        สามนาทีให้หลัง สเปน ได้โอกาสอีก ซานติ กาซอร์ล่า ยิงด้วยขวา คารี อาร์คิวูโอ พุ่งเข้าขวางไว้บอลทะลักออกหลังไป

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 29 ฟินแลนด์ มีโอกาสครั้งแรกจากจังหวะที่ โรมัน เอเรเมนโก้ ลากมาซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

        สิบนาทีต่อมา สเปน ขึ้นเกมมาทาง ดาบิด บีย่า เปิดบอลให้กับ อิเนียสต้า กระทุ้งเต็มเท้าขวาจากแถวสองบอลแฉลบ คาสเปอร์ ฮามาไลเน่น ออกหลังไป หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0

        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง สเปน แก้เกมด้วยการเปลี่ยนเอา เปโดร โรดริเกซ ลงมาเล่นแทน ซานติ กาซอร์ล่า

        เกมสเปนดีขึ้นมาทันทีและมาได้ประตูนำไปก่อนจนได้จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เปิดลูกเตะมุมจากทางด้านขวาโค้งมาเสาสองให้ เซร์คิโอ รามอส ทะยานขึ้นโหม่งบอลย้อนศรเสียบเสาแรกเข้าไปสุดงามให้ กระทิงดุนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 49 และเป็นการทำประตูฉลองการลงสนามเป็นเกมที่ 100 ให้กับทีมชาติสเปนได้พอดี

        พอได้ประตูนำ สเปน คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น มีโอกาสอีกในนาทีที่ 57 เมื่อ เชส ฟาเบรกาส โขกตั้งให้กับ เซร์คิโอ รามอส วิ่งมาหวดจากนอกเขตโทษบอลเฉี่ยวเสาซ้ายออกไป

        หนึ่งชั่วโมงของเกมการแข่งขัน ทีมเยือนได้โอกาสบ้างจากจังหวะที่โต้กลับเร็วขึ้นมาทาง โรมัน เอเรเมนโก้ จ่ายให้กับ ตีมู พุคคี่ หวดด้วยขวาบอลหลุดเสาไกลไป

        กระเถิบมานาทีที่ 69 ฟินแลนด์ ปรับแท็คติกส่ง ทิม สปาร์พ ลงมาเล่นแทน ตีมู เตนิโอ ส่วน สเปน ถอด เชส ฟาเบรกาส ออกแล้วให้ ฆวน มาต้า เล่นแทนในนาทีที่ 76

        อย่างไรก็ตามนาทีที่ 79 ทีมเยือนไล่ตามตีเสมอได้อย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ ริง เปิดจากทางด้านซ้ายให้กับ ตีมู พุคคี่ สอดมาชาร์จด้วยขวาเข้าเสาแรกไปสุดสวยช่วยให้ ฟินแลนด์ ตีเสมอ 1-1 ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

        เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม สเปน ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอกับ ฟินแลนด์ ไป 1-1 แบ่งแต้มกันไป ส่งผลให้ สเปน ต้องตกมาอยู่อันดับ 2 ของตารางโดยมี "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่เก็บชัยได้ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของกลุ่ม ซึ่ง กระทิงดุ จะบุกปะทะ ตราไก่ ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ ในบิ๊กแมตช์บอลโลกคืนวันอังคาร 26 มีนาคมนี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

        สเปน:บิคตอร์ บัลเดส - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), เคราร์ด ปีเก้, จอร์ดี้ อัลบา - ซานติ กาซอร์ล่า, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เชส ฟาเบรกาส - อันเดรส อิเนียสต้า, ดาบิด บีย่า, ดาบิด ซิลบา

        สำรอง:โฆเซ่ เรน่า (ผู้รักษาประตู) - ดาบิด เด เคอา (ผู้รักษาประตู) - ราอูล อัลบิโอล, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, นาโช่ มอนเรอัล, ฆาบี การ์เซีย, อีสโก้, ฆวน มาต้า, ชาบี อลอนโซ่, เฆซุส นาบาส, อัลบาโร่ เนเกรโด้, เปโดร โรดริเกซ

        ฟินแลนด์:นิคกิ มาเอนปา - ยุคก้า ไรตาล่า, นิคลาส มอยซานเดอร์ (กัปตันทีม), ยูนา ตอยวิโอ, คารี อาร์คิวูโอ - โรมัน เอเรเมนโก้, คาสเปอร์ ฮามาไลเน่น, เพอร์พาริม เอเตมาจ, อเล็กซานเดอร์ ริง, ตีมู เตนิโอ - ตีมู พุคคี่

        สำรอง:ลูคัส ฮราเด็คกี้ (ผู้รักษาประตู) - เยสเซ่ โยโรเน่น (ผู้รักษาประตู) - ทิม สปาร์พ, เปาลุส อราอูรี่, มาร์คุส ฮัลสติ, ราสมุส ชูลเลอร์, ริคู ริสกิ, โทนี่ โคเลห์ไมเน่น, เพ็ตเตรี่ ฟอร์เซลล์, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์, นาซี่ คูกิ, ยาร์คโค่ ฮูร์เม่

        ผู้ตัดสิน:โอวิดิอู อาลิน ฮาเตกาน (โรมาเนีย)