บรรดาทีมในศึกพรีเมียร์ลีก มีมติส่วนใหญ่ให้เอากฎควบคุมการเงินแบบใหม่มาใช้เป็นที่เรียบร้อย โดยหลักๆ จะเป็นการจำกัดค่าเหนื่อยโดยรวมของนักเตะ และบังคับให้แต่ละสโมสรขาดทุนได้ไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ ซึ่งหากทีมไหนไม่ทำตาม ก็มีโอกาสที่จะถูกตัดแต้มเพื่อเป็นการลงโทษ

เหล่าสโมสรในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีมติลงคะแนนเสียงให้มีการเอากฎควบคุมการเงินแบบใหม่มาใช้กับลีกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา เพื่อที่จะเป็นการพยายามแก้ไขปัญหาของการใช้เงินมากเกินไป

ทั้งนี้ กฎแบบใหม่จะกำหนดให้แต่ละทีมสามารถเพิ่มค่าเหนื่อยโดยรวมของนักเตะได้จนถึงกรอบที่จำกัดเอาไว้เท่านั้น ซึ่งอยู่ที่ 52 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,340 ล้านบาท) และจะเริ่มขึ้นในฤดูกาลหน้า โดยหากทีมใดมีค่าเหนื่อยโดยรวมเกินกว่ากรอบดังกล่าวแล้วนั้น พวกเขาก็จะได้รับอนุญาตให้เพิ่มค่าเหนื่อยในอีก 3 ปีข้างหน้าได้มากที่สุดแค่ 4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 180 ล้านบาท) เท่านั้น

นอกจากนี้ กฎควบคุมการเงินแบบใหม่ยังบังคับให้ทุกๆ สโมสรต้องขาดทุนไม่เกิน 105 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,725 ล้านบาท) ในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ด้วย ซึ่งในช่วง 3 ปีหลังสุดนั้น ทีมที่ขาดทุนเกินกรอบดังกล่าวมีทั้งหมด 4 ทีม ประกอบด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เชลซี, แอสตัน วิลล่า และ ลิเวอร์พูล

อย่างไรก็ตาม หลายสโมสรเห็นพ้องต้องกันว่า กำไรใดๆ ก็ตามที่ได้จากการขายนักเตะนั้น จะไม่ถูกนำมารวมกับกฎการจำกัดการจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะ โดยฝ่ายที่ลงชื่อเห็นด้วยกับกฎนี้มีทั้งหมด 14 สโมสร ขณะที่อีก 5 ทีมลงชื่อคัดค้าน และมีอีก 1 สโมสรที่งดออกเสียง ซึ่ง ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานบริหารของพรีเมียร์ลีก เคยประกาศเอาไว้แล้วว่า หากสโมสรใดไม่ทำตามกฎนี้แล้วนั้น พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะถูกตัดแต้มได้เลยทีเดียว