ซามี่ ฮูเปีย อดีตโคตรปราการหลังของ ลิเวอร์พูล ยกให้การเซ็นสัญญากับ "หงส์แดง" คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของตน ระบุ ช่วงที่ได้อยู่ค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ คือช่วงที่ตนสุขีสุดๆ พร้อมรับ การเป็นกุนซือคืองานที่โหดกว่าเป็นนักเตะเยอะ หลังตอนนี้เขารับหน้าที่กุมบังเหียน เลเวอร์คูเซ่น ร่วมกับ ซาช่า เลวานดอฟสกี้

 ซามี่ ฮูเปีย ตำนานกองหลังของ ลิเวอร์พูล สโมสรดังแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งปัจจุบันเป็นเทรนเนอร์ของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ยอดทีมของศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน คู่กับ ซาช่า เลวานดอฟสกี้ กล่าวว่า การได้เซ็นสัญญากับ "หงส์แดง" นั้น นับเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของตนเลยทีเดียว

อดีตปราการหลังทีมชาติฟินแลนด์ เซ็นสัญญาย้ายจาก วิลเล่ม ทเว ทีมในศึกเอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ ไปค้าแข้งในถิ่น แอนฟิลด์ เมื่อปี 1999 และเขาก็ทำผลงานได้ดี จนกลายเป็นหนึ่งในขวัญใจของบรรดา "เดอะ ค็อป" โดยเขาลงเล่นให้ทีมในทุกรายการไปทั้งหมด 460 นัด และคว้าแชมป์กับทีมได้หลายรายการ ก่อนจะบอกลา "หงส์แดง" ในปี 2009 เพื่อมาอยู่กับ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่ง ฮูเปีย เปิดอกว่า ตนมีความสุขสุดๆ ในช่วงที่อยู่กับ ลิเวอร์พูล

อดีตแข้งวัย 39 ปี ให้สัมภาษณ์กับ "บีบีซี" สื่อชื่อก้องของเมืองผู้ดีว่า "วันที่ผมเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล คือวันที่ผมจะไม่มีทางลืมไปชั่วชีวิต เพราะ ลิเวอร์พูล เป็นทีมโปรดของผมในตอนที่ผมยังเป็นเด็ก และมันก็คือฝันที่เป็นจริงเลย (ที่ได้มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล) ผมอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน แต่ก็ต้องบอกลาเพื่อนๆ ในเวลาต่อมา มันสะเทือนอารมณ์นิดๆ เลยล่ะ"

  "ตอนนี้ผมคิดว่า ชีวิตการค้าแข้งของผมกับ ลิเวอร์พูล คือช่วงที่ผมมีความสุขมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนบอล ผมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล อยู่เสมอ ผมเดาว่า พวกเขาคงเห็นว่า ผมพยายามเล่นให้ดีที่สุดอยู่เสมอเวลาที่ได้ลงสนาม แต่ผมก็เคยทำพลาดเหมือนกัน และหวังว่า พวกเขาจะยกโทษให้ผมสำหรับความผิดพลาดเหล่านั้น ก็หวังว่า ผมจะทำความดีมากกว่าทำพลาดล่ะนะ" ฮูเปีย ระบุ

  ฮูเปีย ยอมรับด้วยว่า การเป็นกุนซือนั้น คืองานที่ยากกว่าการเป็นผู้เล่นเยอะ เพราะการคุมทีมต้องมีการวางแผนหลายอย่างด้วยกัน "การเป็นนักเตะมันค่อนข้างง่ายเลยล่ะ แต่งานนี้ (การเป็นเทรนเนอร์) มันหนักหนาสาหัสกว่ากันเยอะ"

  "มันค่อนข้างน่าตลกกับการที่คุณมาอยู่อีกฝั่งหนึ่งเพื่อดูว่า คุณต้องทำงานกับทั้งภายในทีม, ภายนอกทีม, วางแผนสำหรับฤดูกาลการแข่งขัน, ช่วงปรี-ซีซั่น และทุกๆ การซ้อมหนักแค่ไหน แต่ในฐานะนักเตะนั้น คุณจะโผล่มาที่สนามซ้อมในช่วงครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะลงซ้อม และจะมีคนคอยบอกคุณว่า คุณต้องทำอะไร แล้วจากนั้นคุณก็อาบน้ำ และค่อยกลับบ้าน" อดีตยอดกองหลังชาวฟินแลนด์ เปิดอก